ดาริอุส วาสเซลล์, มาร์ติน เปตรอฟ และเบนจานี่ ช่วยกันซัดคนละประตูช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ"ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธ ที่มีผู้เล่นแค่ 10 คนไปได้ 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก พร้อมกับยังมีลุ้นลุยศึกยูฟ่าคัพในฤดูกาลหน้าต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน
แมนฯซิตี้ 3-1 ปอร์ทสมัธ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำอาทิตย์ที่ 20 เมษายน "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ซิตี้ เปิดสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ"ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธ เกมวันนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือเรือใบวางให้ ดาริอุส วาสเซลล์ ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี่ ตามเคย โดยมี มาร์ติน เปตรอฟ ปีกบัลแกเรี่ยนตัวจี๊ดคอยลากเลื้อยทำเกมอยู่ทางด้านซ้าย ด้านทีมเยือนปอร์ทสมัธ โดยกุนซือ แฮร์รี่ เร้ดแน็ป ดร็อป มิลาน บารอส ไว้ที่ม้านั่งสำรอง โดยมี เจอร์เมน เดโฟ ยืนเป็นหัวหอกคนเดียว
เริ่มเกมมานาทีแรก ปาเป บูบา ดิออป มิดฟิลด์"ปอมปีย์"ได้โอกาสซัดไกลระยะ 30 หลาทักทายก่อน แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ แต่หลังจากนั้นเป็น"เรือใบสีฟ้า"ที่เปิดเกมรุกขึ้นมาบ้างและก็มาได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของ โซล แคมเบลล์ ที่สื่อสารกับ เดวิด เจมส์ ที่ออกมานอกเขตโทษไม่ดี โดน เบนจานี่ เข้ามาพัวพัน บอลเลยไปถึง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ยิงด้วยซ้ายไม่เต็ม แต่บอลหลุดมาถึง ดาริอุส วาสเซลล์ ล้มตัวชาร์จเข้าไป แมนฯซิตี้ ออกนำไปก่อน 1-0
ให้หลังจากนั้นอีก 3 นาที แมนฯซิตี้ก็บวกประตูที่ 2 เพิ่มได้สำเร็จ จากจังหวะลูกทุ่มทางด้านขวา เอลาโน่ เปิดบอลเลยมาเสาสองเข้าทาง มาร์ติน เปตรอฟ หลอกล่อกองหลังก่อนซัดด้วยขวาข้างไม่ถนัดแฉลบ แคมเบลล์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป "เรือใบ"แล่นฉิว 2-0
แต่ในนาทีที่ 24 "ปอมปีย์"ก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากลูกเตะมุมกองหลังเรือใบเคลียร์บอลกันไม่ขาด ลูกมาเข้าทาง เจอร์เมน เดโฟ โหม่งชงให้กับ จอห์น อูทาก้า เข้าไปดีดบอลในกรอบหกหลาผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไป ปอร์ทสมัธ ไล่มาเป็น 1-2
แต่หลังจากที่ได้ประตูตีไข่แตก สถานการณ์ของทีมเยือนที่น่าจะดีขึ้นกลับแย่ลง เมื่อ เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน มาโดนใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 40 เมื่อไปขวางทาง วาสเซลล์ ในจังหวะที่จะหลุดเข้าไปทำประตู ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน "เรือใบสีฟ้า"ก็เกือบได้ประตูที่ 3 อีกด้วย เมื่อ วาสเซลล์ ได้บอลจาก เบนจานี่ ปั่นด้วยซ้ายหมายจะให้เสียบใต้คาน แต่ เดวิด เจมส์ ยังบินปัดไว้ได้สวย จบครึ่งแรกเจ้าบ้านยังนำอยู่ 2-1
