แฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือคนเก่งของ “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ รับฝันเป็นจริงหลังพาต้นสังกัดผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองเป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสร
เอ็นวานโก คานู กองหน้าตัวเก๋าทีมชาติไนจีเรียสวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 37 ช่วยให้ ปอร์ทสมัธ ทีมอันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เฉือนชนะ “เดอะ บลูเบิร์ดส” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 1-0 รองบ่อนจากเดอะแชมเปี้ยนชิป ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2007/08 ที่สังเวียนแข้งเวมบลีย์ในกรุงลอนดอน คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ภายหลังการแข่งขัน แฮร์รี เรดแนปป์ ออกมาเผย “ มันเป็นความยอดเยี่ยมยิ่งสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของผมหรือบรรดานักเตะ มันสุดยอดจริงๆ เพราะเราเจอกับปีที่ยากจนกระทั่งฝันมาเป็นจริงเมื่อคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ ”
นอกจากนี้ เรดแนปป์ กล่าวถึงรูปเกมและก็ให้เครดิตกับคู่แข่งด้วย “ คาร์ดิฟฟ์ สร้างความกดดันให้กับลูกทีมของผม พวกเขาโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ พวกเขาเล่นฟุตบอลกันได้ดีและทำงานกันอย่างหนัก ทว่าเราก็เล่นเกมรับกันได้อย่างน่าเกรงขามเช่นกันหลังจากที่ออกนำ ”
ด้าน โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังกัปตันทีม “ปอมปีย์” เผยบ้าง “ มันยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรปอร์ทสมัธ เราทำงานกันอย่างหนักและก็มีโชคมาเข้าข้างบ้างในการผ่านเข้ารอบมา จนกระทั่งเราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องชื่นชม คาร์ดิฟฟ์ ที่เล่นฟุตบอลกันได้ดี พยายามสร้างโอกาสให้ตัวเอง ”
สุดท้าย เดวิด เจมส์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษออกมาให้สัมภาษณ์หลังพา ปอร์ทสมัธ เป็นแชมป์ถ้วยเก่าแก่ของประเทศ “ นี่เป็นเกมที่หนักหนึ่งประตูก็เพียงพอสำหรับการตัดสินเกมและเราสมควรเป็นผู้ชนะ ”
สำหรับ ปอร์ทสมัธ เคยคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองก่อนหน้านี้ต้องย้อนกลับไปในปี 1939 แต่ล่าสุดบรรดาขุนพลแข้ง “ปอมปีย์” ทำให้แฟนๆ ที่รอคอยกันมานาน 69 ปีสมหวังและในฤดูกาลหน้าทีมยังได้สิทธิไปโม่เกือกในศึกลูกหนังยูฟ่า คัพ อีกด้วย
เอ็นวานโก คานู กองหน้าตัวเก๋าทีมชาติไนจีเรียสวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 37 ช่วยให้ ปอร์ทสมัธ ทีมอันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เฉือนชนะ “เดอะ บลูเบิร์ดส” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 1-0 รองบ่อนจากเดอะแชมเปี้ยนชิป ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2007/08 ที่สังเวียนแข้งเวมบลีย์ในกรุงลอนดอน คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ภายหลังการแข่งขัน แฮร์รี เรดแนปป์ ออกมาเผย “ มันเป็นความยอดเยี่ยมยิ่งสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของผมหรือบรรดานักเตะ มันสุดยอดจริงๆ เพราะเราเจอกับปีที่ยากจนกระทั่งฝันมาเป็นจริงเมื่อคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ ”
นอกจากนี้ เรดแนปป์ กล่าวถึงรูปเกมและก็ให้เครดิตกับคู่แข่งด้วย “ คาร์ดิฟฟ์ สร้างความกดดันให้กับลูกทีมของผม พวกเขาโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ พวกเขาเล่นฟุตบอลกันได้ดีและทำงานกันอย่างหนัก ทว่าเราก็เล่นเกมรับกันได้อย่างน่าเกรงขามเช่นกันหลังจากที่ออกนำ ”
ด้าน โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังกัปตันทีม “ปอมปีย์” เผยบ้าง “ มันยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรปอร์ทสมัธ เราทำงานกันอย่างหนักและก็มีโชคมาเข้าข้างบ้างในการผ่านเข้ารอบมา จนกระทั่งเราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องชื่นชม คาร์ดิฟฟ์ ที่เล่นฟุตบอลกันได้ดี พยายามสร้างโอกาสให้ตัวเอง ”
สุดท้าย เดวิด เจมส์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติอังกฤษออกมาให้สัมภาษณ์หลังพา ปอร์ทสมัธ เป็นแชมป์ถ้วยเก่าแก่ของประเทศ “ นี่เป็นเกมที่หนักหนึ่งประตูก็เพียงพอสำหรับการตัดสินเกมและเราสมควรเป็นผู้ชนะ ”
สำหรับ ปอร์ทสมัธ เคยคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองก่อนหน้านี้ต้องย้อนกลับไปในปี 1939 แต่ล่าสุดบรรดาขุนพลแข้ง “ปอมปีย์” ทำให้แฟนๆ ที่รอคอยกันมานาน 69 ปีสมหวังและในฤดูกาลหน้าทีมยังได้สิทธิไปโม่เกือกในศึกลูกหนังยูฟ่า คัพ อีกด้วย