“มาเรีย” เจ๊งหนนี้ เสียหายหลายแสน?

ศึกเทนนิสเฟรนช์ โอเพ่นประจำฤดูกาล 2008 นอกเหนือจากจะเป็นโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ 4 สแลมครั้งแรกของ “มาเรีย ชาราโปว่า” ทว่าสังเวียนโรลองด์ การ์รอสแห่งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสามารถของเธอในฐานะผู้สานต่อตำแหน่งมือ 1 โลก จาก “จัสติน เอแนง” ที่วางมือไปเมื่อเดือนพฤษภาคม อีกด้วย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ล่าสุด นอกจากหวดสาวชาวรัสเซียจะหมดสิทธิ์ฉลองแชมป์แกรนด์ สแลมครบทั้ง 4 รายการแล้ว บัลลังก์มือ 1 โลกที่เธอยึดมาได้กว่า 2 สัปดาห์ยังมีทีท่าว่าจะเริ่มสั่นคลอนเสียด้วย หลังความปราชัยแบบพลิกความคาดหมาย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

ชาราโปว่า เต็ง 1 ของรายการจากรัสเซีย พลาดท่าพ่ายพลิกล็อกให้กับ ดินารา ซาฟิน่า มือวางอันดับ 13 เพื่อนร่วมชาติ 1-2 เซต 7-6 (8-6), 6-7 (5-7), 2-6 ในการแข่งขันรอบ 4 ศึกเทนนิสเฟรนช์ โอเพ่น เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหลังจากคว้าชัยไปก่อนในเซตแรก 7-6 (8-6) และขึ้นนำในเซตที่สอง 1-0 เกมก็มีอันต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลาราว 90 นาที เนื่องจากมีฝนตกลงมา อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนของเกมมาเกิดขึ้นขณะที่ ซาฟิน่า ตามหลัง ชาราโปว่า อยู่ 5-2 ในเซตที่สอง และกำลังจากเสียแมตซ์พ้อย มือวางอันดับที่ 13 ออกแรงฮึดพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยการเอาตัวรอดก่อนคว้าชัยในการดวลไทเบรก 7-6 (7-5) และมาปิดแม็ตซ์สำเร็จในการเอาชนะในเซตตัดสิน 6-2 โดยใช้เวลาหวดกันไปทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 52 นาที

ภายหลังเกม ชาราโปวา ซึ่งตีเสียเอง 46 ครั้งและหวดดับเบิ้ลฟอลต์ไป 7 ครั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมีโอกาสมากมายกับการเป็นผู้ชนะ แต่ไม่สามารถทำโอกาสตรงนั้นได้มันค่อนข้างโชคร้ายทีเดียว นี่เป็นแมตช์ที่ต้องใช้สภาพร่างกายเข้าแข่งขันกัน ดินารา (ซาฟินา) ค่อนข้างประสบความสำเร็จบนคอร์ตดิน เธอจึงเป็นคู่แข่งที่เล่นด้วยยากเมื่อเจอกันบนสภาพพื้นผิวแบบนี้ จนฉันมาผิดพลาด และนี่ก็เป็นวันที่แย่ไม่น้อย”

ด้าน ซาฟินา ซึ่งโชว์ฟอร์มสยบ ชาราโปวา เป็นหนที่สามจากการพบกันมา 6 ครั้ง และเป็นหนที่สอง ในเฟรนช์ โอเพ่น (ซาฟินา เคยเขี่ย ชาราโปว่า ร่วงรอบ 4 มาแล้ว เมื่อปี 2006) เผยหลังผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายสำเร็จว่า “ หลังจากเป็นแชมป์ที่เบอร์ลิน นี่เป็นอีกแมตช์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ว่าได้ มันเป็นหนึ่งในการคัมแบ็กที่สุดยอดเลย ก่อนแข่งฉันคิดว่ามีโอกาสล้ม มาเรีย (ชาราโปวา) แต่มันก็สร้างความกดดันให้ตัวเองเหมือนกัน และเธอก็มาได้แม็ตช์พอยด์ทุกอย่างอยู่ในมือ มาเรีย แต่ฉันยิงวินเนอร์ในลูกแม็ตช์พอยด์ สถานการณ์เปลี่ยนไปในทันทีเพราะฉันไม่ยอมอะไรง่ายๆ ”

ทั้งนี้ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ความพ่ายแพ้ชนิดหักปากกาเซียนของ ชาราโปว่า ที่มีต่อมือรองบ่อนเพื่อนร่วมชาติ จนเป็นเหตุให้ต้องกระเด็นหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์แกรนด์ สแลมรายการที่ 2 ของปี ได้สร้างความผิดหวังให้กับแฟนเทนนิสทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ต้องการเห็นการรีแม็ตซ์ของ 2 นางฟ้าแห่งวงการลูกสักหลาด อย่าง ชาราโปว่า กับ อนา อิวาโนวิช มือ 2 ของโลกจากเซอร์เบีย หลังจากทั้งคู่เคยพบกันมาแล้วในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ทว่ามากกว่าการอดชม “สงครามนางฟ้า” รอบสอง ความพ่ายแพ้หนนี้ของ ชาราโปว่า อาจเรียกได้ว่า สร้างความเสียหายให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะนอกจาก ชาราโปว่า จะไม่สามารถประกาศความยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ซึ่งเป็นเพียงแกรนด์ สแลมเดียวที่เธอยังไม่เคยได้สัมผัส และเพื่อพิสูจน์ว่า ตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งมือ 1 โลก หลัง เอแนง วางมือ ความปราชัยครั้งนี้น่าจะส่งผลต่อเก้าอี้มือ 1 โลกของเธอค่อนข้างสูง หาก อิวาโนวิช เยเลน่า แยนโควิช หรือ สเวตลาน่า คุซเนตโซว่า คนใดคนหนึ่งสามารถก้าวขึ้นครองตำแหน่งราชินีเคลย์คอร์ตในศึกเฟรนช์ โอเพ่นได้สำเร็จ

ถึงเวลานี้ ดูเหมือนเส้นทางในการลุ้นแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ของ อิวาโนวิช รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว จะสดใสเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นด้วยผลงานหรือฟอร์มการเล่นในรอบที่ผ่านมา และหากหวดสาวจากเซอร์เบีย ไม่พลาดตกสวรรค์ไปอีกราย แน่นอนว่า ความปราชัยหนนี้คงเป็นบทเรียนราคาแพงของ “มาเรีย ชาราโปว่า”