มิชาเอล บัลลัค กองกลางกัปตันทีม ซัดฟรีคิกระยะ 25 หลาในช่วงต้นเกมของครึ่งหลังให้ทีม “อินทรีเหล็ก” เยอรมนีเอาชนะ เจ้าภาพ ออสเตรีย 1-0 พร้อมทะลุเข้าสู่รอบต่อไป ในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่มบี ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 3
ออสเตรีย 0-1 เยอรมนี
ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่มบี ระหว่าง ทีมเจ้าภาพ ออสเตรีย พบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ลงฟาดแข้งที่สนาม แอร์นท ฮัปเปิล สตาดิโอน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เกมนัดชี้ชะตาในการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของกลุ่มบี ในคู่สำคัญ ทีมเจ้าภาพ ออสเตรีย เก็บมาได้แต้มเดียวจากสองนัด แม้โอกาสเข้ารอบจะเป็นรองแต่หวังนักเตะได้แรงฮึดจากกองเชียร์ เกมนี้ โยเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ กุนซือของทีมเปลี่ยนแปลงทีมเล็กน้อยแต่ยังคงนำทัพโดย แอนเดรียส อีวานส์ชิตซ์ กองกลางกัปตันทีม ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ของกุนซือ โยอาคิม เลิฟ ไม่เปลี่ยนแปลงทีมจากที่ใช้ลงเล่นในสองเกมแรก ยกเว้น อาร์เน่ ฟรีดริซ ที่ลงมาแทน มาร์เซลล์ แยนเซ่น ที่บาดเจ็บเท่านั้น โดยเกมนี้นำทัพโดย มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมเหมือนเดิม
เริ่มเกม 45 นาทีแรก ผ่านไปไม่ถึงสองนาที ออสเตรียเกือบได้โอกาสหลุดเดี่ยวแต่ เลห์มันน์ โกล์เยอรมนีออกมาเตะทิ้งได้ก่อน อีกสองหน้าทีต่อมา โคลเซ่ หลุดมาเปิดให้ โกเมซ แปจ่อๆหน้าปากประตูพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อหลังโดนบอลไม่เต็มเท้าทำให้บอลลอยสูง ก่อนที่กองหลังออสเตรียจะเคลียร์ออกมาได้ โกเมซ พยายามจะแก้ตัวในสองนาทีต่อมา หลังลุยขึ้นมายิงตรงมุมเขตโทษด้านซ้าย แต่บอลบดเกินไป ผู้รักษาประตูเจ้าภาพรับสบาย เกมมาถึงนาทีที่ 14 หลังจากตั้งรับอยู่นาน ออสเตรีย ก็มีโอกาสบุกคู่แข่งบ้างจากจังหวะเตะมุมแต่สุดท้ายกองหลังเยอรมนีสกัดทิ้งไปได้
เกมผ่านมา 15 นาที เกิดเหตุการณ์น่าสนใจเมื่อ ฮอฟเฟอร์ ศูนย์หน้าของเจ้าภาพ ได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ เมตเซลเดอร์ ของเยอรมนีเข้ามาพัวพันจนเขาล้มลงไป แต่กรรมการไม่ว่าอะไร อีกสองนาทีต่อมา ฮอฟเฟอร์ มีโอกาสทำประตูอีกครั้งหลังจากได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ แต่จับบอลแรกไม่ดี เยนส์ เลห์มันน ออกมาเตะทิ้งไปได้ ออสเตรีย ทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง เรเน่ ออฟเฮาเซอร์ กองกลางของทีม ได้ส่องไกล 25 หลา เลห์มันน์ ปัดออกหลังไปได้อีกครั้ง เกมมาถึงนาทีที่ 23 โพดอลสกี ได้ยิงอย่างถนัดถนี่จากนอกกรอบ แต่โกล์เจ้าภาพปัดออกไปได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ในนาทีที่ 31 โคลเซ่ ได้โอกาสทำประตูเป็นครั้งแรกของเกม หลังโหม่งลูกเปิดของ ลาห์ม แต่บอลไม่เข้ากรอบประตู อีกสี่นาทีต่อมา บัลลัค เบิ้ลบอลจังหวะเดียวไปให้ โพดอลสกี้ ที่วิ่งขึ้นไปรับบอลแต่ เจอร์เก้น มาโช ผู้รักษาประตูออสเตรียออกมาตัดได้ก่อน หลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามแต่ก็ถูกตัดจังหวะบริเวณกลางสนามไม่สามารถหาโอกาสส่องประตูกันได้ จบครึ่งแรก ออสเตรีย เสมอ เยอรมนี 0-0
