“บิ๊กยี” วรวีร์ มะกูดี นายกลูกหนังไทย ชี้การที่ 3 นักเตะไทยได้รับค่าเหนื่อยจากทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ล่าช้า ก็เนื่องมาจากไร้เวิร์กเพอร์มิต
หลังจากโดนสื่อมวลชนในเมืองไทยออกมาแฉซ้ำซากกรณีที่ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่จ่ายเงินค่าเหนื่อยให้กับ 3 ดาวเตะทีมชาติไทย ประกอบด้วย สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว และ ธีรศิลป์ แดงดา หลังจับเซ็นสัญญาค้าแข้งไปตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2550
ล่าสุด “บิ๊กยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวกลางในการประสานงานเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า “เรื่องค่าเหนื่อยสำหรับนักเตะคงไม่มีปัญหา เพราะเราได้พูดคุยกันไปแล้ว และจะนำเงินจำนวน 5 ล้านบาทให้กับทั้ง 3 คนไปแบ่งกัน”
ขณะเดียวกัน นายกลูกหนังไทย ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เงินจำนวนดังกล่าวเดินทางถึงมือนักเตะทั้ง 3 อย่างล่าช้า ว่า “มันเป็นเรื่องของขั้นตอนการเบิกจ่ายที่ค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากนักเตะไทยทั้ง 3 คนนี้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตการทำงานในอังกฤษ ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แต่คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะมีให้แน่แล้วในจำนวน 5 ล้านบาท”
ด้าน “เดอะเซนต์” อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้ช่วยผู้จัดการทีมฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ก็ยังคงยืนยันว่า ทีมยังคงไม่ได้รับค่าตัว 5 ล้านบาท ในการย้ายทีมของ 2 นักเตะอย่าง สุรีย์ และ เกียรติประวุฒิ เช่นเคย โดยยอมรับว่า พร้อมที่จะรอคำตอบจากนายกสมาคมฟุตบอลไทย ที่เป็นคนเดินเรื่องการย้ายทีมของนักเตะสู่เมืองผู้ดีในครั้งนี้
พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยกุนซือทีมชลบุรี ยังยอมรับด้วยว่า ไม่เคยได้ทราบถึงสัญญาของอดีตลูกทีมทั้ง 2 คนที่เซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี แต่อย่างใด “ผมไม่ทราบเลยว่าในสัญญามันบอกว่าอะไรบ้าง คิดดูแล้วกันผมถามคุณวรวีร์ว่ามันมีอะไรบ้าง เขาบอกผมว่าความลับ ผมก็เลยไม่กล้ายุ่งกับเรื่องนี้ เพราะจริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกับผม”
ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ของสื่อมวลชนว่าในสัญญาฉบับดังกล่าวจะมีการระบุไว้ หรือไม่ว่านักเตะไทยที่เซ็นสัญญากับทีม “เรือใบสีฟ้า” จะได้รับค่าเหนื่อยก็ต่อเมื่อได้ใบอนุญาตการทำงานในอังกฤษนั้น “เดอะเซนต์” ยอมรับว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว “ผมคงบอกไม่ได้ว่าเนื้อหาในสัญญาระบุว่าอะไรเพราะไม่ได้ดูจริงๆ ถ้าอยากทราบก็ต้องไปถาม คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เพราะเขาเป็นคนประสานงานเรื่องนี้ แต่ใจจริงผมอยากให้มีการเปิดเผยเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะสังคมจะได้สบายใจ ไม่ต้องมาถามที่ผมเสียที”