นับตั้งแต่แอลพีจีเอทัวร์เปิดฤดูกาล 2008 เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพื้นที่ของสวิงสาวเชื้อสายอเมริกันจะไม่ค่อยได้ถูกประทับชื่อในฐานแชมป์สักเท่าไรนักจากการแข่งขัน 18 รายการซึ่งรวมเมเจอร์อีกสามรายการเข้าไปด้วย มีนักกอล์ฟสตรีติดธงชาติสหรัฐฯ คว้าแชมป์มาครองได้เพียงสามรายอันประกอบไปด้วย พอลล่า เครเมอร์ ที่ครองสองโทรฟี่จากฟีลด์ โอเพ่น และ เซมกรุ๊ป แชมเปี้ยนชิป ขณะที่ เลต้า ลิดลี่ย์ คว้าแชมป์ก่อนปิดครึ่งฤดูกาลมาครองกับ แอลพีจีเอ คอร์นนิ่ง คลาสสิก ส่วนผลงานระดับเมเจอร์นั้นกลายเป็นว่าโปรสาวจากชาติอื่นเป็นผู้คว้าแชมปไปครองทั้งสิ้น
เริ่มจากรายการแรกของฤดูกาลอย่าง คราฟ นาบิสโก้ แชมเปี้ยนชิป ที่ตกเป็นของโปรสาวหมายเลขหนึ่งโลก ลอเรน่า โอชัว ขณะที่ แชมป์แมคโดนัลด์ แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิปได้แก่ เชง ยานี่ และล่าสุดกับผลงานอันสุดลือลั่นของโปรสาววัยเพียง 19 ปีชาวเกาหลีใต้ ปาร์ค อินบี ที่ทำสกอร์พลิกกลับในวันสุดท้ายมาคว้าแชมป์เมเจอร์ยูเอส วีเม่นส์ ไปครองชนิดเบียดโปรสาวความหวังเจ้าถิ่นสองรายอันได้แก่ พอลล่า เครเมอร์ กับ สเตซี่ ลิวอิสตกขอบ
ด้วยความที่รายการอันถือเป็นหน้าเป็นตาของวงการกอล์ฟหญิงในสหรัฐฯ ต้องตกเป็นของนักกอล์ฟต่างชาติอีกครั้งทำให้สื่อมวลชนในสหรัฐฯต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานและฝีมือสวิงสาวชาวอเมริกันที่ระยะหลังต่ำกว่ามาตรฐานและมองว่าหลายรายไปสนใจเรื่องนอกสนามหรือทำมาค้าขายส่วนตัวเสียมากกว่า
ในฤดูกาล 2007 นั้นผู้ครองแชมป์รายการยูเอส วีเม่นส์ โอเพ่น คือโปรสาวสัญชาติอเมริกันอย่าง คริสตี้ เคอร์ร โดยก่อนหน้านี้สองปีรายการอันเป็นพื้นที่ที่เคยถูกสวิงสาวอินทรีย์ครองมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1968 – 1986 ก่อนที่เหล่าโปรสาวจากยุโรป และออสเตรเลียจะขอเข้ามาแบ่งพื้นที่ เช่นเดียวกับสวิงจากแดนกิมจิ ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้
หากมองไปใน คลับเฮ้าส์ ณ เวลานี้จะพบว่าโปรชาวสหรัฐฯที่พอจะเป็นความหวังใหม่ของวงการคงหนีไม่พ้น สเตซี่ ลิวอิส พอลล่า เครเมอร์ และ มอร์แกน เพรสเซิล ที่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองได้สำเร็จเมื่อมีอายุได้เพียง 18 ปี 313 วันทำให้เวลานั้นเธอได้สร้างประวัติศาสตร์กับตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ที่มีอายุน้อยที่สุดของวงการ แต่ดูเหมือนว่าวันสุดท้ายขอ เพรสเซิล ในสนามอินเตอร์ลาเคน ไม่ค่อยน่าประทับใจนักด้วยอันดับที่ 17 ร่วมขณะที่เพื่อนร่วมชาติอย่าง ลิวอิส และ เครเมอร์ มีลุ้นถึงแชมป์ในวันสุดท้าย
โดยการดวลสวิงในรอบสุดท้ายบนสนามอินเตอร์ลาเค่นทั้ง สเตซี่ ลิวอิส และ พอลล่า เครเมอร์ กลายสองนักกอล์ฟหญิงอเมริกันคู่แรกในรอบ 5 ปีที่สามารถเข้าไปลุ้นได้ถึงตำแหน่งแชมป์ก่อนที่สองสาวจะโชว์ฟอร์มเก่งของตนเองไม่ออกทำให้ ลิวอิสที่เป็นผู้นำในวันที่สามร่วงไปอยู่อันดับที่สามร่วม ส่วน เครเมอร์ ที่อยู่อับดับสองของวันที่สามก็ร่วงไปจบที่อันดับ 6 ร่วมเช่นกัน
