ถือเป็นประเด็นร้อนของวงการลูกสักหลาดในเวลานี้ สำหรับการเปิดฉากงัดข้อ สมาพันธ์เทนนิสอาชีพหญิง หรือ “ดับเบิลยูทีเอ” ของ “มาเรีย ชาราโปว่า” ยอดนักเทนนิสมือ 3 ของโลกชาวรัสเซีย หลังเธอออกมากล่าวโจมตีฝ่ายจัดการแข่งขันว่า เป็นพวกบ้าอำนาจ เนื่องจากพยายามบังคบให้เธอบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อถ่ายรูปโปรโมตการแข่งขัน มิฉะนั้นจะถูกปรับเงินมากกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.5 ล้านบาท เลยทีเดียว
หลังจากที่ ชาราโปว่า หวดสาวสวย วัย 21 ปี จากแดนหมีขาว ตัดสินใจระบายความอัดอั้นตันใจในเว็บไซต์ส่วนตัว (www.mariasharapova.com) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เธอกำลังถูกดับเบิลยูทีเอ บีบบังคับให้เดินทางไปถึงการแข่งขันก่อน 2-3 วัน เพื่อที่จะได้ร่วมถ่ายรูปโปรโมตรายการอิตาเลียน โอเพ่น ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี มิเช่นนั้นเธอจะถูกปรับเงินมากกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9.5 ล้านบาท
พลันที่ความรู้สึกดังกล่าวแพร่ขยายไปก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกออกเป็นสองเสียงด้วยกัน คือ สมควรแล้วหรือที่ ‘นางฟ้ารัสเซีย’ จะออกมาประณามผู้ที่ถือว่า มีบุญคุณอย่าง ดับเบิลยูทีเอ และอีกเสียงที่มองว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันนั้นเคร่งครัดและวางกฎระเบียบหยุมหยิมมากเกินไป
ทั้งนี้ ชาราโปว่า เผยในเว็บไซต์ส่วนตัวว่า “ฉันต้องการให้แฟนๆ รู้ว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันบังคับฉันและเพื่อนนักเทนนิสระดับท็อปคนอื่นๆ ให้บินไปเพื่อถ่ายภาพการตลาด 4 ชั่วโมง ซึ่งพวกเขาบอกว่า ต้องการให้ฉันถ่ายรูปในวันอาทิตย์ จันทร์ หรือไม่ก็ อังคาร ที่โรม หลังจากนั่งเครื่องนานกว่า 12 ชั่วโมงจากแอลเอ”
“ฉันวางกฎระเบียบส่วนตัวเอาไว้แล้วว่า จะไม่ถ่ายรูปก่อนการแข่งขัน เพราะถือเป็นการทำลายสมาธิก่อนลงสนาม และฉันก็ต้องการมุ่งมั่นไปที่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น กล่าว “แต่เวลานี้ ดับเบิลยูทีเอ บอกว่า ถ้าฉันไม่ทำตามที่พวกเขาต้องการ ก็จะถูกปรับ ดูซิว่า พวกเขาชื่นชอบที่จะปรับนักกีฬามากแค่ไหน และขอพูดด้วยความสัตย์จริงว่า ฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยโปรโมตการแข่งขันมากเท่าที่จะทำได้ แต่การบังคับให้ถ่ายรูปเพื่อการตลาดก่อนทัวร์นาเมนต์ Tier I นั้นถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง”
ซึ่งนั่นอาจถือเป็นมุมมองของนักกีฬาระดับท็อป อย่าง ชาราโปว่า ที่มักได้รับสิทธิ์บายไม่ต้องลงทำการแข่งขันในรอบแรก ซึ่งก็หมายความว่า หากทัวร์นาเมนต์ออกสตาร์ทในวันจันทร์ กว่าที่เธอจะมีคิวลงสนามก็ปาไปวันพุธ กลางสัปดาห์เลย และแน่นอนว่า เธอคงไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาถึงสนามก่อนแผนการที่เตรียมไว้
