คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ในโลกแห่งประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการออกเสียง แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากนั้นควรเป็นอะไรที่สร้างสรรค์กั้นกรองจากมันสมองกันหน่อย มิเช่นนั้นมันอาจย้อนกลับมาทำลายตัวคุณเองก็เป็นได้
รอบแรกเพลย์ออฟของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กำลังเข้มข้น หลายซีรีส์เล่นกันหนักหน่วงแบบเอาเป็นเอาตายนั่นเป็นอรรถรสที่คอยัดห่วงหลายท่านเห็นต่างไปจากช่วงฤดูกาลปกติ และสิ่งที่ช่วยปะทุเกมให้เดือดขึ้นเป็นลำดับคงหนีไม่พ้นคำพูดคำจาเชิงแขวะใส่กัน
วอชิงตัน วิซาร์ดส งานเข้าเสียแล้วเมื่อ เดอชอว์น สตีเวนสัน การ์ดวัยทีนดันไปปลุกเร้าอารมณ์ เลอบรอน เจมส์ ด้วยคำพูดยั่วยุทำนองว่าจอมทัพ “แคฟส์แมน” ได้รับการยกย่องเกินไปหรือไม่ในเรื่องของฝีไม้ลายมือ ซึ่งผมก็ชื่นชมในคำตอบโต้ที่ส่งคืนมาจาก “เด็กทองคำ” ด้วยสมาธิและผลงานอันแน่วแน่ คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ขึ้นแท่นนำ 3-1 เกม วันพฤหัสบดีนี้แฟนๆ อาจได้ฉลองด้วยความสะใจที่ล้มเหล่า “พ่อมด” ได้เหมือนซีซั่นก่อนปีที่พวกเขากรุยทางไปถึงรอบชิงแชมป์ NBA (ก่อนพ่ายเก๋า ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 0-4 เกม)
ถ้า เลอบรอน พาทีมอันดับ 4 ของฝั่งตะวันออกผ่านด่านแรกไปได้ คู่แข่งสำคัญของพวกเขาในรอบที่สองอาจไม่ใช่ บอสตัน เซลติกส์ ทีมซึ่งมีสถิติดีที่สุดในฤดูกาลปกติ (ชนะ 66 แพ้แค่ 16 เกม) เพราะเต็งแชมป์ดันประมาทหรืออย่างไรมิทราบโดน “เหยี่ยวน้อย” แอตแลนตา ฮอว์คส ทีมอันดับ 8 ไล่จิกจากเป็นรอง 0-2 กลับมาเสมอซีรีส์หน้าตาเฉย
คู่นี้ก็มีประเด็นเช่นกันเมื่อ ไมค์ บิบบี ปล่อยลมปากใส่แฟนๆ เซลติกส์ ว่าออกอาการบ้าเห่อที่แห่แหนกันมาเชียร์ในสนามเพราะทีมกำลังไปได้สวย ไม่เหมือนกับฤดูกาลก่อนที่เซลติกส์ชนะแค่ 24 แพ้ถึง 58 เกม ถ้าผมเป็นกองเชียร์ “กรีน เจอร์ซีย์” คงฝากบอก บิบบี ให้ดูตัวเองเสียก่อนเนื่องจาก 4 เกมที่ผ่านมาทำเฉลี่ยแค่ 11.7 แต้ม 3 แอสซิสต์ต่อเกม การ์ดจ่ายประสบการณ์ในลีก 11 ปีทำได้แค่นี้เองเหรอ เมื่อนำไปเทียบกับ ราฮอน รอนโด ดาวรุ่งเซลติกส์ที่เพิ่งเดินเข้าลีกเมื่อปี 2006 เพลย์ออฟครั้งแรกในชีวิตกลับทำผลงานเฉลี่ย 12.7 แต้ม 5.7 แอสซิสต์
ข้ามไปที่ฝั่งตะวันตกกันบ้าง จอสช์ ฮาวเวิร์ด อีกหนึ่งความหวังของ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แกว่งปากหาเสี้ยนโดยแท้ ทีมเป็นรอง 0-2 เกมก่อนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทว่าฟอร์เวิร์ดจอมพี้ดันไปให้สัมภาษณ์กับทางอีเอสพีเอ็นผ่านรายการของ ไมเคิล เออร์วิน อดีตปีกนอกคนดัง ดัลลัส คาวบอยส์ ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ว่าช่วงปิดซีซั่นใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์ไปกับการเสพกัญชา
แม้ว่าผมจะเห็นด้วยกับเหตุผลของ ฮาวเวิร์ด ที่ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบางเรื่องคุณไม่จำเป็นต้องพูดมันออกมาก็ได้ เพราะนอกจากเป็นการกดดันตัวเองยังพาลให้สมาธิของทีมเสียไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้ เดวิด สเติร์น ประธานลีกเอ็นบีเอยังนิ่งเงียบกับข่าวเชิงลบของลีก (อีกแล้ว) แต่ มาร์ค คิวบาน เจ้าของทีม “แมฟส์แมน” เปรยแล้วว่าจะมีการสอบสวนภายในก่อนลงดาบกันต่อไป
