“นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ และ “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เดินทางมาถึงสถานีสุดท้ายในเกมชิงชัยการเป็นจ้าวแห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ก่อนศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 (Super Bowl XLII) จะเปิดฉากขึ้นในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ลองมาดูเรื่องราวน่าสนใจซึ่งอาจเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของทั้งสองทีม
- ขอต้อนรับสู่ ‘เกลนเดล’
นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ชนะนอกบ้านมา 10 เกมติดต่อกัน ทอม คอฟลิน พาทีมกวาดชัยทั้งแถบหนาว (แมรีแลนด์, มิชิแกน, อิลลินอยส์, เพนซิลวาเนีย, นิวยอร์ก และวิสคอนซิน) รวมถึงเกมโปรโมตเอ็นเอฟแอลที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และแถบร้อนอย่าง จอร์เจีย, ฟลอริดา, เท็กซัส ขณะที่ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ผ่านร้อนผ่านหนาวชนะทั้ง 18 เกมในฤดูกาลนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิซึ่งอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียสที่เกลนเดล ในอริโซนา ต้องมาดูกันว่าใครจะทนทานกว่ากันในเกมที่มี “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” เป็นเดิมพัน
- รีแมตช์
วงการพนันขันต่อในลาสเวกัสยังกล้าให้ แพทริออตส์ เป็นต่อถึง 13.5 แต้ม หรือพวกเขายังไม่เข็ด ? เพราะหากย้อนกลับไปเกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ ไจแอนท์ส ทำผลงานดีเกินคาดนำ 28-16 เมื่อจบครึ่งแรก แม้ท้ายที่สุด “แพทส์แมน” จะพลิกกลับมาพิชิตชัย 38-35 คะแนน พร้อมทำสถิติชนะทั้ง 16 เกมในฤดูกาลปกติ สามารถฝันถึง “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” จนถึงทุกวันนี้ แต่ในขณะเดียวกันเกมดังกล่าวได้เพิ่มความมั่นใจให้กับ ไจแอนท์ส จนฟันฝ่ามาถึงซูเปอร์โบว์ล อีลาย แมนนิง สัมผัสได้ถึงกลิ่นของเอ็นด์โซน เมื่อขว้างใส่เกมรับของ “นักรบกู้ชาติ” ได้ถึง 4 ทัชดาวน์
- เบรดี VS แมนนิง (อีกครั้ง)
ปี 2003, 2004 และ 2006 ทอม เบรดี ลงไปประชันฝีมือกับ เพย์ตัน แมนนิง (อินเดียนาโปลิส โคลต์ส) มาฤดูกาลนี้ เบรดี ยังสลัดตระกูล “แมนนิง” ไม่หลุดต้องมาเจอกับ อีลาย ในคราบ “แจ็ค” ผู้ต้องการฆ่ายักษ์ ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บขึ้นมาเป็นกระแส บรรดานักข่าวมะกันคงไม่มีประเด็นใดเล่นสำหรับ เบรดี สุดยอดควอเตอร์แบ็กที่ทุบสถิติเป็นว่าเล่น แต่พวกเขาคงได้ประเด็นใหญ่หาก เบรดี ศิโรราบให้ตระกูล “แมนนิง” เป็นปีที่สองติดต่อกัน และโอกาสนั้นยังพอเปิดอยู่ในเมื่อ อีลาย โชว์ฟอร์มดั่ง MVP โพสต์ซีซั่น นอกจากไม่ก่อความผิดพลาดยังล้มควอเตอร์แบ็กชั้นนำของลีกมาแล้วทั้ง เจฟฟ์ การ์เซีย, โทนี โรโม และเบร็ตต์ ฟาร์ฟ
