เอ็นวานโก้ คานู หัวหอกไนจีเรียกลายเป็นฮีโร่ของ"ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธเมื่อสามารถซัดประตูโทนนำชัยให้ทีมเอาชนะ"แบ็กกี้ส์"เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมจากศึกแชมเปี้ยนชิพได้สำเร็จ โดย"เดอะ ปอมปีย์"จะเข้าไปรอพบคู่ชนะระหว่าง บาร์นส์ลี่ย์ - คาร์ดิฟฟ์ ที่จะลงเเข่งขันกันในวันพรุ่งนี้
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
เวสต์บรอมวิช(แชมเปี้ยนชิพ) 0 - 1 ปอร์ทสมัธ(พรีเมียร์ชิพ)
เกมเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศที่สนาม เวมบลีย์ เวสต์บรอมวิช จัดทัพชุดใหญ่มาครบครันนำมาโดย โซลตาน เกร่า, โรมัน เบ็ดนาร์ และ เควิน ฟิลลิปส์ ลงเล่นเกมรุกกันครบ ส่วนทางฝั่ง "ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธ ได้ ปาป้า บูบ้า ดิย็อป กับ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้ อีกครั้งขาดเพียง เจอร์เมน เดโฟ คนเดียวที่ติดคัพ-ไท โดย แฮรี่ เร็ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีมใช้ เอ็นวานโก้ คานู กับ มิลาน บารอส ยืนเป็นหัวหอกคู่กัน
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที เวสต์บรอมวิช ได้ลุ้นประตูก่อนจากการยิงไกลของ เควิน ฟิลลิปส์ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป โดยในช่วงต้นครึ่งแรก "แบ็กกี้ส์"สามารถตั้งเกมครองบอลได้มากว่าปอร์ทสมัธ แต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูมากนัก
ใขณะที่ในครึ่งแรกปอร์ทสมัธก็ยังทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก โดยในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างจากการซัดไกลของ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ แต่บอลหลุดเสาออกไป จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยูที่ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง ปอร์ทสมัธ เกมดีขึ้นกว่าในครึ่งแรกมาก และมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 54 เมื่อ มิลาน บารอส พักอกเอาบอลลงในเขตโทษแล้วตวัดยิงเร็วทันที ดีน ไคลี่ ปัดไม่พ้นอันตราย โซลตาน เกร่า ลงมาช่วยเกมรับพยายามเตะทิ้ง แต่บอลไปเข้าทาง เอ็นวานโก้ คานู ยิงจ่อๆ 3 หลาเข้าไป "ปอมปีย์"ทะยานนำ 1-0
นาทีที่ 60 เวสต์บรอมวิช แก้เกมโดยเปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คนรวด โดยส่ง คริส บรันท์ กับ อิชมาเอล มิลเลอร์ ลงไปแทน เจมส์ มอร์ริสัน กับ โรมัน เบ็ดนาร์ และหลังจากการเปลี่ยนตัวของเวสต์บรอมวิชแค่ 5 นาที "ปอมปีย์"ก็พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูที่ 2 หนีห่าง เมื่อ นิโก้ ครานชาร์ แทงบอลให้ มิลาน บารอส หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ไคลี่ แต่หัวหอกเช็กไปดึงจังหวะอยู่นาน สุดท้ายยิงติดเซฟ ไคลี่ ออกหลังไป
นาทีที่ 75 เวสต์บรอมวิช น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดเมื่อ โรเบิร์ต โคเรน ได้ยิงไกลหน้าเขตโทษแต่บอลไปชนคาน ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย"เดอะ แบ็กกี้ส์"ยังไม่ย่อท้อ อิชมาเอล มิลเลอร์ ได้ยิงด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลหลุดเสาสองออกไป ครบ 90 นาที ปอร์ทสมัธ เฉือนชนะ เวสต์บรอมวิช ไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเป็นทีมแรก โดย"เดอะ ปอมปีย์"จะเข้าไปรอพบคู่ชนะระหว่าง บาร์นส์ลี่ย์ - คาร์ดิฟฟ์ ที่จะลงเเข่งขันกันในวันพรุ่งนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : ดีน ไคลี่, คาร์ล ฮอฟเค่นส์, มาร์ติน อัลเบรชท์เซ่น, นีล คลีเมนท์, พอล โรบินสัน, เจมส์ มอร์ริสัน, โรเบิร์ต โคเรน, โจนาธาน กรีนนิ่ง, โซลตาน เกร่า, เควิน ฟิลลิปส์, โรมัน เบ็ดนาร์
