เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปนซัดลูกที่ 21 ของตัวเองในลีกฤดูกาลนี้ เป็นประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ พร้อมทั้งหนีคู่ปรับร่วมเมืองออกไปเป็น 5 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันด้วยการบุกไปถลุง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-1
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551
ลิเวอร์พูล 1– 0 เอฟเวอร์ตัน
ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ในลีกครั้งที่ 178 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับแนวรับด้วยการถ่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไปเล่นแบ็กขวาแล้วให้ มาร์ติน สเคอร์เทล จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ ซามี่ ฮูเปีย ส่วน ลูคัส เลว่า ก็ได้ลงเล่นแทน ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ที่ติดโทษแบน ขณะที่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยังคงเป็นทีเด็ดในแดนหน้า
ฝั่งทีมเยือนแม้จะขาด ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ออสซี่ที่กระดูกเท้าแตกจนพักยาวตลอดฤดูกาลนี้ไป แต่ก็ได้ โจเซฟ โยโบ กลับมาคุมแนวรับอีกครั้ง ทำให้ โจลีออน เลสค็อตต์ กลับไปประจำการที่แบ็กซ้ายตามเดิม แดนกลางมี มิเกล อาร์เตต้า เป็นตัวป้อนชั้นดี ส่วน ยาคูบู อเย็กเบนี่ ก็เป็นหัวหอกตัวอันตราย
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้เพียงนาทีเศษ ทอฟฟี่สีน้ำเงินก็หาโอกาสยิงทักทายได้ก่อนจากจังหวะที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้บอลในแดนของหงส์แดง ก่อนดึงจังหวะม้วนหนี ชาบี อลอนโซ่ ที่เข้ามาประกบแล้วจัดการตะบันด้วยซ้ายนอกเขตโทษ แต่ไปเข้าซองของ โฮเซ่ เรน่า
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ในจังหวะเข้าทำครั้งต่อมา นาทีที่ 7 เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ฉกบอลจาก ยาคูบู ที่ลงไปช่วยเกมรับในจังหวะเสียลูกเตะมุมได้แถวหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เดิร์ก เคาท์ จะโฉบเข้าหาลูกตัดหน้า ฟิล ยากีลก้า แล้วทะลักไปเข้าทางปืนของ ตอร์เรส ที่จัดการซัดแบบเลือกมุมเสียบเสาไกล
2 นาทีต่อมา ลี คาร์สลีย์ พุ่งเข้าสไลด์ ตอร์เรส อย่างหนักแถวหน้ากรอบเขตโทษจนได้รับใบเหลืองแรกของเกม ก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะรับหน้าที่สังหารฟรีคิกหลุดออกไปทางเสาสอง จากนั้นนาทีที่ 16 เคาท์ ได้บอลจาก ตอร์เรส ก่อนสับไกไปติดบล็อกของ โยโบ ในจังหวะแรกก่อนยิงซ้ำอีกที แม้ไม่ตรงกรอบ แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ก็เอาปลอดภัยไว้ก่อน พุ่งปัดออกหลังไป
นาทีที่ 28 ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เติมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนบรรจงหยอดมาหน้าประตูให้ ไรอัน บาเบล แต่กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์เข้าชาร์จไม่ถึงบอล ลูกผ่านหน้าประตูออกไป จากนั้น 3 นาที เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกจากบริเวณเกือบสุดเส้นหลังด้านขวาเข้ามาตรงกลาง ลูคัส พยายามสอดเข้ามาโหม่งในกรอบ 6 หลา แต่ถูก ลี คาร์สลีย์ โหม่งเคลียร์ตัดหน้าได้อย่างหวุดหวิด
หงส์แดง เกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ โฮเซ่ เรน่า เตะเปิดเกมยาวขึ้นมา โยโบ โหม่งสกัดไปเข้าทาง เจอร์ราร์ด ที่จัดการวอลเลย์สวนทันทีจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ไปแล้ว ทว่าไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ เคาท์ จะได้โอกาสอีกครั้งในเขตโทษจากการแตะคืนมาให้ของ ตอร์เรส แต่ดาวเตะชาวดัตช์ ซัดออกข้างเสาไปเอง หมดครึ่งแรก เจ้าถิ่นยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียงนาทีเดียว ตอร์เรส มีโอกาสคายพิษสงอีกครั้งด้วยการลองยิงจากระยะ 25 หลา แต่ไม่ผ่านมือ ฮาวเวิร์ด จากนั้นรูปเกมในครึ่งหลังก็เริ่มไม่ปะติดปะต่อ โดยทั้งสองทีมพยายามหาจังหวะเข้าทำ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ได้ลุ้นแบบจะแจ้งมากนัก
