กระทิงวัดคมสวีเดน กรีซ-หมีขาวห้ามพลาด / เกรียนมู

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 ประจำคืนวันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. เป็นการดวลกันระหว่าง สเปน-สวีเดน ซึ่งเตรียมใช้ความคมของคู่หัวหอกเข้าห้ำหั่นกันในเวลา 23.00 น. ส่วนการเผชิญหน้าของ “แชมป์เก่า” กรีซ กับ “หมีขาว” ในช่วง 01.45 น. ทีมใดพลาดท่าก็เตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เลย

สเปน VS สวีเดน ที่สนามทิโวลี เนอู ในเมืองอินน์สบรูค

เปิดตัวได้หวือหวาทีเดียวสำหรับสเปน ชัยชนะประเดิมที่มีต่อรัสเซีย 4-1 ทำให้แฟนๆ “กระทิงดุ”เริ่มฝัน (อีกครั้ง) ถึงการเห็นทีมกลับมาครองแชมป์ยุโรปหลังห่างหายไปนานถึง 44 ปี (สเปน เป็นแชมป์ยูโร 1 สมัยในปี 1964 ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าภาพ) จากการประสานงานในแผงกองหน้าระหว่าง เฟอร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาวิด บีญา ซึ่งค่อนข้างลงตัว โดยรายหลังกระหน่ำแฮตทริกได้เป็นคนแรกของยูโร 2008 ดังนั้นการเจอกับสวีเดน “ขรัวเฒ่า” หลุยส์ อราโกเนส คงไม่ทำการเปลี่ยนระบบจาก 4-4-2 มาเล่นแบบหน้าตัวเดียวเหมือนที่เคยทดลองใช้ในช่วงอุ่นเครื่อง ถึงแม้ว่าผลเสมอจากแท็คติก “ปลอดภัยไว้ก่อน” ไม่น่าเสียหายอะไรกับการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

นอกจากจุดเด่นในแนวรุก แผงมิดฟิลด์กลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนของ “กระทิงดุ” อันเดรส อิเนสตา กับ ชาบี เออร์นานเดซ โชว์ให้เห็นถึงการผ่านบอลอันเฉียบคม การทะลุทะลวงทางกราบเป็นหน้าที่ของ ดาวิด ซิลบา โดยมี มาร์กอส เซนนา นักเตะเชื้อสายบราซิเลียนรับผิดชอบตัดเกมคู่แข่ง แต่ปัญหาที่ยังน่าเป็นห่วงสำหรับสเปนเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของเกมรับ เซอร์จิโอ รามอส กับ โจน คัพเดบีญา เป็นฟูลแบ็กสมัยใหม่ที่เน้นเติมเกมรุก ทว่าหลายครั้งคู่แข่งอาศัยช่องว่างตรงนี้สวนทะลวงขึ้นไป ส่วนทาง คาร์เลส ปูโยล และคาร์ลอส มาร์เชนา ถูกชี้ให้เป็นจุดอ่อนของทีมจากความผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดีที่ยังมี อีเคร์ คาซิยาส ปักหลักเป็นปราการด่านสุดท้าย

ในส่วนของ สวีเดน เน้นผู้เล่นประสบการณ์ในการลุ้นพาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้อีกครั้งหลังทำสำเร็จเมื่อ 4 ปีก่อน ถ้าเป็นไปได้ขุนพลจากแดนฟรีเซ็กซ์ก็อยากไปให้ไกลถึงรอบตัดเชือกเหมือนกับปี 1992 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ แต่คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพความฟิตของบรรดาตัวเก๋าอย่าง โอลอฟ เมลเบิร์ก, นิคลาส อเล็กซานเดอร์สสัน, เฟรดริก ลุงเบิร์ก และเฮนริค ลาร์สสัน รวมถึงกองหน้าความหวังอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เจ็บออดๆ แอดๆ มาโดยตลอดในช่วงสองเดือนมานี้ การเจอกับสเปนลูกทีมของ ลาร์ส ลาเกอร์บัค คงมีพื้นที่เล่นมากหน่อยเพราะ “กระทิงดุ” คงไม่เน้นตั้งรับเหมือนกับกรีซ อย่างไรก็ตาม การขึ้นเกมรุกยังไม่ถือว่าโดดเด่น คิม คัลสตรอม อาจต้องลงมาช่วยสร้างสรรค์เกมรุกในเมื่อ คริสเตียน วิลเฮล์มสสัน เจ็บหนักปิดเทอมไปแล้ว

