หลังการอำลาวงการลูกสักหลาดของ จัสติน เอแนง เมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคม 51ผ่านพ้นไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาพร้อมทั้งเสียงชื่นชมจากเพื่อนร่วมวงการ แต่นอกจากความอาลัยในฝีมือที่เอแนงได้ทิ้งไว้ให้แล้วตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ที่ว่างลง พลันความสนใจของคนทั้งวงการก็พากันจับจ้องไปยังผู้ที่จะมีแทนทีหรือมีโอกาสครองบัลลังก์ราชินีแห่งวงการเทนนิส อย่าง มาเรีย ชาราโปว่า
หากไม่มีความผิดพลาดใดการจัดอันดับนักเทนนิสหญิงของดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ประจำสัปดาห์ที่ 19 – 25 พฤษภาคม 51 ชื่อของมาเรีย ชาราโปว่า ที่เพิ่งขอถอนตัวจากการแข่งขัน อิตาลี โอเพ่น จะถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับหนึ่งของโลกแทนที่ จัสติน เอแนง ผู้จากไปโดยมี อนา อิวาโนวิช ตามมาเป็นหมายเลขสอง
เมื่อมองสถานการณ์ของวงการเทนนิสหญิง ณ เวลานี้แล้วแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ของนักเทนนิสคลื่นลูกใหม่ที่แจ้งเกิดในช่วงปี 2000 ส่วนคลื่นลูกเก่าที่เคยรุ่งโรจน์ในยุค 90 มีอันต้องทยอยเดินโบกมืออำลาวงการ หรือปลิดขั้วตนเองออกจากตำแหน่งในท้อป 5 และการตัดสินใจของ เอแนง ในเวลานี้ดูเหมือนว่าจะทำให้อุปสรรคชิ้นโต ที่เหล่านักเทนนิสหญิงทั้งวงการต่างเกรงในบารมี และ ฝีมือแอบถอนหายใจโล่งอกไปตามกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเรีย ชาราโปว่า ที่มีสถิติการดวลแร็กเก็ตกับเอแนงมาแล้วถึง 9 ครั้งหากเธอสามารถเอาชนะได้เพียง 3 ครั้งเมื่อหมดคู่แข่งคนสำคัญไปเสียหนึ่งรายถึงเวลานี้ มาเรีย ที่ครองแกรนด์สแลมมาแล้วสามรายการอันได้แก่ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น (2008) ยูเอส โอเพ่น (2006) และ วิมเบิลดัน (2004) ขาดแต่เพียงเฟรนช์ โอเพ่นที่กำลังจะแข่งขันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงเวลาที่มาเรีย น่าจะมีโอกาสมาที่สุดที่จะได้เก็บโทรฟี่รายการเมเจอร์ให้ครบทั้งสี่ใบ
ถามว่าเวลานี้นอกจากสาวรัสเซีย อย่างชาราโปว่าแล้วยังมีนักเทนนิสหญิงรายใดที่พอจะมีฝีมือและบารมีขึ้นมาต่อกรกับชาราโปว่าในตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกได้บ้าง คำตอบอาจดูจะยากเย็นไปสักหน่อยเพราะถ้าเทียบเบอร์กระดูกกันแล้ว ชาราโปว่า ที่นอกจากจะมีความสวยมัดใจหนุ่มได้ทั่วโลกแล้วฝีมือของเธอก็อยู่ในขั้นที่เรียกว่า “เกิดมาเพื่อเทนนิส” เพราะนอกจากแกรนด์สแลมทั้งสามรายการที่เธอได้ครอบครองแล้วผลงานในดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ มาเรีย ก็คว้าแชมป์มาครองได้ถึง 19 ครั้งหลังจากอยู่ในวงการมาเพียง 7 ปี
ด้วยความแข็งแกร่งทั้งกายภาพและฝีมือหากคู่สาวเซิร์บอย่าง อนา อิวาโนวิช และ เยเลน่า แยนโควิช ต้องการท้าประลองเพื่อชิงตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลกดูจะยากลำบากมิใช่น้อยเพราะสองสาวที่แม้จะมีอายุใกล้เคียงกับมาเรีย แต่ประสบการณ์และผลงานดูจะยังห่างชั้นกว่ากันอยู่มาก คงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองถึงสามฤดูกาลแฟนเทนนิสชาวเซิร์บ ถึงจะมีโอกาสได้เห็นพวกเธอขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของชาราโปว่า
นอกจากสองสาวเซิร์บแล้ว คงลืมไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองอดีตราชินีบนคอร์ตอย่าง วีนัส และ เซเรน่าสองพี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์ ที่ช่วงหลังผลงานดูจะแผ่วไปไม่น้อย ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเธอไม่เปรี้ยงปร้างดังเช่นในอดีตเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ และสมาธิโดยเฉพาะเซเรน่า ที่ช่วงหนึ่งถึงกับหลงแสงสีวงการบันเทิงและแฟชั่น จนทำให้อันดับโลกของเธอร่วงอย่างน่าใจหาย
เวลานี้สองพี่น้องตระกูลวิลเลี่ยมส์ยังมีอันดับติดอยู่ในท้อป 10 ของดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์ โดยเซเรน่า เป็นมือวางอันดับที่ 6 ของโลกขณะที่ วีนัส อยู่ในลำดับที่ 9 แน่นอนว่าหนทางที่พวกเธอจะกลับขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของโลกดังเช่นในอดีตยังคงพอมีเพราะวัยของพวกเธอยังไม่มากนัก ขณะที่ฝีมือก็มิได้เป็นรอง มาเรีย หากแต่ความมุ่งมั่นของพวกเธอยังเป็นปัจจัยที่เหล่าเกจิริมคอร์ตรวมไปถึงแฟนคลับของสองสาวยังคงเป็นกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซเรน่า ที่ระยะหลังสมาธิจะไม่จดจ่ออยู่ที่เทนนิสเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว
ไม่เพียงสี่สาวที่ถูกเอ่ยนามในข้างต้นจะเป็นพวกที่มีโอกาสช่วงชิงบัลลังก์ราชินีเทนนิสมาจาก มาเรีย ชาราโปว่า ต้องไม่ลืมว่าคลื่นลูกใหม่ที่พยายามล้มและไล่ตามก็ยังไม่เลิกความพยายาม โดยเฉพาะกรุ๊ปสาวยุโรปตะวันออกอย่าง ฮันตูโชว่า, เดเมนเทียว่า หรือแม้แต่เพื่อนร่วมชาติของมาเรีย อย่าง สเวตลาน่า คุซเนตโซว่า
คงจะไม่ผิดไปจากสถานการณ์สักเท่าใดนักหากจะบอกว่า ฤดูกาล 2008 สำหรับนักเทนนิสหญิงในดับเบิ้ลยูทีเอทัวร์เพิ่งจะเริ่มต้นอย่างจริงจัง เพราะนอกจากแกรนด์สแลม ที่ต้องขับเคี่ยวในอีกสามรายการที่เหลือแล้วตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งยังเปิดโอกาสไว้ให้ช่วงชิงสำหรับคนที่คิดว่า “มีฝีมือ”