xs
xsm
sm
md
lg

แข้งไทยพร้อมชน “โค้ชหรั่ง” พร้อมหรือยัง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางกระแสความคึกคักก่อนที่ทีมชาติไทย จะต้องบุกไปเยือนเมืองไซตามะ ในกรุงโตเกียว เพื่อทำศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ประเดิมนัดแรกในกลุ่มบีกับทีมชาติญี่ปุ่น วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551

                โดยก่อนหน้านี้มีการเตรียมทีมเป็นระยะเวลานานร่วม 1 เดือนก่อนแข่งด้วยการนำทีมนักเตะไทยไปเก็บตัวถึงเมืองแมนเชสเตอร์ กับสโมสร "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในประเทศอังกฤษเป็นระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์ ผลจากการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นส่งผลให้ "บิ๊กโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดนี้แสดงความเชื่อมั่นในตัวลูกทีมว่าจะสามารถสู้กับทีมชาติญี่ปุ่นได้แน่โดยกล่าวว่า

"จากที่เมื่อก่อนเวลาเราพบกับญี่ปุ่นแทบจะไม่มีโอกาสลุ้นคะแนนเลย แต่การที่เราเตรียมทีมกันค่อนข้างพร้อม ทำให้เรามีลุ้นที่จะได้แต้มมากขึ้น ซึ่งเกมในวันนั้นถ้ามีโชคช่วย รวมไปถึงจังหวะเป็นใจ เราก็มีลุ้นเก็บคะแนนกลับบ้านเหมือนกัน"

นอกจากผู้จัดการทีมจะมั่นใจแล้ว ยังมีมุมมองของอดีตรุ่นพี่ทีมชาติไทยในชุดที่เข้าใกล้ฝันไปบอลโลกมากที่สุดอย่าง "เดอะ ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยอดกองหน้าระดับตำนานของทีมชาติไทย และเป็นนักฟุตบอลรายแรกของไทยที่ถูกยกย่องให้เป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังแห่งเอเชีย เมื่อทีมข่าวกีฬาผู้จัดการรายวันได้สอบถาม “เดอะตุ๊ก” กับความหวังของทีมชาติไทยชุดนี้ในฐานะรุ่นพี่ที่ผ่านสนามมาก่อนนั้นมองว่าทีมชาติไทยชุดนี้มีความพร้อมดีกว่านักเตะทีมชาติในอดีตมากโดยกล่าวว่า

                  "บอกได้เลยว่านักเตะไทยชุดนี้พร้อมมาก จากการติดตามจะเห็นนักเตะชุดนี้ใช้ระยะเวลาในการเตรียมทีมมากกว่าทีมชาติไทยชุดอื่นๆ ในการทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งนี้"

                  "ที่สำคัญคือระบบการบริหารทีมอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเรื่องการเตรียมตัว การฝึกซ้อม การเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคย รวมทั้งยังมีความพร้อมในเรื่องงบประมาณ คือ ถ้าเทียบกับสมัยที่ผมยังเล่นฟุตบอลอยู่มันก็ต่างกันไกลเลย"

                  โดยอดีตหัวหอกทีมชาติไทยมองว่าจุดเด่นของขุนพลลูกหนังชุดนี้คือการที่ผู้เล่นหลายคนได้เล่นร่วมทีมกันมานาน "ถึงเวลานี้ผมคิดว่านักเตะไทยน่าจะพร้อมแล้วสำหรับพบกับทีมชาติญี่ปุ่น เพราะระยะเวลาในการเตรียมทีมค่อนข้างนาน สภาพผู้เล่นในทีมก็ถือว่าดีมาก ได้เล่นด้วยกันโดยตลอด ความเข้าใจในทีมต้องมีระดับที่ดีแล้วจากการฝึกซ้อมร่วมกันมาขนาดนี้ ต่อให้ไปแข่งที่บ้านญี่ปุ่นทีมชาติไทยชุดนี้ทำได้ สู้ได้ ไม่ห่วงอะไรเลย"

                  นอกจากนี้ "เดอะ ตุ๊ก" ยังแสดงความมั่นใจว่านักเตะกองหน้าทีมชาติไทยกำลังอยู่ในช่วงท้อปฟอร์ม และจะสร้างความหนักใจให้คู่แข่งได้แน่นอน "ผมมองว่าผู้เล่นกองหน้าหลายคนของทีมชาติไทยตอนนี้อยู่ในช่วงที่ต่างก็โชว์ฟอร์มได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ศรายุทธ ชัยคำดี , พิพัฒน์ ต้นกันยา หรือ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย คือต้องเข้าใจก่อนว่านักเตะกองหน้าความมั่นใจในการทำประตูถือเป็นเรื่องสำคัญ และตอนนี้ผมก็คิดว่าเขาอยู่ในช่วงที่มั่นใจกับฟอร์มการเล่นของตัวเองมาก"

                  ขณะเดียวกันศูนย์หน้าในตำนานยังมองว่าหากทีมไทยที่เตรียมทีมกันมานานต้องกลับบ้านมือเปล่าในเกมกับญี่ปุ่น ก็ถือเป็นปัญหาที่ตัวโค้ชมากกว่าตัวนักเตะ "คือถ้าพร้อมขนาดนี้แล้วยังไม่สามารถได้ 1 คะแนน จากญี่ปุ่น ผมก็มองว่าน่าจะเป็นเรื่องโค้ช เรื่องแท็คติกแล้ว ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณชาญวิทย์ ผลชีวิน แต่ถามว่ามีเวลาเตรียมทีมมากขนาดนี้ มีเวลาศึกษาข้อมูลเขามาเยอะ มีเวลาแก้ไขจุดบกพร่องที่ตัวเองจะมองเห็นได้ เราน่าจะทำได้กับการเก็บ 1 คะแนน ออกมาจากญี่ปุ่น"

                  "ผมมองว่าทีมชาติไทยมีความสามารถที่จะผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายของเอเชียได้แน่นอน เพราะคู่แข่งร่วมสายอย่าง บาห์เรน และ โอมาน ก็ไม่ได้มีฝีเท้าที่ดีกว่าเรา ผมเชื่อว่า 2 ทีมนี้เราเอาชนะเขาได้แน่ แต่ทีนี้ทุกอย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักฟุตบอลอย่างเดียว มันอยู่ที่โค้ชด้วย ถ้าโค้ชไม่เก่ง มันก็ไม่สามารถทำให้ทีมฟุตบอลไทยเก่งขึ้นมาได้"

                 วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ แฟนลูกหนังชาวไทยคงต้องมารอลุ้นกันว่าความสามารถของ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย จะมีมากพอที่จะปลุกเสกแข้งไทยให้สามารถแบ่ง 1 คะแนนออกจากดินแดนซามูไรได้หรือไม่ ซึ่งผลงานดังกล่าวน่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ากึ๋นของผู้จัดการทีมและฝีเท้าของแข้งไทยนั้นดีพออย่างที่หลายฝ่ายยกว่า แข้งไทยชุดนี้พร้อมสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา



กำลังโหลดความคิดเห็น