ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 รอบแรก ผ่านไป 6 แมตช์ของ 3 กลุ่ม ปรากฏว่า “เจ้าภาพร่วม” สวิตเซอร์แลนด์-ออสเตรีย ใจตรงกันควงกันพ่าย 0-1 ส่วน โปรตุเกส-เยอรมนี โชว์ฟอร์มสมราคาทีมเต็งต่างเก็บชัย 2-0 ขณะที่ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” อิตาลี โดน “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ สอยกระจุย 3-0 ฤๅจะเอาศักดิ์ศรี “แชมป์โลก” มาทิ้งที่ดินแดนนาฬิกา สำหรับการแข่งขันในคืนวันอังคารที่ 10 มิถุนายน เวียนมาถึงกลุ่มดี สเปน มีคิวดวลแข้ง รัสเซีย เป็นคู่แรกเวลา 23.00 น.ต่อด้วย “แชมป์เก่า” กรีซ เตรียมชน สวีเดน เวลา 01.45 น.
สเปน-รัสเซีย ที่สนามทิโวลี เนอู เมืองอินน์สบรูค
คู่นี้เคยเจอกันมาแล้วในรอบแรกของศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยเป็นทางสเปนที่เฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ฮวน คาร์ลอส บาร์เลรอน แต่ท้ายที่สุดทั้งสองทีมก็ควงกันตกรอบแรก มาเจอกันคราวนี้ในยูโร 2008 ด้วยชื่อชั้นตามหน้าเสื่อ “กระทิงดุ” ถูกยกให้เหลื่อมอยู่พอสมควร เนื่องจาก “หมีขาว” ปราศจากคู่กองหน้าตัวจริงอย่าง พาเวล โพรเกรบเนียค ซึ่งบาดเจ็บหนักที่เข่าจนต้องถอนตัวไป ขณะที่ อังเดร อาร์ชาวิน ติดโทษแบน 2 นัดมาจากรอบคัดเลือกทำให้ รัสเซีย อาจต้องเจอวิบากกรรมสักหน่อยในสองนัดแรก
อย่างไรก็ตาม กุส ฮิดดิงก์ ไม่ตระหนกกับสถานการณ์ดังกล่าวมากนัก เพราะเชื่อมั่นในฝีเท้าของ โรมัน พาฟลูเชนโก ดาวยิงจากสโมสร สปาร์ตัค มอสโก ที่สอดประสานกันได้ดีกับ ดมิทรี ซีเซฟ ในช่วงอุ่นเครื่อง อีกทั้งทุกวันนี้มาตรฐานของวงการลูกหนังแดนหมีขาวพัฒนาขึ้นอย่างมาก ขุนพลในชุดนี้ซึ่งเป็นตัวหลักอย่าง อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ หรือ คอนสแตนติน ซีริยานอฟ พาทาง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ขึ้นไปคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาแล้ว ความฮึกเหิมและความมั่นใจของทีมมีเพิ่มขึ้นมากทีเดียวก่อนมาลุยยูโร
ในส่วนของ สเปน ก่อนเดินทางมาเตะรอบแรกที่ออสเตรีย หลุยส์ อราโกเนส พาทีมอุ่นแข้งกวาดชัยเหนือทีมแกร่งอย่าง ฝรั่งเศส, อิตาลี รวมถึง เปรู และสหรัฐอเมริกา ทว่าสื่อแดนกระทิงดุยังไม่ค่อยประทับใจในเรื่องของฟอร์มการเล่น ทั้งยังอ่านใจ “ขรัวเฒ่า” ไม่ออกว่าจะใช้ระบบใดระหว่าง 4-5-1 หรือ 4-4-2 ที่สำคัญประตูชัยในเกมกับ อิตาลี, เปรู ต้องรอถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในยูโร 2008 สเปนอาจประสบปัญหาเรื่องการทำประตู เนื่องจากตัวหลัก เฟอร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาวิด บีญา สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย ขณะที่ ดาเนียล กีซา และ เซอร์จิโอ การ์เซีย ชั่วโมงบินในทีมชาติยังน้อยนัก ถ้า อราโกเนส ลดทิฐิดึง ราอูล กอนซาเลซ มาติดทัพ สเปน น่าจะมีลุ้นกว่าที่เป็นอยู่
