"โปรเล็ก"ถาวร วิรัตน์จันทร์ ก้านเหล็กสายเลือดไทย ขยับอันดับทำเงินในเอเชี่ยนทัวร์ขึ้นอีก 1 ขั้นหลังจากที่สามารถผ่านตัวตัวเข้าไปเล่นในวันสุดท้ายของศึกดวลวงสวิงรายการ จีเอส คาลเท็กซ์ เมเคียว โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ และสามารถจบในอันดับที่ 42 ร่วมรับเงินรางวัลไป 3,321 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 106,272 บาท) ส่วนเหล่านักกอล์ฟสายเลือดไทยรายอื่นต่างไม่สามารถทำอันดับในตารางทำเงินเอเชี่ยนทัวร์ขึ้นได้ แถมยังนัดกันร่วงอีกด้วย จากการประกาศของเว็บไซด์เอเชี่ยนทัวร์เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับในกลุ่ม 5 อันดับแรกที่กวาดเงินรางวัลสูงสุดยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดย มาร์ค บราวน์ จากนิวซีแลนด์ที่เก็บไปแล้ว 2 แชมป์ในปีนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 ตามมาด้วย จีฟ มิลคา ซิงห์ ก้านเหล็กชาวอินเดีย ครองอันดับ 2 และ เอส เอส พี เชาวราเซีย ที่มีแชมป์ติดมือ 1 รายการ อยู่อันดับ 3 ขณะที่อันดับที่ อาร์จัน อัตวอล โปรจากอินเดียอีกรายนั้นรั้งอยู่ในอันดับที่ 4 และอันดับที่ 5 เป็น สกอตต์ สเตรนจ์ ก้านเหล็กออสซี่
ส่วนอันดับทำเงินของโปรสายเลือดไทยนั้นต่างร่วงหล่นลงไปกันเป็นทิวแถว โดยมี โปรเล็ก"ถาวร วิรัตน์จันทร์ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ขยับอันดับทำเงินขึ้น 1 ขั้นมาอยู่ที่ 21 หลังจากทำผลงานจบอันดับที่ 42 ร่วมในการแข่งขันรายการ จีเอส คาลเท็กซ์ เมเคียว โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สรุปนักกอล์ฟที่ทำเงินสูงสุด 5 อันดับแรกของเอเชียนทัวร์
1.มาร์ค บราวน์ (นิวซีแลนด์) 651,093 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 7 รายการ
2.จีฟ มิลคา ซิงห์ (อินเดีย) 540,694 เหรียญสหรัฐฯ จากการลงแข่ง 6 รายการ
3.เอส เอส พี เชาวราเซีย (อินเดีย) 439,930 เหรียญสหรัฐฯ จากการลงแข่ง 6 รายการ
4.อาร์จัน อัตวอล (อินเดีย) 419,387 เหรียญสหรัฐฯ จากการลงแข่ง 4 รายการ
5.สกอตต์ สเตรนจ์ (ออสเตรเลีย) 280,985 เหรียญสหรัฐฯ จากการลงแข่ง 7 รายการ
**15. ประหยัด มากแสง (ไทย) 126,512 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 7 รายการ
20. พรหม มีสวัสดิ์ (ไทย) 103,516 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 8 รายการ
21. ถาวร วิรัตน์จันทร์ (ไทย) 93,455 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 11 รายการ
44. ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ (ไทย) 44,510 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 10 รายการ
73. ชัพชัย นิราช (ไทย) 13,380 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 6 รายการ