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, นิโก้ ครานชาร์, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, เอ็นวานโก้ คานู, มิลาน บารอส
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ
เวสต์บรอมวิช(แชมเปี้ยนชิพ) 0 - 1 ปอร์ทสมัธ(พรีเมียร์ชิพ)
เกมเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศที่สนาม เวมบลีย์ เวสต์บรอมวิช จัดทัพชุดใหญ่มาครบครันนำมาโดย โซลตาน เกร่า, โรมัน เบ็ดนาร์ และ เควิน ฟิลลิปส์ ลงเล่นเกมรุกกันครบ ส่วนทางฝั่ง "ปอมปีย์"ปอร์ทสมัธ ได้ ปาป้า บูบ้า ดิย็อป กับ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้ อีกครั้งขาดเพียง เจอร์เมน เดโฟ คนเดียวที่ติดคัพ-ไท โดย แฮรี่ เร็ดแน็ปป์ ผู้จัดการทีมใช้ เอ็นวานโก้ คานู กับ มิลาน บารอส ยืนเป็นหัวหอกคู่กัน
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที เวสต์บรอมวิช ได้ลุ้นประตูก่อนจากการยิงไกลของ เควิน ฟิลลิปส์ แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป โดยในช่วงต้นครึ่งแรก "แบ็กกี้ส์"สามารถตั้งเกมครองบอลได้มากว่าปอร์ทสมัธ แต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูมากนัก
ใขณะที่ในครึ่งแรกปอร์ทสมัธก็ยังทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก โดยในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างจากการซัดไกลของ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ แต่บอลหลุดเสาออกไป จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยูที่ 0-0
เริ่มครึ่งหลัง ปอร์ทสมัธ เกมดีขึ้นกว่าในครึ่งแรกมาก และมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 54 เมื่อ มิลาน บารอส พักอกเอาบอลลงในเขตโทษแล้วตวัดยิงเร็วทันที ดีน ไคลี่ ปัดไม่พ้นอันตราย โซลตาน เกร่า ลงมาช่วยเกมรับพยายามเตะทิ้ง แต่บอลไปเข้าทาง เอ็นวานโก้ คานู ยิงจ่อๆ 3 หลาเข้าไป "ปอมปีย์"ทะยานนำ 1-0
นาทีที่ 60 เวสต์บรอมวิช แก้เกมโดยเปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คนรวด โดยส่ง คริส บรันท์ กับ อิชมาเอล มิลเลอร์ ลงไปแทน เจมส์ มอร์ริสัน กับ โรมัน เบ็ดนาร์ และหลังจากการเปลี่ยนตัวของเวสต์บรอมวิชแค่ 5 นาที "ปอมปีย์"ก็พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูที่ 2 หนีห่าง เมื่อ นิโก้ ครานชาร์ แทงบอลให้ มิลาน บารอส หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ไคลี่ แต่หัวหอกเช็กไปดึงจังหวะอยู่นาน สุดท้ายยิงติดเซฟ ไคลี่ ออกหลังไป
นาทีที่ 75 เวสต์บรอมวิช น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดเมื่อ โรเบิร์ต โคเรน ได้ยิงไกลหน้าเขตโทษแต่บอลไปชนคาน ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย"เดอะ แบ็กกี้ส์"ยังไม่ย่อท้อ อิชมาเอล มิลเลอร์ ได้ยิงด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลหลุดเสาสองออกไป ครบ 90 นาที ปอร์ทสมัธ เฉือนชนะ เวสต์บรอมวิช ไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเป็นทีมแรก โดย"เดอะ ปอมปีย์"จะเข้าไปรอพบคู่ชนะระหว่าง บาร์นส์ลี่ย์ - คาร์ดิฟฟ์ ที่จะลงเเข่งขันกันในวันพรุ่งนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : ดีน ไคลี่, คาร์ล ฮอฟเค่นส์, มาร์ติน อัลเบรชท์เซ่น, นีล คลีเมนท์, พอล โรบินสัน, เจมส์ มอร์ริสัน, โรเบิร์ต โคเรน, โจนาธาน กรีนนิ่ง, โซลตาน เกร่า, เควิน ฟิลลิปส์, โรมัน เบ็ดนาร์
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, นิโก้ ครานชาร์, ซุลลี่ย์ มุนตารี่, เอ็นวานโก้ คานู, มิลาน บารอส