ผลการแข่งขันที่คาด : ไม่ง่ายที่ “หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม” อย่างสเปนจะเจาะเข้าทำใส่รัสเซียซึ่งอัดกลางไว้แน่นถึง 5 คน ยิ่งถ้า อราโกเนส เลือกใช้แผนหน้าตัวเดียว ตอร์เรส ต้องเจอด่านหินในแผงรับรัสเซีย “กระทิงดุ” อาจต้องหันไปลุ้นจากลูกยิงไกลของ ชาบี เออร์นานเดซ และเชส ฟาเบรกาส ซึ่งถ้าไม่เด็ดจริงคงยากที่จะผ่านมือ อีกอร์ อคินเฟเยฟ ดังนั้น “หมีขาว” มีสิทธิยื้อแบ่งแต้ม สกอร์ที่คาด 1-1
กรีซ-สวีเดน ที่สนาม วัลส์ ซีเซนไฮม์ เมืองซัลซ์บวร์ก
อ็อตโต เรห์ฮาเกล และบรรดานักเตะกรีซ ต้องการมาพิสูจน์ตัวเองในยูโร 2008 เพื่อยืนยันว่า “ตำนานเทพนิยายกรีก” ที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนไม่ใช่เรื่องฟลุก แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ค่อนข้างแตกต่างกันมากทีเดียว ย้อนกลับไปในยูโรที่โปรตุเกส “ม้านอกสายตา” คือ คำจำกัดความที่แปะอยู่ปลายสตั๊ดเมื่อนักเตะกรีซ เดินลงสู่สนาม แต่ ณ ตอนนี้คงไม่มีทีมใดคิดประมาทลูกทีมของ “คิง อ็อตโต้” อีกต่อไป และการมีศักดิ์ศรี “แชมป์เก่า” ค้ำคออยู่ กรีซ อาจตะขิดตะขวงใจหากขุดแท็คติกตั้งรับห้อยหน้าตัวเดียวแล้วรอจังหวะสวนกลับมาใช้อีกเป็นคำรบสอง
ในรอบคัดเลือกรวมถึงแมตช์อุ่นเครื่องที่ผ่านมา เรห์ฮาเกล มักใช้สามประสานในแดนหน้าห้ำหั่นกับกองหลังคู่แข่ง ยอนนิส อมานาติดิส คอยสนับสนุนเกมรุกอยู่หลังคู่หน้า ธีโอฟานิส เกคัส และอันเกลอส ชาริสติอัส ฮีโร่ยูโร 2004 แต่พอถึงเกมประเดิมสนามกับ สวีเดน กุนซือชาวเยอรมนีอาจชั่งใจปรับมาเล่นแบบ 4-4-2 เหมือนช่วงฝึกซ้อมกันครั้งหลังสุดเพื่อกันเหนียวเอาไว้ก่อน อาศัยประสบการณ์ของผู้เล่นตัวเก๋าๆ อย่าง อันโตนิส นิโคโปลิดิส, ตรายานอส เดลลัส และจอร์จอส คารากูนิส คอยประคองทีมเอาไว้ก่อนและไปลุ้นอาศัยทีเด็ดทีขาดของ เกคัส กับลูกกลางอากาศของ ชาริสติอัส ในการลุ้นสกอร์
ด้าน สวีเดน เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยเรื่องอายุของนักเตะค่อนข้างสูง ลาร์ส ลาเกอร์บัค ยังเชื่อใจบรรดาแข้งเก๋าอย่าง โอลอฟ เมลเบิร์ก, นิคลาส อเล็กซานเดอร์สัน, เฟรดริก ลุงเบิร์ก เป็นแกนหลักของทีม เรื่องประสบการณ์จึงไม่น่าห่วงสำหรับทีมนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของ “ไวกิ้ง” เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของ “ความฟิต” โดยเฉพาะแนวรุก ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช หัวหอกตัวเก่งของ อินเตอร์ มิลาน เข่าไม่สมบูรณ์มาตลอดในช่วง 2 เดือนหลัง มาร์คุส โรเซนเบิร์ก มีปัญหาเดียวกันแต่ไม่หนักเท่า โยฮัน เอลมันเดอร์ ก็เจ็บเท้า ลาเกอร์บัค อาจต้องใช้บริการ เฮนริค ลาร์สสัน ที่ผ่านสมรภูมิรบมาเจ็ดย่านน้ำลงดวลกับ กรีซ แต่นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีในการออกตัวสำหรับการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์