- เกมรวมผู้อาวุโสของลีก
พอเสร็จศึกซูเปอร์โบว์ลหนนี้ ผู้เล่นตัวเก๋าของทั้งสองทีมอย่าง จูเนียร์ เซอาว, ร็อดนีย์ แฮร์ริสัน, ไมเคิล สเตรแฮน หรือ อมานี ทูเมอร์ มีโอกาสเดินขึ้นโพเดียมประกาศหันหลังให้วงการคนชนคน สำหรับ เซอาว วัย 39 ปีปรารถนาเถลิงแชมป์แรกก่อนรีไทร์ จึงเลือกมาเป็นกำลังสำคัญในเกมรับให้ แพทริออตส์ ขณะที่ แฮร์ริสัน เซฟตีวัย 35 ปี แหวนแชมป์วงที่สามคงทำให้ฤดูกาลที่ 14 ของเขาปิดฉากอย่างชื่นมื่น ทางฝั่งของดีเฟนซีฟ เอนด์ สเตรแฮน (36 ปี) และปีกอย่าง ทูเมอร์ (33 ปี) อยู่ในทีมไจแอนท์สชุดที่ปราชัยให้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ในซูเปอร์โบว์ลเมื่อเจ็ดปีก่อน ถ้าครั้งนี้พวกเขาสมหวังการอำลาเป็นเรื่องที่น่าคิด
- แพล็กซ์ VS สเมิร์ฟ
อซานเต ซามูเอล (5 ฟุต 10 นิ้ว) และเอลลิส ฮอปป์ส (5 ฟุต 9 นิ้ว) กลายเป็นตัว “สเมิร์ฟ” เมื่อต้องลงไปประกบกับ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ปีกนอกร่าง 6 ฟุต 5 นิ้วของ “ยักษ์ใหญ่” ซึ่งผลงานของคอร์เนอร์แบ็ก แพทริออตส์ ไม่ดีเท่าที่ควรในการเจอกับปีกตัวสูงๆ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเคยโดน วินเซนต์ แจ็คสัน ที่สูง 6 ฟุต 5 นิ้วของ ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส รับบอลไป 6 หนได้ระยะ 93 หลา ในเกมกับ แจ็คสันวิลล์ จากัวส์ แม็ตต์ โจนส์ (6 ฟุต 6 นิ้ว) และเออร์เนสท์ วิลฟอร์ด (6 ฟุต 4 นิ้ว) ต่างคว้าทัชดาวน์ ที่สำคัญในเกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ ฮอปป์ส เคยโดน อีลาย แมนนิง เผาตั้งแต่เพลย์ที่สองด้วยการบอมบ์ยาว 52 หลาเข้ามือ เบอร์เรสส์ มาแล้ว
- อาวุธเด็ด ‘แพทส์แมน’
แบรนดอน จาค็อบส์ และอาหมัด แบรดชอว์ ช่วยกันวิ่งทำให้เกมบุกของ ไจแอนท์ส เกิดความสมดุล แถมยังช่วยให้ อีลาย แมนนิง ไม่ต้องเสี่ยงต่อความผิดพลาด ด้านของ แพทริออตส์ ขึ้นชื่อเรื่องเกมบุกทางอากาศเนื่องจากมียอดปีกอยู่เต็มทีม แต่พอเข้าโค้งสุดท้ายของฤดูกาล บิลล์ บีลิชิก ปล่อยทีเด็ดที่ซุกอยู่ในกระเป๋าออกมาจนได้ นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 15 ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ วิ่งทำระยะเกิน 100 หลา 4 จากห้าเกม ในเพลย์ออฟ มาโรนีย์ กระซวกไป 122 หลาใส่ทีมรับสุดแกร่งของ จากัวส์ และชาร์จเจอร์ส แน่นอนถ้าเขาวิ่งออกเกมของ “แพทส์แมน” จะไหลลื่นเกินหยุดยั้ง แต่ถ้าเหมือนสัปดาห์ที่ 17 ที่ มาโรนีย์ วิ่งไป 19 ครั้งได้ระยะแค่ 46 หลา ทอม เบรดี คงได้งัดฟอร์มเทพอีกครั้ง