เงยศีรษะขึ้นมาชมการถ่ายทอดสดเกมที่ 5 ระหว่าง แมฟเวอร์ริกส์ กับ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ ที่บ้านของฝ่ายหลังในเช้าวันพุธ ณ วันปั่นต้นฉบับพอดี เฮ้อ!!! เรียบร้อยโรงเรียน “แมฟส์” ขอรับท่าน ฮาวเวิร์ด ทำไป 12 แต้ม 9 รีบาวด์ แต่ยังไม่ดีพอเพราะทีมพ่ายไปอีก 94-99 คะแนน ซีรีส์จบลงที่ 1-4 เกมทำให้ บายรอน สกอตต์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีพาทัพ “รวงผึ้ง” เข้ารอบสองไปวัดฝีมือกับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ต่อไป (หมายเหตุ : หากฟ้าไม่ถล่ม “แชมป์เก่า” พ่ายสามเกมติดให้แก่ ฟีนิกซ์ ซันส์)
การตกรอบแรกสองปีติดแบบนี้ทำให้ผมอดเป็นห่วงไม่ได้กับอนาคตของ เอเวอรี จอห์นสัน หัวหน้าโค้ชคนเล็กใจใหญ่ บางที คิวบาน อาจทนรอความยิ่งใหญ่ของเฟรนไชส์ในยุคของ “เอ.เจ.” ไม่ไหวอีกต่อไป และฮาวเวิร์ด อาจพาลซวยไปกันใหญ่ป่วนทีมแบบนี้คงโดนปรับเงินมิใช่น้อย
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเนื้อที่กระดาษนอกเหนือจาก ฮอร์เนตส์ ที่ทะลุสู่รอบสอง แอลเอ เลเกอร์ส โชว์ฟอร์มเด็ดดวงกวาดซีรีส์ใส่ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ไปยืนรอผู้ชนะระหว่าง ยูทาห์ แจซซ์ หรือ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ดูไม่แคล้วเป็นฝ่ายแรก ขณะที่ ออร์แลนโด เมจิก มีเฮเช่นกันไล่ทุบ โตรอนโต แร็พเตอร์ส 4-1 เกมรอพิสูจน์ฝีมือกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ หรือ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ซึ่งล่าสุดฝ่ายแรกพลิกกลับมานำแล้ว 3-2 เกม
ในโลกแห่งประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการออกเสียง แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากนั้นควรเป็นอะไรที่สร้างสรรค์กั้นกรองจากมันสมองกันหน่อย มิเช่นนั้นมันอาจย้อนกลับมาทำลายตัวคุณเองก็เป็นได้
รอบแรกเพลย์ออฟของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กำลังเข้มข้น หลายซีรีส์เล่นกันหนักหน่วงแบบเอาเป็นเอาตายนั่นเป็นอรรถรสที่คอยัดห่วงหลายท่านเห็นต่างไปจากช่วงฤดูกาลปกติ และสิ่งที่ช่วยปะทุเกมให้เดือดขึ้นเป็นลำดับคงหนีไม่พ้นคำพูดคำจาเชิงแขวะใส่กัน
วอชิงตัน วิซาร์ดส งานเข้าเสียแล้วเมื่อ เดอชอว์น สตีเวนสัน การ์ดวัยทีนดันไปปลุกเร้าอารมณ์ เลอบรอน เจมส์ ด้วยคำพูดยั่วยุทำนองว่าจอมทัพ “แคฟส์แมน” ได้รับการยกย่องเกินไปหรือไม่ในเรื่องของฝีไม้ลายมือ ซึ่งผมก็ชื่นชมในคำตอบโต้ที่ส่งคืนมาจาก “เด็กทองคำ” ด้วยสมาธิและผลงานอันแน่วแน่ คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ขึ้นแท่นนำ 3-1 เกม วันพฤหัสบดีนี้แฟนๆ อาจได้ฉลองด้วยความสะใจที่ล้มเหล่า “พ่อมด” ได้เหมือนซีซั่นก่อนปีที่พวกเขากรุยทางไปถึงรอบชิงแชมป์ NBA (ก่อนพ่ายเก๋า ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 0-4 เกม)
ถ้า เลอบรอน พาทีมอันดับ 4 ของฝั่งตะวันออกผ่านด่านแรกไปได้ คู่แข่งสำคัญของพวกเขาในรอบที่สองอาจไม่ใช่ บอสตัน เซลติกส์ ทีมซึ่งมีสถิติดีที่สุดในฤดูกาลปกติ (ชนะ 66 แพ้แค่ 16 เกม) เพราะเต็งแชมป์ดันประมาทหรืออย่างไรมิทราบโดน “เหยี่ยวน้อย” แอตแลนตา ฮอว์คส ทีมอันดับ 8 ไล่จิกจากเป็นรอง 0-2 กลับมาเสมอซีรีส์หน้าตาเฉย
