“ตราไก่” ฝรั่งเศส ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้ว หลังลงทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 นัดแรกของทีม ไม่สามารถเจาะเกมรับที่เหนียวแน่นของ “ผีดิบ” โรมาเนียได้ ทำให้จบ 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
โรมาเนีย 0-0 ฝรั่งเศส
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 23.00 น. เป็นคิวเตะนัดแรกของกลุ่มซี ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 โดยเป็นการพบกันระหว่าง “ผีดิบ” โรมาเนีย กับ อดีตแชมป์ปี 2000 “ตราไก่” ฝรั่งเศส ฟาดแข้งกันที่สนาม เลตซิกรุนด์ ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทีมแดร็กคูล่า โรมาเนีย ของกุนซือ วิคเตอร์ ปิตูร์ก้า ถูกมองว่าอ่อนที่สุดในกลุ่มแต่ด้วยผลงานการผ่านรอบคัดเลือกในฐานะแชมป์กลุ่มก็มีดีพอที่ใจสู้กับทีมเคี่ยวลากดินในกลุ่มได้ โดยเกมนี้ ส่งผู้เล่นตัวเก่งลงสนามอย่างครบครันนำโดย คริสเตียน คิวู ปราการหลังจอมแกร่ง และ เอเดรียน มูตู กองหน้าตัวความหวัง ด้าน “ตราไก่” ฝรั่งเศส ของกุนซือ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค แม้จะอดใช้บริการของ ปาทริค วิเอร่า กัปตันทีมในเกมนี้ แต่ก็มีผู้เล่นมากประสบการณ์หลายคนที่ไว้ใจได้ นำทัพโดย ลิลิยง ตูราม กัปตันทีม ในเกมรุกขับเคลื่อนด้วย ฟรองค์ ริเบรี่ กองกลางจอมเทคนิค รวมถึง นักเตะดาวรุ่งที่ถูกจับมองอย่าง คาริม เบนเซม่า
เกม 45 นาทีแรก ฝรั่งเศสเริ่มเขี่ยลูกก่อน ในช่วงต้นเกม ฝรั่งเศสครองบอลทำเกมรุกได้เหนือกว่า นาทีที่ 7 อเนลก้า มีโอกาสยิงในเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา เบนเซมา ได้จังหวะยิงไกล 25 หลาแต่บอลไซด์ออกนอกกรอบไป เกมมาถึง นาทีที่ 11 โรมาเนียได้โอกาสบ้างหลัง มูตู ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาออกไป และอีกสี่นาทีต่อมา โรมาเนียมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ นิคูเล รับบอลที่เพื่อนโหม่งมาให้ เข้ายิงวอลเลย์เร็วนอกเขตโทษแต่บอลยังไม่เข้ากรอบเหมือนเดิม รูปเกมในช่วงต่อมาเป็น ฝรั่งเศส ที่ครองบอลได้เหนือกว่า แต่เกมรับของ โรมาเนีย ยืนตำแหน่งกันดีทำให้ ลูกทีมของ โดเมอเน็ค หาจังหวะทำประตูไม่ได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อเนลก้า พลาดโอกาสทำให้ทีมขึ้นนำ หลังขึ้นโหม่งจากลูกเตะมุมแต่บอลเหินข้ามคานออกไป ก่อนที่อีกนาทีเดียว อเนลก้า ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่ออาศัยความเร็วลากลุยขึ้นมาด้านขวาของเขตโทษแต่มุมยิงไม่มีแล้วทำให้ยิงออกไป
ฝรั่งเศส มาได้อากาสในการทำประตูดีที่สุดในนาทีที่ 42 เมื่อ ริเบรี รับบอลในเขตโทษก่อนตวัดมาให้ เบนเซมา ยิงเร็ว แต่ผู้รักษาประตูโรมาเนียล้มตัวรับได้ทัน จนถึง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บโรมาเนียได้โอกาสบุก 2-3 จังหวะแต่กองหลัง ฝรั่งเศสช่วยกันสกัดออกมาได้ ทำให้จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เกมผ่านมา 3 นาที ฝรั่งเศสได้ทักทายก่อน เมื่อ มาลูด้า อาศัยความสามารถเฉพาะล่อหลอกกองหลังคู่แข่ง ก่อนยิงในกรอบเขตโทษ บอลเฉียดมุมสามเหลี่ยมออกไป หลังจากนั้นเวลาช่วง 10 นาทีแรก โรมาเนียได้ทำเกมบุกได้อย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฝรั่งเศสได้ จนถึงนาทีที่ 56 ฝรั่งเศสพลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำเมื่อ ริเบรี่ ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมวิ่งมารับบอลทางขวาของเขตโทษ ก่อนผ่านมาให้ เบนเซมา แปด้วยขวาแต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตูโรมาเนียรับได้สบาย เบนเซมา ได้จังหวะยิงอีกครั้งในนาทีที่ 63 เมื่อหลอก คิวู กองหลังโรมาเนียจนล้มหัวคว่ำแล้วแต่ยิงบดเกินไปและบอลไม่ตรงกรอบ รูปเกมหลังจากนั้นเป็น ฝรั่งเศส ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าแต่ยังไม่สามารถผ่านกองหลังโรมาเนียเข้าไปยิงประตูแบบจังๆได้
เข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย เกมรุกของ ฝรั่งเศส ยังไม่ดีขึ้น กุนซือ โดเมอเน็ค แก้เกมโดยส่ง บาเฟติมบี้ โกมิส และ ซามีร์ นาสรี มาสร้างสรรค์เกมรุก แม้ว่า ฝรั่งเศส จะครองบอลได้มากกว่าแต่ก็ไม่สามารถเล่นงานแผงหลังของโรมาเนียได้ จบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละคะแนน
โดยนัดต่อไปของทั้งสองทีมจะเล่นในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน โดย “ผีดิบ” โรมาเนีย พบกับ อิตาลี ส่วน “ตราไก่” ฝรั่งเศส จะพบกับ ฮอลแลนด์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โรมาเนีย : บอกดาน โลบองต์ , คอสมิน คอนทรา , กาบรีล ทามาส , โดริน โกยาน , ราซวาน รัต , ราซวาน โคซิส , มิเรล ราโดอิ , คริสเตียน คิวู , บาเนล นิโคลิต้า , ดาเนียล นิคูเล , เอเดรียน มูตู
ฝรั่งเศส : เกรกอรี คูเปต์ , วิลลี่ ซาญอล , ลิลิยง ตูราม , วิลเลียม กัลป์ลาส , เอริค อบิดัล , ฟรองค์ ริเบรี , โคล้ด มาเกเลเล่ , เจเรมี ตูลาลัน , ฟลอรองต์ มาลูด้า , นิโกลาส์ อเนลก้า , คาริม เบนเซมา
ศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
โรมาเนีย 0-0 ฝรั่งเศส
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 23.00 น. เป็นคิวเตะนัดแรกของกลุ่มซี ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 โดยเป็นการพบกันระหว่าง “ผีดิบ” โรมาเนีย กับ อดีตแชมป์ปี 2000 “ตราไก่” ฝรั่งเศส ฟาดแข้งกันที่สนาม เลตซิกรุนด์ ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทีมแดร็กคูล่า โรมาเนีย ของกุนซือ วิคเตอร์ ปิตูร์ก้า ถูกมองว่าอ่อนที่สุดในกลุ่มแต่ด้วยผลงานการผ่านรอบคัดเลือกในฐานะแชมป์กลุ่มก็มีดีพอที่ใจสู้กับทีมเคี่ยวลากดินในกลุ่มได้ โดยเกมนี้ ส่งผู้เล่นตัวเก่งลงสนามอย่างครบครันนำโดย คริสเตียน คิวู ปราการหลังจอมแกร่ง และ เอเดรียน มูตู กองหน้าตัวความหวัง ด้าน “ตราไก่” ฝรั่งเศส ของกุนซือ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค แม้จะอดใช้บริการของ ปาทริค วิเอร่า กัปตันทีมในเกมนี้ แต่ก็มีผู้เล่นมากประสบการณ์หลายคนที่ไว้ใจได้ นำทัพโดย ลิลิยง ตูราม กัปตันทีม ในเกมรุกขับเคลื่อนด้วย ฟรองค์ ริเบรี่ กองกลางจอมเทคนิค รวมถึง นักเตะดาวรุ่งที่ถูกจับมองอย่าง คาริม เบนเซม่า