อย่างไรก็ตามหากจะว่ากันตามจริง ก่อนหน้านี้หวดสาวจากแดนหมีขาวหวิดถูกดับเบิลยูทีเอ สั่งปรับเงินกว่า 125,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4 ล้านบาทมาแล้ว จากข้อหาเบี้ยวหวดศึกเยอรมัน โอเพ่น ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ทว่าด้วยกฎที่ว่า นักกีฬาสามารถถอนตัวเนื่องจากบาดเจ็บได้ 2 ครั้งต่อปี โดยไม่เจอปรับ ชาราโปว่า จึงรอดตัวไป (ซึ่งกรณีนี้ต่างจากการถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ที่ดูไบและไมอามี่ เพราะชาราโปว่า แก้ตัวด้วยการยอมสละเวลาไปเข้าร่วมการโปรโมตทัวร์นาเมนต์ ดังนั้นการถอนตัวทั้ง 2 ครั้งแรก จึงไม่นับรวมในโควตาที่มีอยู่)
ขณะที่ฤดูกาลก่อนสองนักหวดชื่อดังจากสหรัฐฯ อย่าง “เซเรน่า วิลเลี่ยมส์” และ “แอนดี้ ร็อดดิก” ต่างก็ออกมาบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงกฎระเบียบอันแสนจะจุกจิกในการถอนตัวจากการแข่งขัน ซึ่งวิลเลี่ยมส์คนน้อง ที่ถอนตัวจากการแข่งขันแม็ตช์แรกในรายการโซนี่ อีริคส์สัน แชมเปี้ยนชิปส์ ออกาการเซ็ง เมื่อไม่สามารถไปพบแพทย์ที่บ้านเกิดได้ เพราะติดภารกิจต้องเข้าร่วมงานปาร์ตี้หลังทัวร์นาเมนต์ตามคำสั่งของฝ่ายจัดการแข่งขัน “มันเป็นเรื่องน่าขันและไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฉันไม่สามารถไปตรวจร่างกายเพราะงานปาร์ตี้” เซเรน่า เหน็บ
ด้าน เอร็อด ซึ่งประสบปัญหาเดียวกัน หลังถอนตัวจากการแข่งขันปารีส มาสเตอร์ส บ่นอุบว่า “ผมถูกปรับ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ (หรือราว 6 แสนบาท) สำหรับการถอนตัว ซึ่งวิธีที่จะหลีกเลี่ยงบทลงโทษ ก็คือ ต้องอยู่ในปารีสอีกราว 4-5 วัน เพื่อโปรโมตทัวร์นาเมนต์”
อย่างไรก็ดี หากหันมามองในมุมของฝ่ายจัดการแข่งขันอย่าง “ดับเบิลยูทีเอ” หรือ “เอทีพี” กันบ้าง การออกมาแสดงความคิดเห็นในแง่ลบต่อสถาบันอันเรียกได้ว่า เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของพวกเขานั้นถือเป็นสิ่งที่สมควรทำแล้วหรือ โดยเฉพาะเมื่อความผิดเกิดจากการแหกกฎระเบียบที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการช่วยกันโปรโมตทัวร์นาเมนต์ ก็ถือเป็นภาระหน้าที่อันพึ่งปฏิบัติของนักกีฬา โดยเฉพาะพวกบิ๊กเนมทั้งหลาย
นอกจากนี้ บรรดาสตาร์ดังต้องไม่ลืมว่า การที่พวกเขาสามารถแจ้งเกิดและโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำทั้งในและนอกสนามนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะดับเบิลยูทีเอและเอทีพี จัดทัวร์นาเมนต์ดีๆ ให้ได้โชว์ฝีมือ พวกเขาจะมีวันนี้ได้หรือ ดังนั้นการออกมาโวยวายเพราะเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเช่นนี้ จะเข้าทำนองที่ว่า “ดังแล้วลืมตัวหรือไม่” เชื่อว่า ทุกคนคงมีคำตอบในใจเอาไว้แล้ว...