เกมครึ่งหลัง เริ่มเกมมาได้เพียงสามนาที เยอรมนี ทำประตูขึ้นนำได้ หลังจากที่ มิชาเอล บัลลัค ซัดฟรีคิก 25 หลา บอลพุ่งแรกหมดปัญญา เจอร์เก้น มาโช จะรับได้บอลเข้าประตูไปให้ เยอรมนี ขึ้นนำ 1-0 มาถึงนาทีที่ 52 ลาห์ม ลุยขึ้นมาบริเวณเส้นกรอบเขตโทษกระชากหลอกกองหลัง ออสเตรีย ก่อนยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาไป อีกสองนาทีต่อก็ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ โพดอลสกี้ ได้ส่องจากนอกกรอบ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
เกมผ่านชั่วโมงแรก เจ้าภาพพยายามทำเกมบุกเพื่อหวังทำประตูคืนแต่ไม่สามารถหาจังหวะทำประตู เยอรมนีได้อย่างแจ่มแจ้ง จนกระทั่งถึง นาทีที่ 67 คีนาสท์ กองหน้าสำรองที่เพิ่งลงสนามมามีโอกาสได้โหม่งบริเวณกรอบเขตโทษแต่ก็ไม่ตรงกรอบ อีกห้านาทีต่อมา โคลเซ่ พยายามทำประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเม้นท์ให้ได้ เมื่อได้จังหวะยิงในเขตโทษแบบไม่มีกองหลังมาประกอบ แต่ยิงไม่เต็มเท้าบอลออกหลังไป
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เกมมาถึงนาทีที่ 79 เยอรมนีได้ลูกเตะมุมเปิดเข้ามา บอลโค้งจะเข้าประตู เจอร์เก้น มาโช ทุบออกมาไม่ดี บอลเข้าหัว มาเตซัคเกอร์ แต่บอลไม่มีน้ำหนัก มาโช รับไว้ได้ หลังจากนั้นอีกสองนาที อีวานซชิตซ์ ของออสเตรียเลี้ยงหลบกองหลังเข้ามายิงในเขตโทษ เยอรมนี แต่บอลออกไป หลังจากนั้น ออสเตรีย น่าจะทำประตูตีเสมอได้มากที่สุด เมื่อบอลหลุดมาถึง ฮอฟเฟอร์ ในเขตโทษ พยายามกลับตัวยิงเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ก่อนหมดเวลาสองนาที โคลเซ่ ได้ลุ้นทำประตูให้ทีมหนีห่างออกไปหลังจากได้บอลในเขตโทษซัดเต็มๆแต่ไม่ผ่านมือ เจอร์เก้น มาโช ก่อนที่ ฟริงส์ จะลองสับไกช่วงทดเวลาบาดเจ็บแต่บอลก็ออกไป สุดท้ายไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบ 90 นาที เยอรมนีชนะ 1-0
ขณะที่เกมอีกคู่หนึ่งของกลุ่มบี "ตราหมากรุก" โครเอเชีย ที่เข้ารอบต่อไปแล้วลงฟาดแข่งนัดสุดท้ายกับทีม โปแลนด์ ที่มีลุ้นเล็กๆ ผลปรากฏว่า ทีมโครเอเชีย ไม่ผ่อนเกมให้กับคู่แข่งยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะไป 1-0 จากประตูของ อีวาน คลาสนิก ในนาทีที่ 51
สรุปผลคะแนนของกลุ่มบี โครเอเชีย มี 9 คะแนน เป็นแชมป์ของกลุ่มจากการเก็บชัยชนะทั้งสามนัดเข้าไปพบกับ ตุรกี อันดับสองของกลุ่มเอ ส่วนเยอรมนีเก็บชัยในนัดนี้ทำให้มี 6 คะแนนคว้าอันดับสองของกลุ่มเข้าไปพบกับ โปรตุเกส แชมป์กลุ่มเอในรอบต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ออสเตรีย : เจอร์เก้น มาโช , กียอร์กี การิคส์ , มาร์ติน สตานเซิล , มาร์ติน ไฮเดน , เอมานูเอล โปกาเตตซ์ , มาร์ติน ฮาร์นิก , เรเน่ ออฟเฮาเซอร์ , แอนเดรียส อิวานสชิตซ์ , คริสเตียน ฟุชซ์ , อูมิต คอร์กมาซ , เออร์วิน ฮอฟเฟอร์
