"เอสซีจี" หนุนแบดไทยคว้าเหรียญโอลิมปิก

เครือซีเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ประกาศสนับสนุนแบดมินตันไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมส่งนักตบขนไก่แข่งขันรายการต่างแดน เพื่อทำอันดับขึ้นไปเป็นมือวาง เพิ่มโอกาสในการคว้าเหรียญโอลิมปิก

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551 ณ ศูนย์กีฬา เครือซีเมนต์ไทย (SCG) บางซื่อ ได้มีการแถลงข่าว “SCG Badminton 2008 : เส้นทางสู่โอลิมปิก” โดยมี ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย และ นางมัทนา เหลืองนาคทองดี ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารองค์กรเครือซีเมต์ไทย เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว

โดยทาง นางมัทนา กล่าวว่า “ตลอดเวลา 28 ปีที่ผ่านมาเอสซีจีได้ให้การสนับสนุนกีฬาแบดมินตันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และไม่เพียงแค่การเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมนักกีฬาทุกระดับให้พัฒนาทักษาะและขีดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อม การฝึกซ้อม และวิทยาศาสตร์การกีฬา ตลอดจนการผลักดันนักกีฬาไทยเข้าสู่การแข่งขันรายการสำคัญทั้งในและต่างประเทศ และในปีนี้ทางเอสซีจี ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันกีฬาแบดมินตันอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ระดับจูเนียร์ไปจนถึงระดับนานาชาติ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการพัฒนานักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศจนได้รับเลือกไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก”

ด้าน ศ.เจริญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ นักตบขนไก่ไทยที่ได้ไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ณ แผ่นดินมังกรมีแน่นอนแล้ว 4 ราย ประกอบด้วย “ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ ในประเภทชายเดี่ยว, สุดเขตประภากมล-สราลีย์ ทุ่งทองคำ ในประเภทคู่ผสม และ สลักจิต พลสนะ ในประเภทหญิงเดี่ยว อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมแบดมินตันยังหวังให้นักกีฬาทุกคนไต่อันดับโลกขึ้นไปสูงกว่าที่เป็นอยู่

“ปัจจุบันในประเภทคู่ผสมรั้งอันดับ 6 ของโลกซึ่งถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีควรจะขึ้นไปอยู่ 1 ใน 4 ของโลก เพื่อจะได้เป็นตัวยืนในการแบ่งสายโอลิมปิก 2008 ที่แข่งขันกัน 16 คู่ จะทำให้เราไม่ต้องพบกับมือแข็งๆในรอบแรกๆ เช่นเดียวกับแมนที่ปัจจุบันอยู่มือ 11 ของโลก ต้องพยายามไต่ขึ้นมาให้ติด 1 ใน 8 ให้ได้ โดยยังเหลืออีกราว 3-4 รายการให้ได้เก็บคะแนนกันซึ่งหากทำผลงานกันได้ดีก็มีโอกาสไต่อันดับขึ้นมาได้ทัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลมากขึ้น”

ขณะที่ตัว บุญศักดิ์ เองก็มั่นใจว่าจะสามารถทำอันดับขึ้นไปติด 1 ใน 8ของโลกได้ “สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ถือว่าน่าวิตกมาก ตอนนี้ก็พยายามเตรียมตัวให้และทำแต่ละแมตช์ให้ดีที่สุด และคิดว่าน่าจะทำอันดับโลกขึ้นไปติด 1 ใน 8 ของโลกได้”

ส่วน “น้องส้ม” สราลีย์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บหลังรบกวนมานานกล่าวทำนองเดียวกันว่า “สภาพร่างกายของตัวเองตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ก็จะพยายามไม่ให้แย่ลงไปกว่านี้ อาการบาดเจ็บตอนนี้ก็ดีขึ้นมากไม่ค่อยรบกวนเวลาซ้อมและตอนแข่งเหมือนเมื่อก่อน จากนี้ก็จะเน้นฝึกซ้อมเรื่องความไวความคล่องตัวให้มากขึ้นและจะต้องทำอันดับขึ้นไปติดท็อปโฟร์ให้ได้”

ด้าน “น้องมินท์” สลักจิต พลสนะ มือ 33 ของโลกในปัจจุบัน เปิดเผยว่า “มินท์ต้องปรับเรื่องการกินอาการ และเรื่องพละกำลังให้แข็งแรงขึ้น และอยากจะทำอันดับให้ดีกว่านี้เพื่อเพิ่มความชัวร์ในการติด 38 คน ที่ได้เข้ารอบสายใหญ่ในโอลิมปิก”