xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกา...หน้าไม่อาย / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

นับตั้งแต่ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนวงการกีฬาอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังในยุคปี 70 การจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬานานาชาติ ตั้งแต่ระดับโลกไปจนถึงระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น โอลิมปิค เกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือ ซีเกมส์ รวมไปถึงการจัดการแข่งขันเฉพาะชนิดกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล เทนนิส กอลฟ์ ว่ายน้ำ แบดมินตัน ฯลฯ ใครที่ได้รับสิทธิ์ให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็มักจะได้รับผลประโยชน์มากมาย ทั้งเงินกำไรที่เกิดจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดโทรทัศน์ การขายบัตรเข้าชมการแข่งขัน สินค้าที่ระลึก เกิดการสร้างงาน เงินแพร่สะพัด นอกจากนั้น แม้การแข่งขันจะผ่านพ้นไปแล้ว การท่องเที่ยวของประเทศนั้นก็ยังเจริญเติบโตในอัตราสูง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ใครๆก็อยากเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

สำหรับ โอลิมปิค เกมส์ นั้น ผมเห็นจะมีเพียง มงเรอัล ( Montreal ) ของแคนาดาเท่านั้นที่เป็นเจ้าภาพในปี 1976 แล้วขาดทุนย่อยยับ ต้องเป็นหนี้บักโกรกอยู่ร่วม 30 ปีจึงจะจ่ายหนี้สินจนครบถ้วน เพราะตอนนั้น มงเรอัล ดันไปจ้าง โรเช ไตยีแบร์ ( Roger Taillibert ) สถาปนิกชาวฝรั่งเศสออกแบบ โอลิมปิค สเตเดียม หมอนี่ละเลงซะหรูหรา ล้ำสมัย มีหลังคาเลื่อนเปิด-ปิดได้ และหอคอยสูงตระหง่าน มูลค่าตอนนั้น 770 ล้านเหรียญแคนาดา หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งภายหลัง เขามีการคำนวณมูลค่าการก่อสร้าง การปรับปรุง ซ่อมแซม รวมทั้งดอกเบี้ย แถมเจอภาวะเงินเฟ้อเข้าไปอีก ปรากฏว่า รัฐบาลเกเบ็ก ( Quebec ) ต้องจ่ายเงินไปทั้งหมด 1,610 ล้านเหรียญแคนาดา หรือประมาณ 52,000 ล้านบาท เพิ่งจะชำระเสร็จสิ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2006 นี่เอง โดยที่เจ้าหลังคาของ โอลิมปิค สเตเดียม เฮงซวยนี้ มันก็ไม่เห็นจะเลื่อนเปิด-ปิดได้เลย นอกจากนั้น หอคอยสูง 175 เมตรก็เพิ่งจะสร้างเสร็จหลังจาก มงเรอัล 1976 จบลงไปแล้วตั้งนาน

ผมต้องเรียนท่านผู้อ่านว่า ชื่อเมือง มงเรอัล นั้น มาจากภาษาฝรั่งเศส เวลาอ่าน ต้องแยกคำให้ถูกครับ Mont อ่านว่า “ มง ” แปลว่า ภูเขา กับ real อ่านว่า “ เรอัล ” คำนี้มีความหมายเดียวกับ royal รวมคำแล้วจะหมายถึง ราชสิงขร ทำนองนั้น ฝรั่งไม่น้อย ไม่รู้หรอก เผลอไปอ่าน โดยแยกคำผิดเป็น Mon กับ treal มันก็เลยกลายเป็น มอนทรีออล

กลับมาที่การจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครับ อย่างที่ผมว่า เมืองไหนๆเป็นเจ้าภาพแล้ว ล้วนแต่มีกำไรทั้งนั้น โดยเฉพาะที่ฟันกำไรเละเทะ เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาลต่อมาอีกนานเท่านาน นั่นก็คือ แอตแลนตา จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี 1996 ซึ่งเป็น โอลิมปิค เกมส์ ครั้งแรกด้วยที่ทางเมืองเจ้าภาพไม่ต้องใช้เงินทุนจากภาครัฐเลย งบประมาณที่ลงไป 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 60,300 ล้านบาทนั้นมาจากภาคธุรกิจล้วนๆ โดยเฉพาะ สปอนเซอร์รายใหญ่ๆ รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน และลิขสิทธิ์ถ่ายทอดโทรทัศน์ไปทั่วโลก