เยอรมนี : เยนส์ เลห์มันน์ , อาร์เน ฟรีดริซ , แพร์ มาเตซัคเกอร์ , คริสตอฟ เมตเซลเดอร์ , ฟิลิปป ลาห์ม , คลีเมนซ์ ฟริตซ์ , ทอร์สเท่น ฟริงซ์ , มิชาเอล บัลลัค , ลูคัส โพดอลสกี้ , มิโรสลาฟ โคลเซ่ , มาริโอ โกเมซ
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 3
ออสเตรีย 0-1 เยอรมนี
ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่มบี ระหว่าง ทีมเจ้าภาพ ออสเตรีย พบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ลงฟาดแข้งที่สนาม แอร์นท ฮัปเปิล สตาดิโอน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
เกมนัดชี้ชะตาในการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของกลุ่มบี ในคู่สำคัญ ทีมเจ้าภาพ ออสเตรีย เก็บมาได้แต้มเดียวจากสองนัด แม้โอกาสเข้ารอบจะเป็นรองแต่หวังนักเตะได้แรงฮึดจากกองเชียร์ เกมนี้ โยเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ กุนซือของทีมเปลี่ยนแปลงทีมเล็กน้อยแต่ยังคงนำทัพโดย แอนเดรียส อีวานส์ชิตซ์ กองกลางกัปตันทีม ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ของกุนซือ โยอาคิม เลิฟ ไม่เปลี่ยนแปลงทีมจากที่ใช้ลงเล่นในสองเกมแรก ยกเว้น อาร์เน่ ฟรีดริซ ที่ลงมาแทน มาร์เซลล์ แยนเซ่น ที่บาดเจ็บเท่านั้น โดยเกมนี้นำทัพโดย มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมเหมือนเดิม
เริ่มเกม 45 นาทีแรก ผ่านไปไม่ถึงสองนาที ออสเตรียเกือบได้โอกาสหลุดเดี่ยวแต่ เลห์มันน์ โกล์เยอรมนีออกมาเตะทิ้งได้ก่อน อีกสองหน้าทีต่อมา โคลเซ่ หลุดมาเปิดให้ โกเมซ แปจ่อๆหน้าปากประตูพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อหลังโดนบอลไม่เต็มเท้าทำให้บอลลอยสูง ก่อนที่กองหลังออสเตรียจะเคลียร์ออกมาได้ โกเมซ พยายามจะแก้ตัวในสองนาทีต่อมา หลังลุยขึ้นมายิงตรงมุมเขตโทษด้านซ้าย แต่บอลบดเกินไป ผู้รักษาประตูเจ้าภาพรับสบาย เกมมาถึงนาทีที่ 14 หลังจากตั้งรับอยู่นาน ออสเตรีย ก็มีโอกาสบุกคู่แข่งบ้างจากจังหวะเตะมุมแต่สุดท้ายกองหลังเยอรมนีสกัดทิ้งไปได้
เกมผ่านมา 15 นาที เกิดเหตุการณ์น่าสนใจเมื่อ ฮอฟเฟอร์ ศูนย์หน้าของเจ้าภาพ ได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ เมตเซลเดอร์ ของเยอรมนีเข้ามาพัวพันจนเขาล้มลงไป แต่กรรมการไม่ว่าอะไร อีกสองนาทีต่อมา ฮอฟเฟอร์ มีโอกาสทำประตูอีกครั้งหลังจากได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ แต่จับบอลแรกไม่ดี เยนส์ เลห์มันน ออกมาเตะทิ้งไปได้ ออสเตรีย ทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง เรเน่ ออฟเฮาเซอร์ กองกลางของทีม ได้ส่องไกล 25 หลา เลห์มันน์ ปัดออกหลังไปได้อีกครั้ง เกมมาถึงนาทีที่ 23 โพดอลสกี ได้ยิงอย่างถนัดถนี่จากนอกกรอบ แต่โกล์เจ้าภาพปัดออกไปได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ในนาทีที่ 31 โคลเซ่ ได้โอกาสทำประตูเป็นครั้งแรกของเกม หลังโหม่งลูกเปิดของ ลาห์ม แต่บอลไม่เข้ากรอบประตู อีกสี่นาทีต่อมา บัลลัค เบิ้ลบอลจังหวะเดียวไปให้ โพดอลสกี้ ที่วิ่งขึ้นไปรับบอลแต่ เจอร์เก้น มาโช ผู้รักษาประตูออสเตรียออกมาตัดได้ก่อน หลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามแต่ก็ถูกตัดจังหวะบริเวณกลางสนามไม่สามารถหาโอกาสส่องประตูกันได้ จบครึ่งแรก ออสเตรีย เสมอ เยอรมนี 0-0