กระทั่งนาทีที่ 88 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนายูน กองกลางตัวสำรองเติมเกมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ เคาท์ แต่งหาช่องแล้วซัดจากมุมเขตโทษ บอลแฉลบขา มานูเอล เฟอร์นานเดส ที่พยายามเข้ามาบล็อกโค้งหลุดเสาสองออกไปเพียงแค่คืบ
จากนั้นในนาทีสุดท้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลองซัดไกลจากแบบเต็มข้อด้านขวา ลูกพุ่งทแยงมุมไปทางเสาไกล แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังกระโดดปัดข้ามคานออกไปได้ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เก็บ 3 คะแนน เพิ่มเป็น 62 คะแนน รั้งอันดับ 4 ต่อไปโดยทิ้งห่างทอฟฟี่สีน้ำเงินไปเป็น 5 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ลูคัส เลว่า, ชาบี อลอนโซ่, เดิร์ก เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, ฟิล ยากีลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, ฟิล เนวิลล์, ลีคาร์สลีย์, สตีเว่น พีนาร์, มิเกล อาร์เตต้า, ลีออน ออสแมน, ยาคูบู อเย็กเบนี่
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0 (ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 1-0 นาที 5)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-4 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 25), (นิคกี้ บัตต์ 1-1 นาที 45), (เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป 1-2 นาที 52), (ไมเคิล โอเว่น 1-3 นาที 65), (โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 1-4 นาที 83)
ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 1-0 นาที 7)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551
ลิเวอร์พูล 1– 0 เอฟเวอร์ตัน
ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ในลีกครั้งที่ 178 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับแนวรับด้วยการถ่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไปเล่นแบ็กขวาแล้วให้ มาร์ติน สเคอร์เทล จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ ซามี่ ฮูเปีย ส่วน ลูคัส เลว่า ก็ได้ลงเล่นแทน ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ที่ติดโทษแบน ขณะที่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยังคงเป็นทีเด็ดในแดนหน้า
ฝั่งทีมเยือนแม้จะขาด ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ออสซี่ที่กระดูกเท้าแตกจนพักยาวตลอดฤดูกาลนี้ไป แต่ก็ได้ โจเซฟ โยโบ กลับมาคุมแนวรับอีกครั้ง ทำให้ โจลีออน เลสค็อตต์ กลับไปประจำการที่แบ็กซ้ายตามเดิม แดนกลางมี มิเกล อาร์เตต้า เป็นตัวป้อนชั้นดี ส่วน ยาคูบู อเย็กเบนี่ ก็เป็นหัวหอกตัวอันตราย
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้เพียงนาทีเศษ ทอฟฟี่สีน้ำเงินก็หาโอกาสยิงทักทายได้ก่อนจากจังหวะที่ มิเกล อาร์เตต้า ได้บอลในแดนของหงส์แดง ก่อนดึงจังหวะม้วนหนี ชาบี อลอนโซ่ ที่เข้ามาประกบแล้วจัดการตะบันด้วยซ้ายนอกเขตโทษ แต่ไปเข้าซองของ โฮเซ่ เรน่า
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ในจังหวะเข้าทำครั้งต่อมา นาทีที่ 7 เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ฉกบอลจาก ยาคูบู ที่ลงไปช่วยเกมรับในจังหวะเสียลูกเตะมุมได้แถวหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เดิร์ก เคาท์ จะโฉบเข้าหาลูกตัดหน้า ฟิล ยากีลก้า แล้วทะลักไปเข้าทางปืนของ ตอร์เรส ที่จัดการซัดแบบเลือกมุมเสียบเสาไกล
