xs
xsm
sm
md
lg

กระทิงดุย้ำชัยสอนเชิงหมีขาว 3-0 ลิ่วชิงอินทรีเหล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กระทิงดุ” สเปน โชว์ฟอร์มเหนือและก็ย้ำชัยถล่มเอาชนะ “หมีขาว” รัสเซีย ขาดลอย 3-0 ก้าวเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 ได้สำเร็จ

ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบรองชนะเลิศ
สเปน 3-0 รัสเซีย

ชาบี จิ้มให้กระทิงดุขวิดนำ 1-0
หลุยส์ อราโกเนส กุนซือรุ่นปู่ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ “กระทิงดุ” สเปน และก็ไม่ปรับเปลี่ยน 11 ผู้เล่นคนแรกจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดล้ม “แชมป์โลก” อิตาลี ด้วยจุดโทษ โดยความหวังของทีมยังอยู่ที่คู่หัวหอก ดาวิด บีญา และเฟอร์นานโด ตอร์เรส ด้าน “หมีขาว” รัสเซีย กุส ฮิดดิงก์ มีปัญหาลูกทีมติดโทษแบน 2 ราย แต่ก็ปรับแค่ตำแหน่งเดียวในแผงหลังให้ วาสซิลี เบเรซุตสกี ยืนแทน เดนิส โกโลดิน โดยมี อังเดร อาร์ชาวิน คอยป่วนเกมรับคู่แข่งและก็วาง โรมัน พาฟลูเชนโก ยืนห้อยหน้าเพื่อล่าตาข่าย
บีญา เจ็บแต่สเปนไม่ขาดใจ
เริ่มเกมการแข่งขันท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา สเปน เป็นฝ่ายคุมเกมเดินเข้าใส่และก็ได้ลุ้นตั้งแต่นาทีที่ 6 เมื่อ ดาวิด บีญา พักอกในกรอบโทษก่อนจ่ายให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนหมุนตัวยิงเรียดไปติดเซฟ อีกอร์ อคินเฟเยฟ ห้านาทีถัดมา “กระทิงดุ” มีโอกาสอีกครั้งแต่ลูกยิงไกลของ บีญา ก็โดนนายทวาร “หมีขาว” ปัดออกมาได้อีก ผ่าน 15 นาทีแรก รัสเซีย มีลุ้นบ้างจากฟรีคิกระยะไกล 35 หลา โรมัน พาฟลูเชนโก ตะบันด้วยขวาส่งบอลแหวกอากาศข้ามคานไป

เกมกลับมาสูสีกันเมื่อผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก สเปน เกือบได้นำเมื่อบอลโยนจากกลางไปตรงบนศีรษะ อันเดรส อิเนสตา ก่อนมิดฟิลด์จากสโมสรบาร์เซโลนา จะกลับตัวยิงบอลพุ่งไปเข้าซอง อคินเฟเยฟ นาทีที่ 31 ความขยันของ อังเดร อาร์ชาวิน สไลด์บอลจาก คาร์เลส ปูโยล หลุดไปให้ พาฟลูเชนโก ได้ปั่นไซด์โป้งเฉียดเสาแบบได้ลุ้น สามนาทีถัดมาแฟนๆ “กระทิงดุ” ใจหายเมื่อ บีญา มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว อราโกเนส ต้องส่ง เชส ฟาเบรกาส มาเล่นแทนพร้อมปรับระบบการเล่นเป็น 4-5-1

