อย่าประมาท ‘เสือ’ เจ็บ

การชิงชัยเสื้อกรีนแจ็คเก็ตสมัยที่ 5 ของไทเกอร์ วู้ดส์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดฉากลงพร้อมกับชัยชนะของ “เทรเวอร์ อิมเมลเมน” โปรชาวแอฟริกาใต้ชัยชนะของนักกอล์ฟนอกสายตาวัย 28 ปีรายนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ไทเกอร์ พลาดแชมป์หากแต่ยังเป็นการดับฝันในการทำกอล์ฟแกรนด์สแลม ของ “พญาเสือ” ในฤดูกาล 2008 และแทบจะพร้อมกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ วู้ดส์ ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าซ้ายที่เจ้าตัวให้ตัวแทนออกมาบอกว่ามีอาการเรื้อรังมาตั้งแต่กลางฤดูกาลก่อน

แน่นอนว่าการเข้ารับผ่าตัดครั้งนี้ของนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก กลายเป็นข่าวที่ได้รับการจับตามองจากสื่อทั่วโลก เพราะเป็นการเดินเข้าสู่โรงหมอในช่วงระหว่างฤดูกาลและเป็นการรักษาหัวเข่าซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของนักกีฬากอล์ฟ ซึ่งเรื่องดังกล่าว แฮงค์ เฮนี่ย์ โค้ชของ ไทเกอร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ ในสหรัฐอเมริกาว่า

“ผมได้รับโทรศัพท์จากไทเกอร์ เขาบอกว่าให้พักได้ช่วงหนึ่งซึ่งจะว่าไปนี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่อยากพักสักเท่าไรนัก" เหตุผลที่ เฮนี่ย์ ได้พักคงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาเข่าซ้าย ด้วยวิธีการส่องกล้องเข้าไปในข้อ (Arthroscopic) ซึ่งผลกระทบจากการผ่าตัดดังกล่าวทำให้โปรหมายเลขหนึ่งโลก จะไม่ได้ลงสนามนานอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ในพีจีเอทัวร์ ก่อนจะกลับมาเล่นรายการเมเจอร์ อย่างยูเอส โอเพ่นระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน หรืออาจเร็วกว่านั้น

เฮนี่ย์ กล่าวต่อว่า วู้ดส์ไม่ได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นที่ออกัสต้า หรือ อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าให้ฟัง เขาให้สัมภาษณ์ถึงลูกศิษย์คนโปรดว่า "ถึงเวลานี้การแข่งขันที่ออกัสต้าไม่ใช่ประเด็นที่ต้องพูดถึงกันอีกแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับวู้ดส์ในเวลานี้คือรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าให้หายขาดมากกว่า"

สำหรับการเข้ารับการรักษาหัวเข่าของวู้ดส์ นับเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1994 จากนั้นก็ต่อด้วยปี 2002 เมื่อวู้ดส์ ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยติดต่อกันถึง 5 รายการ ก่อนจะกลับมาสู่สนามอีกครั้งในปี 2003 และถ้าจะพลิกย้อนประวัติที่เข้ารับการรักษาจะพบว่า โปรมือหนึ่งโลกนั้นมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบเพราะสามารถพลิกฟื้นและคืนสู่การสังเวียนการแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้อาการบาดเจ็บครั้งแรกของวู้ดส์ ในปี 1994 นั้นเป็นช่วงที่เจ้าตัวยังไม่เข้าสู่วงการนักกอล์ฟอาชีพหากจะนับช่วงเวลาที่มีผลกระทบมากที่สุดเห็นจะเป็นการผ่าตัดในเดือนธันวาคมปี 2002 ที่หัวเข่าซ้าย ก่อนจะกลับเข้าสู่วงการอีกครั้งในปี 2003 ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ ไทเกอร์ ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อไม่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ มาครองได้สักรายการและอันดับทำเงินในพีจีเอทัวร์ฤดูกาล 2003 ร่วงไปอยู่ในอันดับที่สองก่อนสถานการณ์จะแย่ลงไปอีกในปี 2004 เมื่อออร์เดอร์ ออฟ เมอริทของ วู้ดส์ ร่วงไปอยู่ในอันดับที่ 4

รอยต่อที่รักษาอาการบาดเจ็บในช่วงเดือนธันวาคมปี 2002 ถึงฤดูกาล 2003 แม้แผลจะไม่มีผลกระทบมากนักสำหรับ “พญาเสือ” แต่ผลงานที่ไม่ดีขึ้น ทำให้เกิดคำถามมากมายจากสื่อในวงการกอล์ฟ ต่างพากันหาเหตุผลโดยไล่เรียงไปตั้งแต่วงสวิงที่ บุช ฮาร์มอน สร้างให้ วู้ดส์ จนถึงเรื่องการผ่าตัดเข่าซ้ายทำให้วงสวิงของโปรหมายเลขหนึ่งโลกเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะผลงานที่เรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จเลยจนทำให้วีเจย์ ซิงห์ ขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของโลกแทนที่หลังจบการแข่งขัน ดอยช์ แบงค์ แชมเปี้ยนชิปในเดือนกันยายนปี 2004

แน่นอนว่า วู้ดส์ เอง ได้หาทางออกให้กับตนเองไว้แล้วเขารู้ดีว่าอะไรคือสาเหตุของผลงานที่ไม่น่าพอใจระหว่างปี 2003-04 ปัญหาบาดเจ็บที่เข่าซ้ายไม่ใช่ประเด็นเพราะร่างกายนักกอล์ฟอาชีพที่ตระเวนแข่งมาตั้งแต่อายุ 21 ปีย่อมมีสมรรถภาพที่จะฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว หากแต่วงสวิงเจ้าปัญหาอันติดมาจาก บุช ฮาร์มอน ต่างหากที่ทำให้ผลงานไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้เมื่อโปรหมายเลขหนึ่งโลกหันหน้าปรึกษาปัญหากับมาร์ค โอ เมร่า ชื่อของ แฮงค์ เฮนี่ย์ ก็ถูกเอ่ยขึ้นและหลังจากนั้นการทำงานร่วมกันของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการกอล์ฟโลกก็เริ่มขึ้น และการร่วมงานของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้นภายในระยะเวลาสองปีแห่งความกดดันของทีชชิ่งโปรวัย 53 ปี และในที่สุด วู้ดส์ ก็กลับมาผงาดได้อีกครั้งและเป็นการกลับมาที่หาผู้ต่อกรได้ยากยิ่ง

หากประมวลอดีตเข้าปัจจุบัน แฟนของ “พี่เสือ” น่าจะมั่นใจได้ว่า ไทเกอร์ วู้ดส์ ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สามและเป็นการซ้ำรอยแผลเก่าหัวเข่าซ้าย ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงนักเพราะวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำไปมาก ด้วยแผลผ่าตัดที่เล็กลงคงทำให้ วู้ดส์ พักรักษาตัวเพียงแค่เดือนเดียว ก่อนจะกลับมาสานผลงานต่อ เมื่อถึงเวลาดังกล่าว “เสือเจ็บ” คงจะกลับมาผงาดได้ไม่ยากในรายการระดับเมเจอร์อย่างยูเอส โอเพ่น