2 นาทีต่อมา ลี คาร์สลีย์ พุ่งเข้าสไลด์ ตอร์เรส อย่างหนักแถวหน้ากรอบเขตโทษจนได้รับใบเหลืองแรกของเกม ก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะรับหน้าที่สังหารฟรีคิกหลุดออกไปทางเสาสอง จากนั้นนาทีที่ 16 เคาท์ ได้บอลจาก ตอร์เรส ก่อนสับไกไปติดบล็อกของ โยโบ ในจังหวะแรกก่อนยิงซ้ำอีกที แม้ไม่ตรงกรอบ แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ก็เอาปลอดภัยไว้ก่อน พุ่งปัดออกหลังไป
นาทีที่ 28 ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เติมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนบรรจงหยอดมาหน้าประตูให้ ไรอัน บาเบล แต่กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์เข้าชาร์จไม่ถึงบอล ลูกผ่านหน้าประตูออกไป จากนั้น 3 นาที เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกจากบริเวณเกือบสุดเส้นหลังด้านขวาเข้ามาตรงกลาง ลูคัส พยายามสอดเข้ามาโหม่งในกรอบ 6 หลา แต่ถูก ลี คาร์สลีย์ โหม่งเคลียร์ตัดหน้าได้อย่างหวุดหวิด
หงส์แดง เกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ โฮเซ่ เรน่า เตะเปิดเกมยาวขึ้นมา โยโบ โหม่งสกัดไปเข้าทาง เจอร์ราร์ด ที่จัดการวอลเลย์สวนทันทีจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ไปแล้ว ทว่าไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ เคาท์ จะได้โอกาสอีกครั้งในเขตโทษจากการแตะคืนมาให้ของ ตอร์เรส แต่ดาวเตะชาวดัตช์ ซัดออกข้างเสาไปเอง หมดครึ่งแรก เจ้าถิ่นยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียงนาทีเดียว ตอร์เรส มีโอกาสคายพิษสงอีกครั้งด้วยการลองยิงจากระยะ 25 หลา แต่ไม่ผ่านมือ ฮาวเวิร์ด จากนั้นรูปเกมในครึ่งหลังก็เริ่มไม่ปะติดปะต่อ โดยทั้งสองทีมพยายามหาจังหวะเข้าทำ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ได้ลุ้นแบบจะแจ้งมากนัก
กระทั่งนาทีที่ 88 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนายูน กองกลางตัวสำรองเติมเกมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ เคาท์ แต่งหาช่องแล้วซัดจากมุมเขตโทษ บอลแฉลบขา มานูเอล เฟอร์นานเดส ที่พยายามเข้ามาบล็อกโค้งหลุดเสาสองออกไปเพียงแค่คืบ
จากนั้นในนาทีสุดท้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลองซัดไกลจากแบบเต็มข้อด้านขวา ลูกพุ่งทแยงมุมไปทางเสาไกล แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังกระโดดปัดข้ามคานออกไปได้ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 เก็บ 3 คะแนน เพิ่มเป็น 62 คะแนน รั้งอันดับ 4 ต่อไปโดยทิ้งห่างทอฟฟี่สีน้ำเงินไปเป็น 5 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ลูคัส เลว่า, ชาบี อลอนโซ่, เดิร์ก เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, ฟิล ยากีลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, ฟิล เนวิลล์, ลีคาร์สลีย์, สตีเว่น พีนาร์, มิเกล อาร์เตต้า, ลีออน ออสแมน, ยาคูบู อเย็กเบนี่
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เชลซี ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0 (ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 1-0 นาที 5)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-4 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 25), (นิคกี้ บัตต์ 1-1 นาที 45), (เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป 1-2 นาที 52), (ไมเคิล โอเว่น 1-3 นาที 65), (โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 1-4 นาที 83)
ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 1-0 นาที 7)