“กระทิงดุ” สเปน ชนะดวลจุดโทษ “อัซซูรี” อิตาลี 4-2 ประตู หลังจากเกม 120 นาทีเสมอกัน 0-0 พร้อมทะลุเข้าสู่รอบต่อไป ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 4
สเปน 4-2 อิตาลี (หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 สเปน ชนะดวลจุดโทษ 4-2 )
เกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ที่สี่ ระหว่าง “กระทิงทุ” สเปน ปะทะกับ “อัซซูรี” อิตาลี ลงฟาดแข้งที่สนาม แอร์นส์ท ฮัปเปิล สตาดิโอน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
“กระทิงดุ” สเปน เป็นอีกทีมที่ทำผลงานในรอบแรกได้อย่างยอดเยี่ยมหลังคว้าชัยชนะมาได้ 3 นัดรวดแต่นัดนี้ลูกทีมของ หลุยส์ อราโกเนส พบกับงานยากแน่นอนเมื่อมาเจอกับแชมป์โลก โดยเกมนี้ยังคงนำทีมโดย ดาวิด บียา และ เฟอร์นันโด ตอร์เรส สองศูนย์หน้าของทีมเช่นเดิม ทางฝั่ง “อัซซูรี” อิตาลี ของกุนซือ โรแบร์โต โดนาโดนี ผ่านเข้ารอบมาอย่างฉิวเฉียดต้องลุ้นกันตัวโก่งทีเดียวในนัดสุดท้าย นัดนี้ต้องมาพิสูจน์ว่าประสบการณ์ของผู้เล่นจะช่วยทีมได้หรือไม่ สำหรับเกมนี้ยังคงนำทีมโดย ลูกา โทนี ดาวยิงของทีม
เริ่มเกม 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างสูสีมาก แต่ละฝ่ายพยายามทำเกมบุกเข้าใส่กันแต่ยังไม่สามารถหาจังหวะยิงฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน กว่าจะมีการยิงเข้ากรอบเวลาก็เลยมาถึงนาทีที่ 19 เป็น อิตาลี ที่มีโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำก่อนเมื่อ อัมโบรซินี เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แปร์รอตต้า วิ่งโฉบมาโหม่งบอล แต่ไม่หนีตัว คาซิยาส โกล์กระทิงดุรับบอลไว้ได้ หลังจากนั้น สเปน พยายามทำเกมด้วยการต่อบอลไปมาระหว่างผู้เล่นแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางเจาะแนวรับอิตาลีได้
จนกระทั่งอีกสามนาทีต่อมา สเปน ได้ฟรีคิกนอกกรอบระยะ 25 หลา เมื่อผู้เล่นอัซซูรีเข้าสกัดทำฟาวล์ ดาวิด บียา และก็เป็นดาวยิงบาเลนเซียที่ลุกขึ้นมายิง เองบอลพุ่งแรงทะลุแนวกำแพงอัซซูรีตรงเข้ากรอบประตูแต่ บุฟฟอน ล้มตัวรับเอาไว้ได้
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง สเปน มาได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง เมื่อ ซิลบา กระชากบอลหนีกองหลังคู่แข่งก่อนซัดเต็มแรงบริเวณกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านมือ บุฟฟอน เช่นเคย สเปนเริ่มที่จะครองเกมได้เหนือกว่า อิตาลี มีการต่อบอลกันได้หลายจังหวะ จนมาได้โอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 37 จาก ซิลบา ที่พยายามยิงไกลแต่บอลก็เฉียดเสาออกไป หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถหาโอกาสส่องประตูกันได้อีกทำให้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 55 สเปนได้ลุ้นทำประตูก่อนเมื่อ เฟอร์นันโด ตอร์เรส หลุดกองหลังอิตาลีเข้ามาในเขตโทษก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ บียา ที่ยืนรออยู่แต่เป็น คิเอลินี กองหลังอิตาลีมาช่วยได้ทันแหย่เท้าสกัดออกไปได้ หลังจากนั้น อิตาลี ได้โอกาสทำประตูเป็นครั้งแรกของครึ่งหลังเมื่อ เด รอสซี ลองยิงไกลไปติดผู้เล่นสเปน แต่ยังได้บอลอีกครั้งก่อนเปิดเข้าไปให้ คาโมราเนซี โหม่งชงต่อให้ โทนี พยายามยิงแต่ไปติดตัว คาซิยาส โกล์กระทิงดุ บอลหลุดมาถึง คาโมราเนซี อีกครั้ง กองกลางยูเวนตุสซัดเต็มแรงทันที แต่เป็น คาซิยาส ที่ทำได้ดีเหมือนเดิมล้มตัวสกัดด้วยขาทำให้ทีมยังไม่เสียประตู