ผลการแข่งขันที่คาด : แผงรับของทั้งสองทีมไม่ใช่จุดเด่น ดังนั้นถ้าเกมรุกของฝ่ายใดเฉียบคมกว่าก็มีโอกาสกำชัย แต่ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ลูกสดของ “ตอร์เรส-บีญา” เหนือกว่า “อิบราฮิโมวิช-ลาร์สสัน” และจะพา “กระทิงดุ” ขวิดชัย 2-0

กรีซ VS รัสเซีย ที่สนามวิลส์ ซีเซนไฮม์ ในเมืองซัลซ์บวร์ก

แพ้มาทั้งคู่ในนัดแรกทำให้การมาเจอกันระหว่าง “กรีซ-รัสเซีย” มีเดิมพันค่อนข้างสูงเพราะหากทีมใดพลาดท่าอาจหมายถึงการโบกมือลายูโร 2008 ส่วนทีมที่คว้าชัยยังได้ลุ้นไปต่อในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในส่วนของ “แชมป์เก่า” อ็อตโต เรห์ฮาเกล ยึดแท็คติกตั้งรับมากเกินไปในเกมพ่าย สวีเดน 0-2 แต่การเจอกับ “หมีขาว” กุนซือชาวเยอรมนีเตรียมวางหมากใส่เกมรุกลงไป 3 คนเหมือนในรอบคัดเลือก ยอนนิส อมานาติดิส น่าจะได้ลงเป็นตัวจริงคอยสนับสนับสนุนคู่หัวหอกอย่าง ธีโอฟานิส เกคัส กับ อังเกลอส ชาริสเตอัส เมื่อเป็นเช่นนี้เกมรับคงต้องกลับมาเล่นในระบบหน้ากระดานเรียงสี่ พาราเควาส อันท์ซาส คงโดนถอนออกไปเพื่อดึง จอร์จอส ไซตาริดิส และวาสซิลิส โทโรซิดิส ลงต่ำมายืนเป็นฟูลแบ็กดังเดิม

ด้าน กุส ฮิดดิงก์ หัวเสียเป็นอย่างยิ่งกับความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นในแผงหลังที่โดนสเปนฉีกเป็นวิ่นๆ รัสเซีย จึงน่าจะมีการเปลี่ยนแนวรับดึง เดนิส โกโลดิน และโรมัน ชิโรคอฟ ออกเพื่อเปิดทางให้คู่พี่น้อง “เบเรซุตสกี” อเล็กเซ กับ วาซิลี ได้ลงสนามบ้าง ส่วนเกมรุก “หมีขาว” คงปรับอะไรมากไม่ได้เนื่องจาก พาเวล โพเกรบเนียค ก็ถอนตัวไปแล้วจากการเจ็บหนักที่เข่า ขณะที่ อังเดร อาร์ชาวิน เหลือติดโทษแบนอีกหนึ่งนัด คงต้องฝากความหวังไว้กับ โรมัน พาฟลูเชนโก ซึ่งตีไข่แตกได้ในนัดแรก แดนกลางกุนซือชาวดัตช์มีสิทธิเติม ดมิทรี ทอร์บินสกี ลงไปเพิ่มสีสันในการขึ้นเกมเพื่อช่วยทาง คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ

ผลการแข่งขันที่คาด : รัสเซีย เสียรังวัดไปพอสมควรกับการออกตัวในยูโรครั้งนี้เนื่องจากความไม่พร้อมของขุมกำลังในเกมรุกซึ่งถือเป็นจุดเด่น อีกทั้งจุดด้อยในเกมรับยังมาออกลายให้เห็น ตรงกันข้ามกับ กรีซ ซึ่งยังมีแผงหลังที่เป็นระบบ เกมบุกก็เพิ่มเติมเสริมลงไปทำให้แชมป์เก่ามีโอกาสเฉือนชัย 1-0 ในบั้นปลาย