xs
xsm
sm
md
lg

‘F1 Night Race’ เมื่อผลประโยชน์ครองโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในขณะที่รถสูตรหนึ่งสนามที่ 3 ของปีกำลังจะเปิดฉากขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศบาห์เรน ถือเป็นการทิ้งทวนก่อนที่เอฟวันจะข้ามฝั่งไปดวลความเร็วกันในภาคพื้นยุโรป และจะกลับมายังภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง ในอีก 6 เดือนข้างหน้า กับการแข่งขันยามค่ำคืนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรายการ"สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ 2008"

ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการรถสูตรหนึ่ง สำหรับการแข่งขันกันยามค่ำคืนภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ แต่ยังไม่ทันที่ศึกความเร็วรายการนี้จะเริ่มต้นขึ้น ถึงเวลานี้มีแนวโน้มว่า ตั้งแต่ฤดูกาล 2010 เป็นต้นไป ฟอร์มูล่า วัน แบบ ไนท์เรซ จะถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินแข่งประจำปี ถึง 5 สนามต่อฤดูกาล

จากความสำเร็จของของมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก ที่ประเดิมสนามแรกของปี ด้วยการแข่งขันภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ ที่สนามโลไซอัล ประเทศกาตาร์ก่อนที่การแข่งขันรถสูตรหนึ่งจะเปิดฉากได้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้เบอร์นี่ย์ เอคเคิลสโตน เจ้าของสิทธิประโยชน์แห่งวงการรถสูตรหนึ่ง เล็งเห็นแนวโน้มอันสดใสของไนท์เร จึงออกฤทธิ์เดชด้วยการขู่ฟอดใหญ่ใส่ผู้จัดที่สนามอัลเบิร์ต พาร์ค ในเมลเบิร์น ให้รีบปรับเปลี่ยนรูปแบบไปซิ่งกันในเวลากลางคืน หากไม่ต้องการให้สังเวียนแข่งแห่งนี้หลุดจากปฏิทินการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หลังสัญญาฉบับเดิมจะหมดลงในปี 2010

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา หลังจบศึกเอฟวันสนามที่ 2 ของปี 2008 ที่เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ผู้จัดคนดังรายนี้ก็ออกมายืนยันว่า "มาเลเชียนกรังด์ปรีซ์ 2009" จะปรับโฉมเป็นการแข่งขันตอนกลางคืน เป็นสนามที่สองต่อจากสิงคโปร์ โดยจะเริ่มออกสตาร์ทในเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกัวลาลัมเปอร์ "ผู้จัดที่มาเลเซียรู้ถึงความจำเป็น โดยเฉพาะผู้ชมทางโทรทัศน์ในแถบนี้และคนในทวีปยุโรป มันจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้แน่สำหรับทุกคนที่ได้ชมการแข่งขัน"

นอกจากนี้ เอคเคิลสโตน กำลังวางแผนที่จะให้มีการดวลคันเร่งตอนกลางคืนให้ครบ 5 สนามในทวีปเอเชียภายในฤดูกาล 2010 "เรากำลังหารือกับจีนซึ่งแนวโน้มเป็นไปด้วยดี ขณะเดียวกันสัญญาจัดแข่งในเกาหลีใต้และอินเดียในปี 2010 ก็ดำเนินไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย หากเราจัดรูปแบบกลางคืนมันจะเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าแน่นอน"

ทั้งหมดเป็นแนวคิดของ เจ้าของสิทธิประโยชน์รถสูตรหนึ่งที่เล็งเห็นว่า การปรับเวลาการแข่งขันของสนามแข่งในแถบเอเชียและออสเตรเลียจากเวลากลางวันเป็นช่วงหัวค่ำ จะทำให้ตรงกับช่วงเย็นของยุโรป อันจะทำให้ยอดผู้ชมจากการถ่ายทอดสดในภาคพื้นยุโรปที่เป็นตลาดหลักของกีฬาชนิดนี้เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี จากการที่สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ(เอฟไอเอ)เปลี่ยนกฎกติกามากมายในปีนี้ จาก 2 สนามที่ผ่านไป มีรถที่ต้องออกจากการแข่งขันมามายเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะคำสั่งยกเลิกระบบ ‘แทรคชันคอนโทรล’ ในรถแข่งทุกคัน ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นว่า ขณะที่การแข่งขันภาคกลางวันภายใต้กติกาใหม่ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายเช่นนี้ เหตุใดฝ่ายจัดการแข่งขันถึงต้องรีบวางแผนจัดแข่งในรูปแบบกลางคืน ทั้งที่เรื่องความปลอดภัยของนักขับยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ในเวลานี้

นิโค รอสเบิร์ก นักขับดาวรุ่งจากทีมวิลเลี่ยมส์ เผยถึงความกังวลใจกับการแข่งขันในรูปแบบไนท์เรซที่จะมีขึ้นในฤดูกาลนี้ว่า "ความปลอดภัยเป็นปัญหาใหญ่อยู่แล้วในการแข่งแบบสตรีทเซอร์กิต และยิ่งเป็นการขับตอนกลางคืน ไม่ใครการันตีถึงความปลอดภัยของเหล่านักขับได้แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อนักแข่งเกือบทั้งหมดไม่เคยสัมผัสการแข่งตอนกลางคืนมาก่อน"

เช่นเดียวกับมาร์ค เว็บเบอร์ นักซิ่งออสซี่จากเรดบูล "แสงสปอร์ต ไลท์ ที่ผู้จัดยืนยันว่าจะทำให้มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามไม่ต่างจากการช่วงเวลากลางวัน เมื่อถึงเวลาจริงๆแล้วจะออกมาดีแค่ไหน และหากมีฝนตกลงมาขณะแข่ง ผมนึกภาพไม่ออกจริงๆ"

ขณะที่มิกา ฮัคคิเนน อดีตแชมป์โลก 2 สมัยจากทีมแม็คลาเรน ก็ออกมาเตือนนักขับรุ่นน้องถึงการแข่งขันยามค่ำคืนว่า “เมื่อคุณต้องลงเแข่งในเวลากลางคืน แน่นอนร่างกายต้องมีการปรับตัวอย่างหนัก ปฏิกิริยาใดๆของนักขับจะไม่สามารถตอบสนองได้ดีเช่นการขับแข่งตอนกลางวันแน่นอน เพราะธรรมชาติของคนเราช่วงเวลากลางคืนเป็นเวลาสำหรับการพักผ่อน"

แม้ว่าบรรดานักขับจะแสดงความกังวลใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดในการแข่งขันแบบไนท์เรซ แต่ทว่าฝ่ายจัดการแข่งขันที่นำโดยชายร่างเล็ก “เบอร์นี่ย์ เอคเคิลสโตน” กลับแสดงความมั่นใจว่าการแข่งขันรูปแบบนี้ จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ และ เรียกคนดูได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หากแต่สิ่งหนึ่งที่ “เอคเคิลสโตน” คงหลงลืมไปคือความปลอดภัยในชีวิตของนักขับทั้ง 22 คนที่อาจเป็นเดิมพันราคาแพงเพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาลของตนเองเพียงฝ่ายเดียว



กำลังโหลดความคิดเห็น