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย สเปน มีจังหวะยิงเข้ากรอบในนาทีที่ 78 เมื่อ เซนนา ยิงฟรีคิก 25 หลา แต่บอลพุ่งไปตรงตัว บุฟฟอน ปัดไว้ได้ หลังจากนั้นอีกสองนาทีเป็น เซนนา อีกครั้งที่เก็บตกบอลได้นอกกรอบเขตโทษกอ่นซัดเต็มหลังเท้า คราวนี้ บุฟฟอน รับกระฉอกบอลหลุดจากมือแต่กลิ้งไปชนเสารอดการเสียประตูได้หวุดหวิดสุดท้ายสองทีมยังคงทำอะไรกันไมได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0
ครึ่งแรกของการต่อเวลา สเปน น่าจะทำประตูขึ้นนำได้หลังจากเกมผ่านมาสองนาที เมื่อ ซิลบา ได้ยิงจากจังหวะที่เก็บตกได้บริเวณกรอบเขตโทษแต่ก็ยิงเฉียดเสาออกไปเอง อีกสองนาทีต่อมา ดิ นาตาเล สำรองของอิตาลีได้โหม่งในเขตโทษ แต่ คาซิยาส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้ มาถึงช่วงต่อเวลาครึ่งหลัง ในนาทีที่ 109 บียา ได้บอลหลุดเขามาดวลกับ บุฟฟอน แต่มุมแคบไปแล้วทำให้โกล์อิตาลีสกัดไว้ได้ ก่อนหมดการต่อเวลา คาซอร์ลา มายิงจังหวะสุดท้ายของเกมแต่บอลผ่านประตูออกไปทำให้จบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน
ผลการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า สเปนเอาชนะไป 4-2
ทีม “กระทิงดุ” สเปน ผู้ชนะของเกมนี้ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศก่อนไปพบกับ “หมีขาว” รัสเซียที่ไปรออยู่ก่อนแล้ว โดยจะปะทะแข้งกันในวันที่ 26 มิถุนายนเพื่อตัดสินว่าทีมใดจะเข้าไปชิงชนะเลิศต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปน : อีเคร์ คาซิยาส , เซอร์คิโอ รามอส , คาร์เลส ปูโยล , คาร์ลอส มาร์เชนา , โจน คัพเดบียา , มาร์คอส เซนนา , อันเดรส อินิเอสตา , ชาบี เฮอร์นันเดซ , ดาวิด ซิลบา , ดาวิด บียา , เฟอร์นันโด ตอร์เรส
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน , จิอันลูกา ซามบรอตต้า , คริสเตียน ปานุชชี , จิออร์จิโอ คิเอลินี , ฟาบิโอ กรอสโซ , อัลแบร์โต อคิลานี , ดินิเอเล เด รอสซี , มาสซิโม อัมโบรซินี , ซิโมเน แปร์รอตต้า , อันโตนิโอ คาสซาโน , ลูกา โทนี
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 4
สเปน 4-2 อิตาลี (หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 สเปน ชนะดวลจุดโทษ 4-2 )
เกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ที่สี่ ระหว่าง “กระทิงทุ” สเปน ปะทะกับ “อัซซูรี” อิตาลี ลงฟาดแข้งที่สนาม แอร์นส์ท ฮัปเปิล สตาดิโอน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
“กระทิงดุ” สเปน เป็นอีกทีมที่ทำผลงานในรอบแรกได้อย่างยอดเยี่ยมหลังคว้าชัยชนะมาได้ 3 นัดรวดแต่นัดนี้ลูกทีมของ หลุยส์ อราโกเนส พบกับงานยากแน่นอนเมื่อมาเจอกับแชมป์โลก โดยเกมนี้ยังคงนำทีมโดย ดาวิด บียา และ เฟอร์นันโด ตอร์เรส สองศูนย์หน้าของทีมเช่นเดิม ทางฝั่ง “อัซซูรี” อิตาลี ของกุนซือ โรแบร์โต โดนาโดนี ผ่านเข้ารอบมาอย่างฉิวเฉียดต้องลุ้นกันตัวโก่งทีเดียวในนัดสุดท้าย นัดนี้ต้องมาพิสูจน์ว่าประสบการณ์ของผู้เล่นจะช่วยทีมได้หรือไม่ สำหรับเกมนี้ยังคงนำทีมโดย ลูกา โทนี ดาวยิงของทีม
เริ่มเกม 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างสูสีมาก แต่ละฝ่ายพยายามทำเกมบุกเข้าใส่กันแต่ยังไม่สามารถหาจังหวะยิงฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน กว่าจะมีการยิงเข้ากรอบเวลาก็เลยมาถึงนาทีที่ 19 เป็น อิตาลี ที่มีโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำก่อนเมื่อ อัมโบรซินี เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แปร์รอตต้า วิ่งโฉบมาโหม่งบอล แต่ไม่หนีตัว คาซิยาส โกล์กระทิงดุรับบอลไว้ได้ หลังจากนั้น สเปน พยายามทำเกมด้วยการต่อบอลไปมาระหว่างผู้เล่นแต่ก็ยังไม่สามารถหาทางเจาะแนวรับอิตาลีได้
