เหล่านักกอล์ฟสายเลือดไทยทั้ง "โปรหมาย"ประหยัด มากแสง,"โลมายักษ์"พรหม มีสวัสดิ์, "โปรเล็ก"ถาวร วิรัตน์จันทร์,"โปรหนึ่ง"ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ และ"โปรโจ๊ก"ชัพชัย นิราช ต่างไม่สามารถทำอันดับในตารางทำเงินเอเชี่ยนทัวร์ขึ้นได้ แถมยังนัดกันร่วงอีกด้วย จากการประกาศของเว็บไซด์เอเชี่ยนทัวร์เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับในกลุ่ม 5 อันดับแรกที่กวาดเงินรางวัลสูงสุดในขณะนี้ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น โดย มาร์ค บราวน์ จากนิวซีแลนด์ที่เก็บไปแล้ว 2 แชมป์ในปีนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 ตามมาด้วย จีฟ มิลคา ซิงห์ ก้านเหล็กชาวอินเดีย ครองอันดับ 2 และ เอส เอส พี เชาวราเซีย ที่มีแชมป์ติดมือ 1 รายการ อยู่อันดับ 3 ขณะที่อันดับที่ อาร์จัน อัตวอล โปรจากอินเดียอีกรายนั้นรั้งอยู่ในอันดับที่ 4 ส่วนอันดับที่ 5 ตกเป็นของ จโยติน รันดาวา ก้านเหล็กโรตีอีกรายรั้งอยู่ในอันดับที่ 5
ส่วนผลงานของโปรไทยนั้นต่างมีสามารถทำอันดับไต่ขึ้นมาเกาะอยู่ใน 10 อันดับแรกได้ โดย"โปรหมาย"ประหยัด มากแสง รั้งอยู่ในอันดับที่ 11 ทำเงินไปแล้ว 126,512 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านบาท จากการลงแข่ง 6 รายการ ส่วน"โลมายักษ์"พรหม มีสวัสดิ์ โปรไทยที่ทำผลงานในศึกวอลโล่ ไชน่า โอเพ่น ได้ไม่ดีนัก ร่วงจากอันดับ 14 ลงไปอยู่ในอันดับที่ 17 โดยมีเงินรวอยู่ที่ 103,516 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท จากการลงแข่ง 7 รายการ ด้าน"โปรเล็ก"ถาวร วิรัตน์จันทร์ รั้งอยู่ในอันดับที่ 19 ทำเงินไปแล้ว 90,133 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.8 จากการลงแข่ง 9 รายการ
สรุปนักกอล์ฟที่ทำเงินสูงสุด 5 อันดับแรกของเอเชียนทัวร์
1.มาร์ค บราวน์ (นิวซีแลนด์) 634,993 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 6 รายการ
2.จีฟ มิลคา ซิงห์ (อินเดีย) 516,429 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 5 รายการ
3.เอส เอส พี เชาวราเซีย (อินเดีย) 431,650 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 5 รายการ
4.อาร์จัน อัตวอล (อินเดีย) 419,387 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 5 รายการ
5.จโยติ รันดาวา (อินเดีย) 256,643 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 6 รายการ
**11. ประหยัด มากแสง (ไทย) 126,512 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 6 รายการ
17. พรหม มีสวัสดิ์ (ไทย) 103,516 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 7 รายการ
19. ถาวร วิรัตน์จันทร์ (ไทย) 90,133 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 9 รายการ
42. ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ (ไทย) 44,510 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 8 รายการ
67. ชัพชัย นิราช (ไทย) 13,380 เหรียญสหรัฐ จากการลงแข่ง 5 รายการ