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 10 นาที"เรือใบสีฟ้า"ที่มีผู้เล่นมากกว่าโหมทำเกมรุกใส่ ซึ่ง เบนจานี่ ได้โอกาสซัดแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ และจากจังหวะโต้กลับ"ปอมปีย์"ก็น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อ ซัลลี่ มุนตารี่ ได้โอกาสล่อหลอกกองหลังแมนฯซิตี้ ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลไปชนเสาแรก ไปเข้าทาง อูทาก้า ได้ซัดอีกที แต่บอลยังไปชนอีกเสาหนึ่ง ทำให้ทีมเยือนยังไม่ได้ประตูตีเสมอ
เมื่อปอร์ทสมัธไม่ได้ประตูตีเสมอ "เรือใบสีฟ้า"ก็มาทำประตูที่ 3 ตอกฝาโลงได้ในนาทีที่ 73 เมื่อ ไอร์แลนด์ แทงบอลให้กับ เบนจานี่ หลอกล่อ ซิลแวง ดิสแตง ก่อนซัดด้วยขวาบอลเสียบเสาแรกเข้าไป "เรือใบ"นำห่าง 3-1
ในช่วงท้ายเกม"ปอมปีย์"ได้โอกาสที่จะทำประตูที่ 2 ถึง 2 จังหวะเมื่อ นิโก้ ครานจ์ชาร์ จ่ายบอลให้กับ มิลาน บารอส ตัวสำรองหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท แต่อดีตหัวหอกลิเวอร์พูลกลับซัดไปติดตัวนายด่าน"เรือใบ" อีกครั้งเป็น มุนตารี่ ลากจากกราบซ้าย ก่อนหักเข้ากลางให้กับ ฌอน เดวิส ได้กดเต็มแรง แต่ ฮาร์ท ก็ยังเซฟไว้ได้อีก จบเกม "เรือใบสีฟ้า"อัด"ปอมปีย์" 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ ขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก พร้อมกับยังมีลุ้นลุยศึกยูฟ่าคัพในฤดูกาลหน้าต่อไป
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เอลาโน่, ริชาร์ด ดันน์, เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิ่ล บอลล์, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดาริอุส วาสเซลล์, มาร์ติน เปตรอฟ, เบนจามิน เอ็มวารูวารี
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, โลร็อง เอตาเม่, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, จอห์น อูตาก้า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, นิโก้ ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน
แมนฯซิตี้ 3-1 ปอร์ทสมัธ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษประจำอาทิตย์ที่ 20 เมษายน "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ซิตี้ เปิดสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ"ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธ เกมวันนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือเรือใบวางให้ ดาริอุส วาสเซลล์ ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี่ ตามเคย โดยมี มาร์ติน เปตรอฟ ปีกบัลแกเรี่ยนตัวจี๊ดคอยลากเลื้อยทำเกมอยู่ทางด้านซ้าย ด้านทีมเยือนปอร์ทสมัธ โดยกุนซือ แฮร์รี่ เร้ดแน็ป ดร็อป มิลาน บารอส ไว้ที่ม้านั่งสำรอง โดยมี เจอร์เมน เดโฟ ยืนเป็นหัวหอกคนเดียว
เริ่มเกมมานาทีแรก ปาเป บูบา ดิออป มิดฟิลด์"ปอมปีย์"ได้โอกาสซัดไกลระยะ 30 หลาทักทายก่อน แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ แต่หลังจากนั้นเป็น"เรือใบสีฟ้า"ที่เปิดเกมรุกขึ้นมาบ้างและก็มาได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของ โซล แคมเบลล์ ที่สื่อสารกับ เดวิด เจมส์ ที่ออกมานอกเขตโทษไม่ดี โดน เบนจานี่ เข้ามาพัวพัน บอลเลยไปถึง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ยิงด้วยซ้ายไม่เต็ม แต่บอลหลุดมาถึง ดาริอุส วาสเซลล์ ล้มตัวชาร์จเข้าไป แมนฯซิตี้ ออกนำไปก่อน 1-0