เกมครึ่งหลัง เริ่มเกมมาได้เพียงสามนาที เยอรมนี ทำประตูขึ้นนำได้ หลังจากที่ มิชาเอล บัลลัค ซัดฟรีคิก 25 หลา บอลพุ่งแรกหมดปัญญา เจอร์เก้น มาโช จะรับได้บอลเข้าประตูไปให้ เยอรมนี ขึ้นนำ 1-0 มาถึงนาทีที่ 52 ลาห์ม ลุยขึ้นมาบริเวณเส้นกรอบเขตโทษกระชากหลอกกองหลัง ออสเตรีย ก่อนยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาไป อีกสองนาทีต่อก็ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ โพดอลสกี้ ได้ส่องจากนอกกรอบ แต่บอลไม่ตรงกรอบ
เกมผ่านชั่วโมงแรก เจ้าภาพพยายามทำเกมบุกเพื่อหวังทำประตูคืนแต่ไม่สามารถหาจังหวะทำประตู เยอรมนีได้อย่างแจ่มแจ้ง จนกระทั่งถึง นาทีที่ 67 คีนาสท์ กองหน้าสำรองที่เพิ่งลงสนามมามีโอกาสได้โหม่งบริเวณกรอบเขตโทษแต่ก็ไม่ตรงกรอบ อีกห้านาทีต่อมา โคลเซ่ พยายามทำประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเม้นท์ให้ได้ เมื่อได้จังหวะยิงในเขตโทษแบบไม่มีกองหลังมาประกอบ แต่ยิงไม่เต็มเท้าบอลออกหลังไป
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เกมมาถึงนาทีที่ 79 เยอรมนีได้ลูกเตะมุมเปิดเข้ามา บอลโค้งจะเข้าประตู เจอร์เก้น มาโช ทุบออกมาไม่ดี บอลเข้าหัว มาเตซัคเกอร์ แต่บอลไม่มีน้ำหนัก มาโช รับไว้ได้ หลังจากนั้นอีกสองนาที อีวานซชิตซ์ ของออสเตรียเลี้ยงหลบกองหลังเข้ามายิงในเขตโทษ เยอรมนี แต่บอลออกไป หลังจากนั้น ออสเตรีย น่าจะทำประตูตีเสมอได้มากที่สุด เมื่อบอลหลุดมาถึง ฮอฟเฟอร์ ในเขตโทษ พยายามกลับตัวยิงเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ก่อนหมดเวลาสองนาที โคลเซ่ ได้ลุ้นทำประตูให้ทีมหนีห่างออกไปหลังจากได้บอลในเขตโทษซัดเต็มๆแต่ไม่ผ่านมือ เจอร์เก้น มาโช ก่อนที่ ฟริงส์ จะลองสับไกช่วงทดเวลาบาดเจ็บแต่บอลก็ออกไป สุดท้ายไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบ 90 นาที เยอรมนีชนะ 1-0
ขณะที่เกมอีกคู่หนึ่งของกลุ่มบี "ตราหมากรุก" โครเอเชีย ที่เข้ารอบต่อไปแล้วลงฟาดแข่งนัดสุดท้ายกับทีม โปแลนด์ ที่มีลุ้นเล็กๆ ผลปรากฏว่า ทีมโครเอเชีย ไม่ผ่อนเกมให้กับคู่แข่งยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะไป 1-0 จากประตูของ อีวาน คลาสนิก ในนาทีที่ 51
สรุปผลคะแนนของกลุ่มบี โครเอเชีย มี 9 คะแนน เป็นแชมป์ของกลุ่มจากการเก็บชัยชนะทั้งสามนัดเข้าไปพบกับ ตุรกี อันดับสองของกลุ่มเอ ส่วนเยอรมนีเก็บชัยในนัดนี้ทำให้มี 6 คะแนนคว้าอันดับสองของกลุ่มเข้าไปพบกับ โปรตุเกส แชมป์กลุ่มเอในรอบต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ออสเตรีย : เจอร์เก้น มาโช , กียอร์กี การิคส์ , มาร์ติน สตานเซิล , มาร์ติน ไฮเดน , เอมานูเอล โปกาเตตซ์ , มาร์ติน ฮาร์นิก , เรเน่ ออฟเฮาเซอร์ , แอนเดรียส อิวานสชิตซ์ , คริสเตียน ฟุชซ์ , อูมิต คอร์กมาซ , เออร์วิน ฮอฟเฟอร์
เยอรมนี : เยนส์ เลห์มันน์ , อาร์เน ฟรีดริซ , แพร์ มาเตซัคเกอร์ , คริสตอฟ เมตเซลเดอร์ , ฟิลิปป ลาห์ม , คลีเมนซ์ ฟริตซ์ , ทอร์สเท่น ฟริงซ์ , มิชาเอล บัลลัค , ลูคัส โพดอลสกี้ , มิโรสลาฟ โคลเซ่ , มาริโอ โกเมซ