เกม 45 นาทีแรก ฝรั่งเศสเริ่มเขี่ยลูกก่อน ในช่วงต้นเกม ฝรั่งเศสครองบอลทำเกมรุกได้เหนือกว่า นาทีที่ 7 อเนลก้า มีโอกาสยิงในเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา เบนเซมา ได้จังหวะยิงไกล 25 หลาแต่บอลไซด์ออกนอกกรอบไป เกมมาถึง นาทีที่ 11 โรมาเนียได้โอกาสบ้างหลัง มูตู ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาออกไป และอีกสี่นาทีต่อมา โรมาเนียมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ นิคูเล รับบอลที่เพื่อนโหม่งมาให้ เข้ายิงวอลเลย์เร็วนอกเขตโทษแต่บอลยังไม่เข้ากรอบเหมือนเดิม รูปเกมในช่วงต่อมาเป็น ฝรั่งเศส ที่ครองบอลได้เหนือกว่า แต่เกมรับของ โรมาเนีย ยืนตำแหน่งกันดีทำให้ ลูกทีมของ โดเมอเน็ค หาจังหวะทำประตูไม่ได้
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อเนลก้า พลาดโอกาสทำให้ทีมขึ้นนำ หลังขึ้นโหม่งจากลูกเตะมุมแต่บอลเหินข้ามคานออกไป ก่อนที่อีกนาทีเดียว อเนลก้า ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่ออาศัยความเร็วลากลุยขึ้นมาด้านขวาของเขตโทษแต่มุมยิงไม่มีแล้วทำให้ยิงออกไป
ฝรั่งเศส มาได้อากาสในการทำประตูดีที่สุดในนาทีที่ 42 เมื่อ ริเบรี รับบอลในเขตโทษก่อนตวัดมาให้ เบนเซมา ยิงเร็ว แต่ผู้รักษาประตูโรมาเนียล้มตัวรับได้ทัน จนถึง ช่วงทดเวลาบาดเจ็บโรมาเนียได้โอกาสบุก 2-3 จังหวะแต่กองหลัง ฝรั่งเศสช่วยกันสกัดออกมาได้ ทำให้จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เกมผ่านมา 3 นาที ฝรั่งเศสได้ทักทายก่อน เมื่อ มาลูด้า อาศัยความสามารถเฉพาะล่อหลอกกองหลังคู่แข่ง ก่อนยิงในกรอบเขตโทษ บอลเฉียดมุมสามเหลี่ยมออกไป หลังจากนั้นเวลาช่วง 10 นาทีแรก โรมาเนียได้ทำเกมบุกได้อย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฝรั่งเศสได้ จนถึงนาทีที่ 56 ฝรั่งเศสพลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำเมื่อ ริเบรี่ ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมวิ่งมารับบอลทางขวาของเขตโทษ ก่อนผ่านมาให้ เบนเซมา แปด้วยขวาแต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตูโรมาเนียรับได้สบาย เบนเซมา ได้จังหวะยิงอีกครั้งในนาทีที่ 63 เมื่อหลอก คิวู กองหลังโรมาเนียจนล้มหัวคว่ำแล้วแต่ยิงบดเกินไปและบอลไม่ตรงกรอบ รูปเกมหลังจากนั้นเป็น ฝรั่งเศส ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าแต่ยังไม่สามารถผ่านกองหลังโรมาเนียเข้าไปยิงประตูแบบจังๆได้
เข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย เกมรุกของ ฝรั่งเศส ยังไม่ดีขึ้น กุนซือ โดเมอเน็ค แก้เกมโดยส่ง บาเฟติมบี้ โกมิส และ ซามีร์ นาสรี มาสร้างสรรค์เกมรุก แม้ว่า ฝรั่งเศส จะครองบอลได้มากกว่าแต่ก็ไม่สามารถเล่นงานแผงหลังของโรมาเนียได้ จบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละคะแนน
โดยนัดต่อไปของทั้งสองทีมจะเล่นในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน โดย “ผีดิบ” โรมาเนีย พบกับ อิตาลี ส่วน “ตราไก่” ฝรั่งเศส จะพบกับ ฮอลแลนด์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โรมาเนีย : บอกดาน โลบองต์ , คอสมิน คอนทรา , กาบรีล ทามาส , โดริน โกยาน , ราซวาน รัต , ราซวาน โคซิส , มิเรล ราโดอิ , คริสเตียน คิวู , บาเนล นิโคลิต้า , ดาเนียล นิคูเล , เอเดรียน มูตู
ฝรั่งเศส : เกรกอรี คูเปต์ , วิลลี่ ซาญอล , ลิลิยง ตูราม , วิลเลียม กัลป์ลาส , เอริค อบิดัล , ฟรองค์ ริเบรี , โคล้ด มาเกเลเล่ , เจเรมี ตูลาลัน , ฟลอรองต์ มาลูด้า , นิโกลาส์ อเนลก้า , คาริม เบนเซมา
