การแข่งขันรถสูตรหนึ่งหรือฟอร์มูล่าวัน ซึ่งถูกจัดให้เป็นสุดยอดความเร็วทางเรียบนั้น นับจากนี้เหลือเวลาอีกเพียง 5 สัปดาห์ธงตราหมากรุกจะเริ่มโบกสะบัดส่งสัญญาณแห่งการประลองในฤดูกาลใหม่ แต่ก่อนที่การบดขยี้ความเร็วจะเริ่มขึ้น ทุกทีมในวงการรถสูตรหนึ่งต่างต้องเหลียวหลังไปศึกษาผลงานและความผิดพลาดในฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้การเริ่มศักราชใหม่ของพวกเขาสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และบรรทัดต่อจากนี้คือ 5 เหตุการณ์ฉาวที่ 11 ทีมในวงการเอฟวัน ต้องระวังมิให้ไปทับรอยบนแทร็คเดิมเหมือนกับเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
1.คดีสปายเกตสุดอื้อฉาว
ต้นเหตุที่เกิดจากไนเจล สเตปนี หัวหน้าช่างเครื่อง"ม้าลำพอง"ต้องการนำข้อมูลรถเฟอร์รารี่ ไปหารือกับ ไมค์ คอฟแลนด์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบแม็คลาเรน เพื่อเตรียมจะชิ่งหนีต้นสังกัดออกมาทำงานร่วมกันในทีมฮอนด้า แต่ต้องถูกจับได้ในที่สุด และสุดท้ายฝ่ายที่โดนโทษไปเต็มๆก็คือทีมแม็คลาเรนในข้อหามีความลับคู่แข่งในครอบครอง
นับเป็นบทลงโทษครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติรถสูตรหนึ่ง เมื่อถูกตัดคะแนนประเภททีมทั้งหมด และถูกปรับเงินมหาศาลอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ราว 3,500 ล้านบาท) เป็นผลให้ทีมแข่งสัญชาติอังกฤษต้องพลาดแชมป์โลกประเภทผู้ผลิตไปอย่างน่าเจ็บใจ และก่อนฤดูกาล 2008 จะเปิดฉากขึ้น “แมกซ์ มอสลีย์” ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ออกมาประกาศว่า หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ทีมแข่งทีมนั้นไม่สมควรที่จะอยู่ในศึกเอฟวันอีกต่อไป
2.สงครามในทีมของอลอนโซ่
ในที่สุดเฟอร์นานโด อลอนโซ นักขับดีกรีแชมป์โลก 2 สมัย ก็ต้องกลับมาเลียแผลใจกับทีมเก่าอย่าง
เรโนลต์ หลังจากต้องอยู่ภายใต้รัศมีของเด็กรุ่นหลังที่ชื่อลูอิส แฮมิลตัน ที่แม็คลาเรน แต่การกลับมาถิ่นเก่าครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเพื่อนร่วมทีมของเขาเป็นถึงลูกชายของอดีตแชมป์โลกเอฟวัน 3 สมัยที่ชื่อเนลสัน ปิเก้ จูเนียร์ จากบราซิล
นักขับจากสเปนคงมั่นใจว่าจะได้รับการหนุนหลังจากทีมงานให้เป็นมือหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยความเป็นนักขับหน้าใหม่ ปิเก้ จูเนียร์ ย่อมมีความมุ่งมั่นและกระหายในชัยชนะเช่นเดียวกับ แฮมิลตันเมื่อปีที่ผ่านมา โอกาสที่อลอนโซจะถูกลูบคม และนำมาซึ่งความแตกร้าวภายในทีมก็ไม่น้อยเช่นกัน
3.ความตกต่ำของ “ซิลเวอร์สโตน”
สัญญาระหว่างสนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต กับ เบอร์นี่ย์ เอคเคิลสโตน กำลังจะหมดลงหลังจบฤดูกาล 2009 ซึ่งเจ้าพ่อจัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่งยืนยันว่า หากไม่มีการปรับปรุงสนามแห่งนี้ให้พ้นจากสภาพเสื่อมโทรม และไม่มีการเพิ่มมาตรฐานเรื่องความปลอดภัย ที่แห่งนี้ ก็อาจกลายเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์เอฟวันเท่านั้น
ถึงตอนนี้รัฐบาลเมืองผู้ดียังไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อบูรณะสังเวียนความเร็วนี้แต่อย่างใด ก็ได้แต่หวังว่ากระแสของนักขับเจ้าถิ่นอย่างลูอิส แฮมิลตัน และ เจนสัน บัตตัน จะกระตุ้นไปยังรัฐบาลอังกฤษให้เห็นความสำคัญของศึกบริติชกรังด์ปรีซ์ เสียที
4.งานกร่อยภายใน 1 ชั่วโมง
แม้ในฤดูกาลที่ผ่านมาคิมี่ ไรค์โคเน่น จะเบียดแย่งแชมป์โลกจาก สองนักขับแม็คลาเรนแบบสุดมันในสนามสุดท้าย แต่ทว่าภาพรวมจาก 18 สนาม แฟนๆกลับต้องนั่งดูรถแข่งคันผู้นำ ขับทิ้งห่างรถลำดับอื่นๆออกไปเรื่อยๆ จนแทบจะฟันธงไปได้เลยว่าสนามนั้นใครจะเป็นแชมป์ ทั้งที่การแข่งขันเพิ่งผ่านไปได้เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง
นับว่าเป็นการขับเคี่ยวที่ทำให้รถสูตรหนึ่งลดความมันลงไปไม่น้อยจากนี้คงต้องภาวนาให้ ทีมอย่างเรโนลต์ , บีเอ็มดับเบิลยู , วิลเลียมส์ และ ฮอนด้า จะเอาจริงเอาจังในการพัฒนารถขึ้นมาต่อกรกับ 2 มหาอำนาจอย่างเฟอร์รารี่และแม็คลาเรนได้อย่างสูสีกว่าปีที่ผ่านมา
5.ปาฏิหาริย์ ของคูบิก้า
อุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นในศึกแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนาม กิลเยส์ วิลเยอร์เนิฟ ในประเทศแคนาดา หลังรถบีเอ็มดับเบิลยู ของโรเบิร์ต คูบิก้า ไปสะกิดท้าย รถโตโยต้าของยาร์โน ทรูลลี ที่ความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนรถของคูบิก้าพุ่งเข้าชนกำแพงอย่างจัง ณ วินาทีนั้น ชีวิตของนักขับโปแลนด์ราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รายงานเบื้องต้นระบุว่า อาการของคูบิก้าถึงขั้นขาหัก แต่อย่างไรก็ดีไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ทีมบีเอ็มฯ-เซาเบอร์ ออกแถลงการณ์ว่าอาการของนักซิ่งรายนี้ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด นับเป็นปาฏิหาริย์ ที่ทุกคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นบ่อยๆเป็นแน่โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ที่รถแข่งทุกคันจะไม่มีแทร็คชันคอนโทรล ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้ได้ตลอดเวลา