คู่นี้ก็มีประเด็นเช่นกันเมื่อ ไมค์ บิบบี ปล่อยลมปากใส่แฟนๆ เซลติกส์ ว่าออกอาการบ้าเห่อที่แห่แหนกันมาเชียร์ในสนามเพราะทีมกำลังไปได้สวย ไม่เหมือนกับฤดูกาลก่อนที่เซลติกส์ชนะแค่ 24 แพ้ถึง 58 เกม ถ้าผมเป็นกองเชียร์ “กรีน เจอร์ซีย์” คงฝากบอก บิบบี ให้ดูตัวเองเสียก่อนเนื่องจาก 4 เกมที่ผ่านมาทำเฉลี่ยแค่ 11.7 แต้ม 3 แอสซิสต์ต่อเกม การ์ดจ่ายประสบการณ์ในลีก 11 ปีทำได้แค่นี้เองเหรอ เมื่อนำไปเทียบกับ ราฮอน รอนโด ดาวรุ่งเซลติกส์ที่เพิ่งเดินเข้าลีกเมื่อปี 2006 เพลย์ออฟครั้งแรกในชีวิตกลับทำผลงานเฉลี่ย 12.7 แต้ม 5.7 แอสซิสต์
ข้ามไปที่ฝั่งตะวันตกกันบ้าง จอสช์ ฮาวเวิร์ด อีกหนึ่งความหวังของ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ แกว่งปากหาเสี้ยนโดยแท้ ทีมเป็นรอง 0-2 เกมก่อนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทว่าฟอร์เวิร์ดจอมพี้ดันไปให้สัมภาษณ์กับทางอีเอสพีเอ็นผ่านรายการของ ไมเคิล เออร์วิน อดีตปีกนอกคนดัง ดัลลัส คาวบอยส์ ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ว่าช่วงปิดซีซั่นใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์ไปกับการเสพกัญชา
แม้ว่าผมจะเห็นด้วยกับเหตุผลของ ฮาวเวิร์ด ที่ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบางเรื่องคุณไม่จำเป็นต้องพูดมันออกมาก็ได้ เพราะนอกจากเป็นการกดดันตัวเองยังพาลให้สมาธิของทีมเสียไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้ เดวิด สเติร์น ประธานลีกเอ็นบีเอยังนิ่งเงียบกับข่าวเชิงลบของลีก (อีกแล้ว) แต่ มาร์ค คิวบาน เจ้าของทีม “แมฟส์แมน” เปรยแล้วว่าจะมีการสอบสวนภายในก่อนลงดาบกันต่อไป
เงยศีรษะขึ้นมาชมการถ่ายทอดสดเกมที่ 5 ระหว่าง แมฟเวอร์ริกส์ กับ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ ที่บ้านของฝ่ายหลังในเช้าวันพุธ ณ วันปั่นต้นฉบับพอดี เฮ้อ!!! เรียบร้อยโรงเรียน “แมฟส์” ขอรับท่าน ฮาวเวิร์ด ทำไป 12 แต้ม 9 รีบาวด์ แต่ยังไม่ดีพอเพราะทีมพ่ายไปอีก 94-99 คะแนน ซีรีส์จบลงที่ 1-4 เกมทำให้ บายรอน สกอตต์ ดีกรีโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีพาทัพ “รวงผึ้ง” เข้ารอบสองไปวัดฝีมือกับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ต่อไป (หมายเหตุ : หากฟ้าไม่ถล่ม “แชมป์เก่า” พ่ายสามเกมติดให้แก่ ฟีนิกซ์ ซันส์)
การตกรอบแรกสองปีติดแบบนี้ทำให้ผมอดเป็นห่วงไม่ได้กับอนาคตของ เอเวอรี จอห์นสัน หัวหน้าโค้ชคนเล็กใจใหญ่ บางที คิวบาน อาจทนรอความยิ่งใหญ่ของเฟรนไชส์ในยุคของ “เอ.เจ.” ไม่ไหวอีกต่อไป และฮาวเวิร์ด อาจพาลซวยไปกันใหญ่ป่วนทีมแบบนี้คงโดนปรับเงินมิใช่น้อย
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเนื้อที่กระดาษนอกเหนือจาก ฮอร์เนตส์ ที่ทะลุสู่รอบสอง แอลเอ เลเกอร์ส โชว์ฟอร์มเด็ดดวงกวาดซีรีส์ใส่ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ไปยืนรอผู้ชนะระหว่าง ยูทาห์ แจซซ์ หรือ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ดูไม่แคล้วเป็นฝ่ายแรก ขณะที่ ออร์แลนโด เมจิก มีเฮเช่นกันไล่ทุบ โตรอนโต แร็พเตอร์ส 4-1 เกมรอพิสูจน์ฝีมือกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ หรือ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ซึ่งล่าสุดฝ่ายแรกพลิกกลับมานำแล้ว 3-2 เกม