คณะกรรมาธิการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) มีมติเลือก 4 เมืองสำคัญของโลกอย่าง ชิคาโก, โตเกียว, มาดริด และริโอ เด จาไนโร เข้ามาแข่งขันแย่งกันเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติในปี 2016
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการโอลิมปิกสากลมีการประชุมคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอีก 8 ปีข้างหน้า โดยมี 7 เมืองจาก 7 ประเทศลงทำการชิงชัยได้แก่ ชิคาโก (สหรัฐอเมริกา), โตเกียว (ญี่ปุ่น), มาดริด (สเปน), ริโอ เด จาไนโร (บราซิล), ปราก (สาธารณรัฐเช็ก), โดฮา (กาตาร์) และบากู (อาเซอร์ไบจาน)
ซึ่งการคัดเลือกในรอบแรกปรากฏว่า นครโดฮา, กรุงปราก และเมืองบากู หลุดโผไปทำให้มีเพียง 4 เมืองสำคัญของโลกอย่าง ชิคาโก, โตเกียว, มาดริด และริโอ เด จาไนโร เข้าไปลุ้นว่าจะได้รับการประกาศชื่อให้เป็นเจ้าภาพหรือไม่ในวันที่ 2 ตุลาคมปี 2009 ในการประชุมไอโอซีที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โดยหลังการเฟ้นหาเจ้าภาพโอลิมปิกในเบื้องต้น ฌาร์ก โรกก์ ประธานไอโอซี ออกมาให้สัมภาษณ์ “ ทุกเมืองที่เข้าร่วมแข่งขันล้วนมีมาตรฐานสูงด้วยกันทั้งนั้น มันแสดงให้เห็นการก้าวไปของโอลิมปิกอย่างแข็งแกร่ง ผมขอแสดงความยินดีกับเมืองที่ผ่านเข้ารอบและก็หวังว่าเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้จะได้ประโยชน์จากการกระบวนการคัดสรรต่อไป ”
ด้าน เมอร์เซเดส คอกเฮน หัวเรือใหญ่ในการผลักดันกรุงมาดริดให้มีโอกาสจัดโอลิมปิก ออกมาเผยหลังทราบผลการคัดเลือก “ เราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการโอลิมปิกและเป็นโอกาสทองที่จะได้เห็นการแข่งขันในปี 2016 ไปจัดกันที่กรุงมาดริด มหานครแห่งความทันสมัย ประกอบด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีวิถีชีวิต การงาน และการละเล่น ”
อย่างไรก็ตาม มาดริด ถือเป็นตัวเต็งอันดับ 2 ที่มีโอกาสจัดโอลิมปิกรองจาก โตเกียว แต่ก็เหนือกว่าทั้ง ชิคาโก และริโอ เด จาไนโร แต่ทาง อิชิโร โคโนะ กำลังสำคัญในการพา “โตเกียวเกมส์” หวนคืนมาอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1964 พร้อมกลับไปพัฒนาแผนงานของประเทศเพื่อเอาชนะใจไอโอซีให้ได้
“ เรามีความสุขยิ่งกับการตัดสินใจของไอโอซี เรามีความสุขกับการประเมินในครั้งนี้แต่เรายังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน ตอนนี้คงต้องกลับไปวิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อยของเราอย่างระมัดระวัง และก็พยายามสร้างจุดเด่นให้ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก ” โคโนะ กล่าวทิ้งท้าย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการโอลิมปิกสากลมีการประชุมคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอีก 8 ปีข้างหน้า โดยมี 7 เมืองจาก 7 ประเทศลงทำการชิงชัยได้แก่ ชิคาโก (สหรัฐอเมริกา), โตเกียว (ญี่ปุ่น), มาดริด (สเปน), ริโอ เด จาไนโร (บราซิล), ปราก (สาธารณรัฐเช็ก), โดฮา (กาตาร์) และบากู (อาเซอร์ไบจาน)
ซึ่งการคัดเลือกในรอบแรกปรากฏว่า นครโดฮา, กรุงปราก และเมืองบากู หลุดโผไปทำให้มีเพียง 4 เมืองสำคัญของโลกอย่าง ชิคาโก, โตเกียว, มาดริด และริโอ เด จาไนโร เข้าไปลุ้นว่าจะได้รับการประกาศชื่อให้เป็นเจ้าภาพหรือไม่ในวันที่ 2 ตุลาคมปี 2009 ในการประชุมไอโอซีที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โดยหลังการเฟ้นหาเจ้าภาพโอลิมปิกในเบื้องต้น ฌาร์ก โรกก์ ประธานไอโอซี ออกมาให้สัมภาษณ์ “ ทุกเมืองที่เข้าร่วมแข่งขันล้วนมีมาตรฐานสูงด้วยกันทั้งนั้น มันแสดงให้เห็นการก้าวไปของโอลิมปิกอย่างแข็งแกร่ง ผมขอแสดงความยินดีกับเมืองที่ผ่านเข้ารอบและก็หวังว่าเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้จะได้ประโยชน์จากการกระบวนการคัดสรรต่อไป ”
ด้าน เมอร์เซเดส คอกเฮน หัวเรือใหญ่ในการผลักดันกรุงมาดริดให้มีโอกาสจัดโอลิมปิก ออกมาเผยหลังทราบผลการคัดเลือก “ เราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการโอลิมปิกและเป็นโอกาสทองที่จะได้เห็นการแข่งขันในปี 2016 ไปจัดกันที่กรุงมาดริด มหานครแห่งความทันสมัย ประกอบด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีวิถีชีวิต การงาน และการละเล่น ”
อย่างไรก็ตาม มาดริด ถือเป็นตัวเต็งอันดับ 2 ที่มีโอกาสจัดโอลิมปิกรองจาก โตเกียว แต่ก็เหนือกว่าทั้ง ชิคาโก และริโอ เด จาไนโร แต่ทาง อิชิโร โคโนะ กำลังสำคัญในการพา “โตเกียวเกมส์” หวนคืนมาอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1964 พร้อมกลับไปพัฒนาแผนงานของประเทศเพื่อเอาชนะใจไอโอซีให้ได้
“ เรามีความสุขยิ่งกับการตัดสินใจของไอโอซี เรามีความสุขกับการประเมินในครั้งนี้แต่เรายังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน ตอนนี้คงต้องกลับไปวิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อยของเราอย่างระมัดระวัง และก็พยายามสร้างจุดเด่นให้ยิ่งเด่นขึ้นไปอีก ” โคโนะ กล่าวทิ้งท้าย