ให้หลังจากนั้นอีก 3 นาที แมนฯซิตี้ก็บวกประตูที่ 2 เพิ่มได้สำเร็จ จากจังหวะลูกทุ่มทางด้านขวา เอลาโน่ เปิดบอลเลยมาเสาสองเข้าทาง มาร์ติน เปตรอฟ หลอกล่อกองหลังก่อนซัดด้วยขวาข้างไม่ถนัดแฉลบ แคมเบลล์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป "เรือใบ"แล่นฉิว 2-0
แต่ในนาทีที่ 24 "ปอมปีย์"ก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากลูกเตะมุมกองหลังเรือใบเคลียร์บอลกันไม่ขาด ลูกมาเข้าทาง เจอร์เมน เดโฟ โหม่งชงให้กับ จอห์น อูทาก้า เข้าไปดีดบอลในกรอบหกหลาผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไป ปอร์ทสมัธ ไล่มาเป็น 1-2
แต่หลังจากที่ได้ประตูตีไข่แตก สถานการณ์ของทีมเยือนที่น่าจะดีขึ้นกลับแย่ลง เมื่อ เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน มาโดนใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 40 เมื่อไปขวางทาง วาสเซลล์ ในจังหวะที่จะหลุดเข้าไปทำประตู ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน "เรือใบสีฟ้า"ก็เกือบได้ประตูที่ 3 อีกด้วย เมื่อ วาสเซลล์ ได้บอลจาก เบนจานี่ ปั่นด้วยซ้ายหมายจะให้เสียบใต้คาน แต่ เดวิด เจมส์ ยังบินปัดไว้ได้สวย จบครึ่งแรกเจ้าบ้านยังนำอยู่ 2-1
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 10 นาที"เรือใบสีฟ้า"ที่มีผู้เล่นมากกว่าโหมทำเกมรุกใส่ ซึ่ง เบนจานี่ ได้โอกาสซัดแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ และจากจังหวะโต้กลับ"ปอมปีย์"ก็น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อ ซัลลี่ มุนตารี่ ได้โอกาสล่อหลอกกองหลังแมนฯซิตี้ ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลไปชนเสาแรก ไปเข้าทาง อูทาก้า ได้ซัดอีกที แต่บอลยังไปชนอีกเสาหนึ่ง ทำให้ทีมเยือนยังไม่ได้ประตูตีเสมอ
เมื่อปอร์ทสมัธไม่ได้ประตูตีเสมอ "เรือใบสีฟ้า"ก็มาทำประตูที่ 3 ตอกฝาโลงได้ในนาทีที่ 73 เมื่อ ไอร์แลนด์ แทงบอลให้กับ เบนจานี่ หลอกล่อ ซิลแวง ดิสแตง ก่อนซัดด้วยขวาบอลเสียบเสาแรกเข้าไป "เรือใบ"นำห่าง 3-1
ในช่วงท้ายเกม"ปอมปีย์"ได้โอกาสที่จะทำประตูที่ 2 ถึง 2 จังหวะเมื่อ นิโก้ ครานจ์ชาร์ จ่ายบอลให้กับ มิลาน บารอส ตัวสำรองหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท แต่อดีตหัวหอกลิเวอร์พูลกลับซัดไปติดตัวนายด่าน"เรือใบ" อีกครั้งเป็น มุนตารี่ ลากจากกราบซ้าย ก่อนหักเข้ากลางให้กับ ฌอน เดวิส ได้กดเต็มแรง แต่ ฮาร์ท ก็ยังเซฟไว้ได้อีก จบเกม "เรือใบสีฟ้า"อัด"ปอมปีย์" 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ ขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก พร้อมกับยังมีลุ้นลุยศึกยูฟ่าคัพในฤดูกาลหน้าต่อไป
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เอลาโน่, ริชาร์ด ดันน์, เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิ่ล บอลล์, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดาริอุส วาสเซลล์, มาร์ติน เปตรอฟ, เบนจามิน เอ็มวารูวารี
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, โลร็อง เอตาเม่, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, จอห์น อูตาก้า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, นิโก้ ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