วาเลรี โบยินอฟ ดาวยิง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ออกมาแสดงความมั่นใจว่าตนเองจะกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งแน่นอน หลังจากต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ามาเกือบหนึ่งปี พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่มีความคิดแม้แต่น้อยที่จะย้ายกลับไปเล่นที่อิตาลีอีกครั้ง
ดาวยิงทีมชาติบัลแกเรีย ลงเล่นให้กับทีมเพียงสามนัดเท่านั้น หลังจากได้รับบาดเจ็บจนเอ็นหัวเข่าฉีกในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านเอาชนะคู่กัดร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 1-0 ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 11 เดือน และตอนนี้เจ้าตัวก็ใกล้ที่จะหายกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้ว
วาเลรี โบยินอฟ ให้สัมภาษณ์ถึงอาการบาดเจ็บของตนเองผ่าน mcfc.co.uk เว็บไซต์ของสโมสรว่า “หัวเข่าของผมดีขึ้นแล้วในตอนนี้ แต่ผมยังมีปัญหาบ้างเล็กน้อยที่กล้ามเนื้อต้นขาแต่ก็ไม่หนักหนาเท่าไรหรอก มันถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเมื่อได้รับบาดเจ็บที่เข่าอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อแบบนี้จะเกิดขึ้นเสมอ”
แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นนี้แต่ดาวยิงวัย 22 ปี ก็หวังว่าจะสามารถกลับมาร่วมซ้อมกับทีมได้ “ผมต้องการที่จะฟิตสมบูรณ์เต็มที่ ผมต้องการลงแข่งและต้องการที่จะฝึกซ้อมร่วมกับทีม มันสำคัญกับผมมากเพราะตอนนี้เรามีโค้ชคนใหม่และฤดูกาลก็ใกล้ที่จะเปิดแล้วด้วย” พร้อมกับกล่าวอีกว่า “ผมกระหายที่จะกลับมาเล่นอีกครั้ง ผมเพิ่งลงเล่นให้ทีมเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้นซึ่งมันน้อยมาสำหรับเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น ผมจึงกระหายในการทำทุกอย่างทั้งการซ้อม, การลงแข่ง และการยิงประตู ผมต้องการกลับมาทำผลงานให้ดีเหมือนเมื่อก่อนทั้งการเล่นและการยิงประตูเพราะผมคือกองหน้าและเมื่อฤดูกาลที่แล้วผมก็ไม่มีโอกาสแสดงความสามารถให้กับแฟนบอลของทีมได้ดูกันเลย”
นอกจากนี้ วาเลรี โบยินอฟ ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าตนเองจะย้ายกลับไปเล่นที่อิตาลีอีกครั้ง “ผมไม่เคยได้ยินข่าวลือพวกนั้นมาเลย และผมก็ไม่ต้องการที่จะย้ายกลับไปอิตาลีด้วย ผมมีความสุขดีที่แมนเชสเตอร์และต้องการอยู่ต่อไป เพราะที่นี่เป็นสโมสรที่มีความสำคัญ แม้ว่าเมื่อปีที่ผ่านมาผมได้รับบาดเจ็บสโมสรและผู้จัดการทีมก็ยังให้โอกาสผมได้อยู่กับทีมต่อไป ดังนั้น ผมต้องการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นให้กับแฟนบอลและเล่นให้กับตัวผมเองโดยเฉพาะการเล่นในศึกพรีเมียร์ ลีกซึ่งเป็นลีกที่ยอดเยี่ยมมากและผมต้องการที่จะแสดงให้ผู้จัดการทีมคนใหม่ได้เห็นว่าผมมีความสามารถมากแค่ไหน”
วาเลรี โบยินอฟ ย้ายมายังถิ่น ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในสมัยของกุนซือคนเก่าอย่าง สเวน โกรัน อีริคสัน ด้วยค่าตัว 5.75 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 379 ล้านบาท