จนกระทั่งอีกสามนาทีต่อมา สเปน ได้ฟรีคิกนอกกรอบระยะ 25 หลา เมื่อผู้เล่นอัซซูรีเข้าสกัดทำฟาวล์ ดาวิด บียา และก็เป็นดาวยิงบาเลนเซียที่ลุกขึ้นมายิง เองบอลพุ่งแรงทะลุแนวกำแพงอัซซูรีตรงเข้ากรอบประตูแต่ บุฟฟอน ล้มตัวรับเอาไว้ได้
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง สเปน มาได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง เมื่อ ซิลบา กระชากบอลหนีกองหลังคู่แข่งก่อนซัดเต็มแรงบริเวณกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านมือ บุฟฟอน เช่นเคย สเปนเริ่มที่จะครองเกมได้เหนือกว่า อิตาลี มีการต่อบอลกันได้หลายจังหวะ จนมาได้โอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 37 จาก ซิลบา ที่พยายามยิงไกลแต่บอลก็เฉียดเสาออกไป หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถหาโอกาสส่องประตูกันได้อีกทำให้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 55 สเปนได้ลุ้นทำประตูก่อนเมื่อ เฟอร์นันโด ตอร์เรส หลุดกองหลังอิตาลีเข้ามาในเขตโทษก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ บียา ที่ยืนรออยู่แต่เป็น คิเอลินี กองหลังอิตาลีมาช่วยได้ทันแหย่เท้าสกัดออกไปได้ หลังจากนั้น อิตาลี ได้โอกาสทำประตูเป็นครั้งแรกของครึ่งหลังเมื่อ เด รอสซี ลองยิงไกลไปติดผู้เล่นสเปน แต่ยังได้บอลอีกครั้งก่อนเปิดเข้าไปให้ คาโมราเนซี โหม่งชงต่อให้ โทนี พยายามยิงแต่ไปติดตัว คาซิยาส โกล์กระทิงดุ บอลหลุดมาถึง คาโมราเนซี อีกครั้ง กองกลางยูเวนตุสซัดเต็มแรงทันที แต่เป็น คาซิยาส ที่ทำได้ดีเหมือนเดิมล้มตัวสกัดด้วยขาทำให้ทีมยังไม่เสียประตู
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย สเปน มีจังหวะยิงเข้ากรอบในนาทีที่ 78 เมื่อ เซนนา ยิงฟรีคิก 25 หลา แต่บอลพุ่งไปตรงตัว บุฟฟอน ปัดไว้ได้ หลังจากนั้นอีกสองนาทีเป็น เซนนา อีกครั้งที่เก็บตกบอลได้นอกกรอบเขตโทษกอ่นซัดเต็มหลังเท้า คราวนี้ บุฟฟอน รับกระฉอกบอลหลุดจากมือแต่กลิ้งไปชนเสารอดการเสียประตูได้หวุดหวิดสุดท้ายสองทีมยังคงทำอะไรกันไมได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0
ครึ่งแรกของการต่อเวลา สเปน น่าจะทำประตูขึ้นนำได้หลังจากเกมผ่านมาสองนาที เมื่อ ซิลบา ได้ยิงจากจังหวะที่เก็บตกได้บริเวณกรอบเขตโทษแต่ก็ยิงเฉียดเสาออกไปเอง อีกสองนาทีต่อมา ดิ นาตาเล สำรองของอิตาลีได้โหม่งในเขตโทษ แต่ คาซิยาส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้ มาถึงช่วงต่อเวลาครึ่งหลัง ในนาทีที่ 109 บียา ได้บอลหลุดเขามาดวลกับ บุฟฟอน แต่มุมแคบไปแล้วทำให้โกล์อิตาลีสกัดไว้ได้ ก่อนหมดการต่อเวลา คาซอร์ลา มายิงจังหวะสุดท้ายของเกมแต่บอลผ่านประตูออกไปทำให้จบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน
ผลการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า สเปนเอาชนะไป 4-2
ทีม “กระทิงดุ” สเปน ผู้ชนะของเกมนี้ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศก่อนไปพบกับ “หมีขาว” รัสเซียที่ไปรออยู่ก่อนแล้ว โดยจะปะทะแข้งกันในวันที่ 26 มิถุนายนเพื่อตัดสินว่าทีมใดจะเข้าไปชิงชนะเลิศต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปน : อีเคร์ คาซิยาส , เซอร์คิโอ รามอส , คาร์เลส ปูโยล , คาร์ลอส มาร์เชนา , โจน คัพเดบียา , มาร์คอส เซนนา , อันเดรส อินิเอสตา , ชาบี เฮอร์นันเดซ , ดาวิด ซิลบา , ดาวิด บียา , เฟอร์นันโด ตอร์เรส
อิตาลี : จิอันลุยจิ บุฟฟอน , จิอันลูกา ซามบรอตต้า , คริสเตียน ปานุชชี , จิออร์จิโอ คิเอลินี , ฟาบิโอ กรอสโซ , อัลแบร์โต อคิลานี , ดินิเอเล เด รอสซี , มาสซิโม อัมโบรซินี , ซิโมเน แปร์รอตต้า , อันโตนิโอ คาสซาโน , ลูกา โทนี