ผลการแข่งขันที่คาด : กรีซ เจอกับความกดดันจากการมีศักดิ์ศรีแชมป์เก่าคล้องคออยู่ อีกทั้ง เรห์ฮาเกล คงไม่อยากเห็นทีมแพ้ประเดิมจึงให้ลูกทีมเล่นแบบรัดกุมไว้ก่อนเช่นเดียวกับสวีเดน ลาร์เกอร์บัค อาจเสี่ยงเข็น อิบราฮิมโมวิช ลงสนามแต่เมื่อเจอลูกหนักอาจไปไม่เป็น สกอร์ที่คาด 0-0
สเปน-รัสเซีย ที่สนามทิโวลี เนอู เมืองอินน์สบรูค
คู่นี้เคยเจอกันมาแล้วในรอบแรกของศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยเป็นทางสเปนที่เฉือนชนะไปหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ฮวน คาร์ลอส บาร์เลรอน แต่ท้ายที่สุดทั้งสองทีมก็ควงกันตกรอบแรก มาเจอกันคราวนี้ในยูโร 2008 ด้วยชื่อชั้นตามหน้าเสื่อ “กระทิงดุ” ถูกยกให้เหลื่อมอยู่พอสมควร เนื่องจาก “หมีขาว” ปราศจากคู่กองหน้าตัวจริงอย่าง พาเวล โพรเกรบเนียค ซึ่งบาดเจ็บหนักที่เข่าจนต้องถอนตัวไป ขณะที่ อังเดร อาร์ชาวิน ติดโทษแบน 2 นัดมาจากรอบคัดเลือกทำให้ รัสเซีย อาจต้องเจอวิบากกรรมสักหน่อยในสองนัดแรก
อย่างไรก็ตาม กุส ฮิดดิงก์ ไม่ตระหนกกับสถานการณ์ดังกล่าวมากนัก เพราะเชื่อมั่นในฝีเท้าของ โรมัน พาฟลูเชนโก ดาวยิงจากสโมสร สปาร์ตัค มอสโก ที่สอดประสานกันได้ดีกับ ดมิทรี ซีเซฟ ในช่วงอุ่นเครื่อง อีกทั้งทุกวันนี้มาตรฐานของวงการลูกหนังแดนหมีขาวพัฒนาขึ้นอย่างมาก ขุนพลในชุดนี้ซึ่งเป็นตัวหลักอย่าง อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ หรือ คอนสแตนติน ซีริยานอฟ พาทาง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ขึ้นไปคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาแล้ว ความฮึกเหิมและความมั่นใจของทีมมีเพิ่มขึ้นมากทีเดียวก่อนมาลุยยูโร
ในส่วนของ สเปน ก่อนเดินทางมาเตะรอบแรกที่ออสเตรีย หลุยส์ อราโกเนส พาทีมอุ่นแข้งกวาดชัยเหนือทีมแกร่งอย่าง ฝรั่งเศส, อิตาลี รวมถึง เปรู และสหรัฐอเมริกา ทว่าสื่อแดนกระทิงดุยังไม่ค่อยประทับใจในเรื่องของฟอร์มการเล่น ทั้งยังอ่านใจ “ขรัวเฒ่า” ไม่ออกว่าจะใช้ระบบใดระหว่าง 4-5-1 หรือ 4-4-2 ที่สำคัญประตูชัยในเกมกับ อิตาลี, เปรู ต้องรอถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในยูโร 2008 สเปนอาจประสบปัญหาเรื่องการทำประตู เนื่องจากตัวหลัก เฟอร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาวิด บีญา สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย ขณะที่ ดาเนียล กีซา และ เซอร์จิโอ การ์เซีย ชั่วโมงบินในทีมชาติยังน้อยนัก ถ้า อราโกเนส ลดทิฐิดึง ราอูล กอนซาเลซ มาติดทัพ สเปน น่าจะมีลุ้นกว่าที่เป็นอยู่
ผลการแข่งขันที่คาด : ไม่ง่ายที่ “หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม” อย่างสเปนจะเจาะเข้าทำใส่รัสเซียซึ่งอัดกลางไว้แน่นถึง 5 คน ยิ่งถ้า อราโกเนส เลือกใช้แผนหน้าตัวเดียว ตอร์เรส ต้องเจอด่านหินในแผงรับรัสเซีย “กระทิงดุ” อาจต้องหันไปลุ้นจากลูกยิงไกลของ ชาบี เออร์นานเดซ และเชส ฟาเบรกาส ซึ่งถ้าไม่เด็ดจริงคงยากที่จะผ่านมือ อีกอร์ อคินเฟเยฟ ดังนั้น “หมีขาว” มีสิทธิยื้อแบ่งแต้ม สกอร์ที่คาด 1-1