ที่ผ่านมา 28 โอลิมปิค เกมส์ รวมปี 2008 และ 2012 เข้าไปด้วยก็เป็น 30 ครั้ง มีชาติจากทวีปยุโรปได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมากที่สุด 16 ครั้ง รองลงมาก็เป็น ทวีปอเมริกาเหนือ 6 ครั้ง เอเชีย 3 ครั้ง ออสตราเลีย 2 ครั้ง ยกเลิกไป 3 ครั้งในปี 1916, 1940 และ 1944 ส่วนทวีปอเมริกาใต้และอัฟริกานั้น ยังไม่เคยได้โอกาสเลย โดยถ้านับย้อนกลับไปเพียง 20 กว่าปีเท่านั้น ลำพังสหรัฐฯ ชาติเดียวก็สวาปามเข้าไปถึง 2 ครั้ง คือ ลอส แอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย 1984 และ แอตแลนตา จอร์เจีย ก็เพิ่งเป็นเจ้าภาพไปในปี 1996 แล้วตอนนี้ ชิคาโก อิลลินอยส์ ยังมีหน้ามาเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ 2016 อีกแล้ว

กระบวนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โอลิมปิค เกมส์ 2016 นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2007 โดยแต่ละชาติที่อยากชิงสิทธิ์ดังกล่าว ต้องแจ้งความจำนงค์ ส่งใบสมัครไปที่ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล หรือ IOC ไม่ช้ากว่าวันที่ 13 กันยายน 2007 ต่อจากนั้น ก็ต้องส่งรายละเอียดซึ่งเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับความพร้อมด้านต่างๆรวม 25 ข้อไปให้ ไอโอซี ภายในวันที่ 14 มกราคม 2008 ซึ่งมีเมืองต่างๆ 21 เมืองขอเสนอตัว แต่ในจำนวนนี้ กรุงเทพมหานคร กับอีก 13 เมืองได้ขอถอนตัวไปก่อน คงเหลือเพียง 7 เมืองเท่านั้นที่ยังโก่งตัวลุ้น และเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากตรวจเอกสารและคิดเป็นคะแนนออกมาแล้ว ไอโอซี ก็ประกาศรายชื่อ 4 เมืองที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกคือ ชิคาโก ของสหรัฐฯ ได้ 7.0 คะแนน มาดริด ของสเปน ได้ 8.1 คะแนน ริโอ เดอ จาไนโร ของ บราซิว ได้ 6.4 คะแนน และ โตเกียว ของญี่ปุ่น ได้ 8.3 คะแนน

ส่วน 3 เมืองที่ตกรอบเอกสาร ก็คือ บากู ของอาเซอร์ไบจัน ปราก ของสาธารณรัฐเช็ก และ โดฮา ของกาตาร์ โดยเฉพาะ โดฮา ที่ตกรอบทั้งๆที่ได้คะแนนมากว่า ริโอ เดอ จาไนโร ด้วยซ้ำ แต่ ไอโอซี ตัดออกไปอย่างหน้าด้านๆ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ยินดีกับ โดฮา ที่ต้องการจัดการแข่งขันในเดือนตุลาคม นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ทาง ไอโอซี ยังไม่พอใจ

เมืองใดจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 31 ในปี 2016 นั้น เขาจะโหวตกันในวันที่ 2 ตุลาคม 2009 ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ดังนั้น ถ้าโอลิมปิคเอเชีย อัฟริกา อเมริกาใต้ และออสตราเลีย ไม่ช่วยกันล็อบบี เพื่อให้ต่อแต่นี้ไปมหกรรมกีฬาอันก่อให้เกิดความมั่งคั่ง การพัฒนาเฉลี่ยไปทั่วทุกมุมโลก แทนที่จะเป็น ริโอ เดอ จาไนโร หรืออย่างน้อยก็ โตเกียว แต่ดันปล่อยให้หวยล็อคไปลงที่ ชิคาโก หรือ มาดริด ละก็ ถือว่าไม่ฉลาดเอามากๆ และเห็นแก่กินครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น