นาทีถัดมา รัสเซีย เกือบฉวยโอกาสขึ้นนำเมื่อ พาฟลูเชนโก ได้ยิงเหน่งๆ ในกรอบหกหลาแต่โดน โจน คัพเดบีญา บีบเข้ามาเร็วจึงซัดหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย เกมเริ่มเปิดฉากแลกกันหมัดต่อหมัด ฟาเบรกาส หยอดข้ามฟากจากซ้ายให้ ตอร์เรส ดึงบอลลงก่อนซัดเร็วด้วยขวาก็ยังไม่ตรงตัว อคินเฟเยฟ ที่วันนี้ยืนตำแหน่งค่อนข้างดีทีเดียว หลังจากทดเวลาบาดเจ็บไปหนึ่งนาที ฟรองค์ เดอ บลีกเกอร์ เชิ้ตดำจากเบลเยียมก็เป่านกหวีดจบครึ่งเวลาแรก โดยสกอร์ยังตรึงที่ 0-0
พาฟลูเชนโก โดนรุมล้อม
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที “กระทิงดุ” ก็ขวิดนำ 1-0 เมื่อ อิเนสตา ได้จังหวะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู ชาบี เออร์นานเดซ คู่หูในแดนกลางแหย่เท้าจิ้มบอลลอดขา อคินเฟเยฟ เข้าไปตุงตาข่าย พอเสียประตูไป รัสเซีย เดินหน้าล่าประตูคืนแต่เกือบโดนจังหวะสวนกลับของ สเปน เล่นงานดีที่ ตอร์เรส ปั่นบอลเหน่งๆ ในกรอบโทษข้ามคานไป จากนั้น ฮิดดิงก์ ต้องแก้เกมให้ “หมีขาว” ด้วยการส่ง ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ ลงมาเติมแนวรุกตรงกลางและก็ถอด อีกอร์ เซมชอฟ ตัวรับออกมา ส่วน ดมิทรี ซีเชฟ ซึ่งเป็นศูนย์หน้าถูกส่งลงมาเล่นแทน อีวาน ซาเอนโก ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผ่านหนึ่งชั่วโมงโอกาสยังเป็นของ สเปน ฟาเบรกาส เปิดบอลจากกราบขวามาให้ ตอร์เรส ตวัดยิงเร็วด้วยขวาส่งบอลหลุดเสาแรก นาทีถัดมา “เอล นินโญ” ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปอีกครั้ง เซอร์จิโอ รามอส เปิดเข้ามาให้ดีดด้วยขวาออกไปอีก เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย “ขรัวเฒ่า” อราโกเนส ปรับทีมถอด ตอร์เรส และชาบี ออกมาพร้อมกับใส่ ชาบี อลอนโซ กับ ดาเนียล กีซา ลงไปทำหน้าที่แทน ซึ่งทีมก็เกือบทิ้งห่างอีกครั้ง ฟาเบรกาส ตะบันจากนอกรอบ อคินเฟเยฟ ไม่หลับปัดพ้นคานไป

ในที่สุดหลังบี้อยู่พักใหญ่ “กระทิงดุ” ก็ขวิดนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 73 เมื่อ ฟาเบรกาส งัดบอลจะให้ ดาวิด ซิลบา แต่บอลหลุดไปให้ กีซา ป้ายบอลผ่าน อคินเฟเยฟ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ก่อนหมดเวลาแค่ 8 นาที สเปน มาปิดกล่อง 3-0 เมื่อ ฟาเบรกาส หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดให้ ซิลบา แปเหน่งๆ ไม่เหลือ จบเกม “กระทิงดุ” ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี มีลุ้นแชมป์ยูโรสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ แต่ก็ต้องผ่านด่าน “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่แอร์นส์ท ฮัปเปิล สเตเดี้ยม ให้ได้เสียก่อนในคืนวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายนนี้

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปน : อีเคร์ คาซิยาส , เซอร์จิโอ รามอส , คาร์เลส ปูโยล , คาร์ลอส มาร์เชนา , โจน คัพเดบีญา , มาร์กอส เซนนา , อันเดรส อิเนสตา , ชาบี เออร์นานเดซ , ดาวิด ซิลบา , ดาวิด บีญา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส

รัสเซีย : อีกอร์ อคินเฟเยฟ , อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ , วาสซิลี เบเรซุตสกี , เซอร์เก อิกนาเชวิช , ยูริ เซอร์คอฟ , คอนสแตนติน ซูริยานอฟ , เซอร์เก เซมัก , อีกอร์ เซมชอฟ , อีวาน ซาเอนโก , อังเดร อาร์ชาวิน , โรมัน พาฟลูเชนโก
กำลังโหลดความคิดเห็น