กรีซ-สวีเดน ที่สนาม วัลส์ ซีเซนไฮม์ เมืองซัลซ์บวร์ก
อ็อตโต เรห์ฮาเกล และบรรดานักเตะกรีซ ต้องการมาพิสูจน์ตัวเองในยูโร 2008 เพื่อยืนยันว่า “ตำนานเทพนิยายกรีก” ที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนไม่ใช่เรื่องฟลุก แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ค่อนข้างแตกต่างกันมากทีเดียว ย้อนกลับไปในยูโรที่โปรตุเกส “ม้านอกสายตา” คือ คำจำกัดความที่แปะอยู่ปลายสตั๊ดเมื่อนักเตะกรีซ เดินลงสู่สนาม แต่ ณ ตอนนี้คงไม่มีทีมใดคิดประมาทลูกทีมของ “คิง อ็อตโต้” อีกต่อไป และการมีศักดิ์ศรี “แชมป์เก่า” ค้ำคออยู่ กรีซ อาจตะขิดตะขวงใจหากขุดแท็คติกตั้งรับห้อยหน้าตัวเดียวแล้วรอจังหวะสวนกลับมาใช้อีกเป็นคำรบสอง
ในรอบคัดเลือกรวมถึงแมตช์อุ่นเครื่องที่ผ่านมา เรห์ฮาเกล มักใช้สามประสานในแดนหน้าห้ำหั่นกับกองหลังคู่แข่ง ยอนนิส อมานาติดิส คอยสนับสนุนเกมรุกอยู่หลังคู่หน้า ธีโอฟานิส เกคัส และอันเกลอส ชาริสติอัส ฮีโร่ยูโร 2004 แต่พอถึงเกมประเดิมสนามกับ สวีเดน กุนซือชาวเยอรมนีอาจชั่งใจปรับมาเล่นแบบ 4-4-2 เหมือนช่วงฝึกซ้อมกันครั้งหลังสุดเพื่อกันเหนียวเอาไว้ก่อน อาศัยประสบการณ์ของผู้เล่นตัวเก๋าๆ อย่าง อันโตนิส นิโคโปลิดิส, ตรายานอส เดลลัส และจอร์จอส คารากูนิส คอยประคองทีมเอาไว้ก่อนและไปลุ้นอาศัยทีเด็ดทีขาดของ เกคัส กับลูกกลางอากาศของ ชาริสติอัส ในการลุ้นสกอร์
ด้าน สวีเดน เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยเรื่องอายุของนักเตะค่อนข้างสูง ลาร์ส ลาเกอร์บัค ยังเชื่อใจบรรดาแข้งเก๋าอย่าง โอลอฟ เมลเบิร์ก, นิคลาส อเล็กซานเดอร์สัน, เฟรดริก ลุงเบิร์ก เป็นแกนหลักของทีม เรื่องประสบการณ์จึงไม่น่าห่วงสำหรับทีมนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของ “ไวกิ้ง” เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของ “ความฟิต” โดยเฉพาะแนวรุก ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช หัวหอกตัวเก่งของ อินเตอร์ มิลาน เข่าไม่สมบูรณ์มาตลอดในช่วง 2 เดือนหลัง มาร์คุส โรเซนเบิร์ก มีปัญหาเดียวกันแต่ไม่หนักเท่า โยฮัน เอลมันเดอร์ ก็เจ็บเท้า ลาเกอร์บัค อาจต้องใช้บริการ เฮนริค ลาร์สสัน ที่ผ่านสมรภูมิรบมาเจ็ดย่านน้ำลงดวลกับ กรีซ แต่นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีในการออกตัวสำหรับการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์
ผลการแข่งขันที่คาด : กรีซ เจอกับความกดดันจากการมีศักดิ์ศรีแชมป์เก่าคล้องคออยู่ อีกทั้ง เรห์ฮาเกล คงไม่อยากเห็นทีมแพ้ประเดิมจึงให้ลูกทีมเล่นแบบรัดกุมไว้ก่อนเช่นเดียวกับสวีเดน ลาร์เกอร์บัค อาจเสี่ยงเข็น อิบราฮิมโมวิช ลงสนามแต่เมื่อเจอลูกหนักอาจไปไม่เป็น สกอร์ที่คาด 0-0