xs
xsm
sm
md
lg

"ตอร์เรส" ฮีโร่อีกแล้ว! หงส์จิกเรือใบหวิว 1-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟอร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าทีมชาติสเปนสวมบทพระเอกให้กับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง หลังทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบหวุดหวิด 1-0 ทั้งที่พับสนามบุกเกือบทั้งเกม

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2551
ลิเวอร์พูล 1 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เฟอร์นานโด ตอร์เรส (แดง) พระเอกหน้าเดิมของ ลิเวอร์พูล
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นัดรองสุดท้าย ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดนี้เจ้าถิ่นสวมชุดทีมเหย้ารุ่นใหม่ลงประเดิมเป็นครั้งแรกต่อหน้าแฟนบอลตัวเองโดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวชูโรงในแนวรุก ทางด้านทีมเยือนปรับแนวรับด้วยการส่ง ซุน จีไห่ ลงยืนแบ็กขวาแล้วหุบ เวดราน ชอร์ลูก้า เข้าเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ริชาร์ด ดันน์

หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาโอกาสลุ้นทำประตูกันได้ จนกระทั่งนาทีที่ 20 ลูคัส เลว่า ออกบอลไปทางขวาให้ เดิร์ก เคาท์ กระชากหนี ไมเคิล บอลล์ ถึงเส้นหลังก่อนเปิดมาที่เสาแรกให้ ไรอัน บาเบล สอดเข้ามาโหม่งตัดหน้า โจ ฮาร์ท ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

โอกาสต่อมายังคงเป็นของหงส์แดงโดย เคาท์ แทงทะลุช่องให้ ตอร์เรส วิ่งสอดแนวรับเข้าไปกดด้วยขวาในเขตโทษ ส่งลูกหลุดออกหลังไปทางเสาไกล ก่อนที่เรือใบสีฟ้าจะได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ หยอดบอลข้ามแผงหลังให้ มาร์ติน เปตรอฟ ยิงเน้นๆ ด้วยซ้ายในเขตโทษไปชนโคนเสาอย่างจัง แต่ก็ถูกไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าด้วย

ลิเวอร์พูล ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำมากที่สุดในนาทีที่ 32 เมื่อ เอมิเลียโน่ อินซัว เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนจ่ายให้ เจอร์ราร์ด แต่งเข้าขวาแล้วปั่นโค้ง บอลทำท่าจะเสียบหน้าต่างเสาสองอยู่แล้ว ทว่า โจ ฮาร์ท โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดสุดตัวออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาทีเศษ เจอร์ราร์ด จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ ตอร์เรส หลุดแนวรับ แมนฯ ซิตี้ เข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเลือกแปหนีมือ โจ ฮาร์ท ไปทางเสาสอง แต่หนนี้ก็ยังไม่เข้ากรอบ
เจอร์ราร์ด (ขวา) บู๊สะบั้นกับ ชอร์ลูก้า
เจ้าบ้านโหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก นาทีที่ 56 ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ โชว์ทักษะพาบอลหนี ไมเคิล บอลล์ และ มาร์ติน เปตรอฟ จนหัวทิ่มหัวตำ แต่จังหวะยิงด้วยซ้ายในเขตโทษกลับผ่านหน้าประตูไปแบบน่าผิดหวัง ก่อนจะมาได้ประตูนำ 1-0 ใน 2 นาทีต่อมา เมื่อ บอลล์ เปิดบอลไปติด เคาท์ ก่อนที่กองหน้าชาวดัตช์จะจ่ายให้ ตอร์เรส พาบอลหนี ริชาร์ด ดันน์ เข้าไปแปลอดขา โจ ฮาร์ท สัมผัสตาข่ายทางเสาไกล

หงส์แดงเกือบได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 61 จากการวอลเลย์ในเขตโทษเต็มเท้าขวาของ เคาท์ แต่ โจ ฮาร์ท ยังยืนตำแหน่งดีปัดเอาไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง ลูคัส ตีลังกายิงซ้ำดาบสอง แต่ก็ยังไปตรงตัว ฮาร์ท อีก

ลิเวอร์พูล ยังคงบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว นาทีที่ 65 สตีฟ ฟินแนน ไหลบอลคืนให้ ซามี่ ฮูเปีย เปิดบอลจากด้านขวามาที่เสาแรกให้ เคาท์ โฉบเข้ามาโหม่งตัดหน้า ริชาร์ด ดันน์ บอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย จากนั้น เคาท์ ก็ได้โหม่งอีกครั้งชนิดไม่มีใครประกบในนาทีถัดมา แต่ก็ยังใส่สกอร์เพิ่มไม่ได้

เรือใบสีฟ้ามีลุ้นเจาะตาข่ายบ้างในนาทีที่ 81 จากการตะบันฟรีคิกของ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี บอลพุ่งเข้าหากรอบด้วยความแรง แต่ โฮเซ่ เรน่า ยังทุบทิ้งออกไปได้ จากนั้นเป็นทีของเจ้าบ้านโดย มาสเชราโน่ ควบบอลจากกลางสนามหนี ดีทมาร์ ฮามันน์ ก่อนกดเต็มข้อหน้าเขตโทษถูก โจ ฮาร์ท ล้มตัวปัดออกหลังไป จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 73 คะแนนได้อันดับ 4 ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ส่วน แมนฯ ซิตี้ มี 55 คะแนนเท่าเดิม รั้งที่ 9 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
– โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ลูคัส เลว่า, เดิร์ก เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, เฟอร์นานโด ตอร์เรส

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, ซุน จีไห่, เวดราน ชอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, ดาริอุส วาสเซลล์, ไมเคิล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, มาร์ติน เปตรอฟ, เอลาโน่ บลูแมร์, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
กำลังโหลดความคิดเห็น