ถึงเวลานี้ยังมีการแข่งขันเมเจอร์ในแอลพีจีเอเหลืออีกหนึ่งทัรว์นาเม้นท์ให้ได้ชิงชัย กับรายการริโคห์ วีเม่นส์ บริทิช โอเพนที่ ซันนิ่งดัล ซึ่งจะทำการแข่งขันในปี 4 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ดูเหมือนว่าสวิงสาวชาวสหรัฐฯจะมีโอกาสน้อยมากที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ ที่ผ่านมาโปรสาวชาวสหรัฐฯ นั้นคว้าแชมป์เมเจอร์ได้อย่างน้อย 30 ครั้งในทุกรอบ 10 ปี แต่สำหรับทศวรรษนี้พวกเธอทำได้เพียง 8 ครั้งเท่านั้น
เมื่อการแข่งขันยูเอส วีเม่นส์ โอเพ่น 2008 จบลงถึงเวลานี้เหลือเมเจอร์ในแอลพีจีเอทัวร์ให้ได้ชิงชัยอีกเพียงรายการเดียว วีเม่นส์ บริทิช โอเพ่นที่กำลังจะระเบิดศึกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า บรรดาสื่อในสหรัฐฯ ต่างจับตามองกันว่า จะมีนักกอล์ฟสาวชาวอเมริกันคนใดจะสามารถทะลุขึ้นมาคว้าแชมป์เมเจอร์ในฤดูกาลนี้ได้เป็นรายแรก
ที่น่าจับตาเห็นจะเป็นสาวเท็กซัส อย่าง สเตซี่ ลิวอิส ที่แม้ผลงานบนสนามอินเตอร์ลาเค่น จะไม่ถึงแชมป์แต่ก็สามารถขึ้นมาครองตำแหน่งผู้นำได้ในวันที่สามและก่อนหน้านี้ในปี 2007 เธอจบด้วยอันดับที่ 5 ของการแข่งขันเมเจอร์รายการคราฟ นาบิสโก แชมเปี้ยนชิป ขณะที่พอลล่า เครเมอร์ โปรสาวัย21 ปีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกอล์ฟหญิงฝีมือดีของแอลพีจีเอที่ยังไม่ได้ครองแชมป์เมเจอร์ และในครั้งนี้ดูเธอจะมีโอกาสได้สัมผัสกับตำแหน่งดังกล่าวใกล้มากที่สุดแต่ก็ทำได้ไม่สำเร็จทำให้สื่อในสหรัฐฯนั้นวิพากษ์ว่า เครเมอร์ระยะหลังเน้นขายของมากกว่าฝีมือ
โดยก่อนหน้านี้มีการคาดคะเนว่า พอลล่า เครเมอร์ จะกลายเป็นนักกอล์ฟหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกแทนที่ แอนนิก้า โซเรนสตัม แต่ในวันนี้ เมื่ออดีตโปรหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกเตรียมอำลาวงการในหลังจบฤดูกาล 2008 มือหนึ่งของโลกกลับกลายเป็นของโปรสาววัย 26 ปี ชาวเม็กซิกันอย่าง ลอเรน่า โอชัว ผู้ที่โลดแล่นอยู่ทัวร์นาเม้นท์อาชีพของแอลพีจีเอมากกว่า เครเมอร์ เพียงแค่สองปี แต่สามารถคว้าแชมป์มาได้แล้ว 23 ครั้งรวมไปถึงถ้วยเมเจอร์สองสมัย ทำให้ชื่อของเธอได้รับการบันทึกอยู่ในหอเกียรติยศเป็นที่เรียบร้อย
หากฟากการแข่งขันของโปรชาย ชื่อของไทเกอร์ วู้ดส์ จะเป็นสิ่งที่อเมริกันชนคนเชียร์กอล์ฟพากันภาคภูมิใจ แต่สำหรับฟากของสวิงหญิงในแอลพีจีเอทัวร์เวลานี้คงต้องรอดูกันว่าผู้ใดจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็น “อเมริกันดรีม”ได้สำเร็จเพราะมิเช่นนั้นการดวลสวิงในแอลพีจีเอคงมีเพียงโปรหญิงจากยุโรป และ เอเชีย ที่คอยเปลี่ยนหน้าขึ้นมารับโทรฟี่เท่านั้น