อาร์เซนอล ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ของศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ได้อย่างไม่ยากเย็น หลังบุกไปชนะ เบิร์นลีย์ ซึ่งมีผู้เล่นถูกไล่ออกในครึ่งหลัง 2-0 ขณะที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ ฟูแล่ม ยังต้องเตะนัดรีเพลย์หลังทำได้แค่เสมอในบ้านตัวเอง 2-2 ทั้งคู่
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2551
เบิร์นลีย์ 0 – 2 อาร์เซนอล
ศึกฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ของอังกฤษ รอบ 3 เบิร์นลีย์ เปิดสนามเทิร์ฟ มัวร์ ต้อนรับ อาร์เซนอล จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ชิป โดยเจ้าถิ่นมีผู้เล่นที่เคยค้าแข้งอยู่ในลีกสูงสุดอยู่ครึ่งทีม ซึ่งนัดนี้วางหมากโดยใช้ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้, ร็อบบี้ เบล็ค และ แอนดี้ เกรย์
ขณะที่ เดอะ กันเนอร์ส พักตัวจริงถึง 9 คนแล้วให้โอกาสกับกลุ่มดาวรุ่งและตัวสำรองลงสนามนำโดย เยนส์ เลห์มันน์ นายทวารจอมเก๋าที่มีข่าวว่ากำลังจะย้ายไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงเฝ้าเสา ส่วน โคโล ตูเร่ กับ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ได้ลงสนามเป็นนัดสุดท้ายก่อนไปเล่นให้ทีมชาติไอวอรีโคสต์ในศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเศษ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ก็หาจังหวะลุ้นทำประตูให้ทีมเยือนจากการพาบอลขึ้นมาแถวกลางสนามแล้วลองส่องไกล แต่ลูกไต่หลังเท้าหลุดห่างออกไปพอสมควร ก่อนที่ เบิร์นลีย์ จะมาสร้างความหวาดเสียวให้ อาร์เซนอล โดย แอนดี้ เกรย์ เปิดบอลจากกรอบเขตโทษด้านขวาไปถึง ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ที่สอดเข้ามาโหม่งเต็มศีรษะ บอลผ่านมือ เลห์มันน์ ไปแล้ว ทว่ายังไม่พ้นคานประตู
อย่างไรก็ตาม พลพรรคปืนใหญ่ก็ได้เริงร่าในนาทีที่ 9 เมื่อ โคโล ตูเร่ ตักบอลจากวงกลมกลางสนามข้ามแผงหลังให้ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา หลุดเข้าไปแตะบอลหนึ่งจังหวะก่อนจิ้มสวนตัว กาบอร์ คิราลี่ เข้าไปแบบนิ่มนวลให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังตกเป็นรอง เบิร์นลีย์ ก็พยายามหาทางเจาะเข้าทำหวังตีเสมอให้ได้ นาทีที่ 18 แอนดี้ เกรย์ ได้บอลจ่ายทะลุช่องเข้าไปแปในเขตโทษ แต่ถูก ตูเร่ เบียดเอาไว้จึงยิงเบาไปเข้ามือ เลห์มันน์ จากนั้นนาทีเดียว ร็อบบี้ เบล็ค เก็บตกจากลูกที่ เซนเดอรอส สกัดไม่ขาด แต่ก็ซัดเหินข้ามคานออกไป
เดอะ กันเนอร์ส เกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 21 จากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่เปิดเข้ามาให้ จิลแบร์โต้ ซิลวา ขึ้นโขก บอลไปแฉลบ เจมส์ โอคอนเนอร์ เปลี่ยนทางเข้าหากรอบประตู แต่ จอน ฮาร์ลีย์ ที่ยืนคุมเส้นอยู่ช่วยเซฟเอาไว้ให้เจ้าถิ่นยังตามหลังแค่ลูกเดียวต่อไป
ถึงนาทีที่ 38 ปืนใหญ่เกือบโดน เบิร์นลีย์ ยิงตีเสมอจากความผิดพลาดของ อาร์มองด์ ตราโอเร่ ที่ครองบอลหน้าประตูนานเกินไปจนถูกฉกตัดไปได้ แต่จังหวะสุดท้าย คริส แม็คคานน์ กลับซัดโด่งออกหลังไปเอง ทำให้จบครึ่งแรก อาร์เซนอล ยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นกันในครึ่งหลัง ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสส่องไกลคนละครั้ง แต่ลูกยิงของทั้ง จอน ฮาร์ลีย์ และ เดนิลสัน ก็ยังไม่สามารถขยับสกอร์บอร์ดได้ ก่อนที่ อาร์เซนอล จะเกือบได้ประตูอีกครั้งเมื่อ เอดูอาร์โด ทำชิ่งกับ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ก่อนหลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ คิราลี่ แต่ดาวยิงโครแอตแปเฉี่ยวเสาแรกออกไปเพียงนิดเดียว
กระทั่งถึงนาทีที่ 60 เบิร์นลีย์ ก็ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเนื่องจาก ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ถูกผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ชักใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังพุ่งเข้าไปสไลด์ จิลแบร์โต้ ซิลวา อย่างหนักหน่วง ทำให้เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เดอะ กันเนอร์ส ก็มาทะลวงประตูหนีห่างไปเป็น 2-0 จนได้จากการจ่ายตัดแผงหลังของ เอดูอาร์โด ไปให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดเข้าไปแตะหนี คิราลี่ ก่อนยิงเข้าสู้ก้นตาข่าย จากนั้น โจอี้ กุ๊ดยอนส์สัน กองกลางตัวสำรองของเจ้าถิ่นก็ลองซัดไกลใน 5 นาทีต่อมา แต่ก็ไปตรงตัว เลห์มันน์ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการยิงประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซนอล เป็นฝ่ายบุกมาชนะ เบิร์นลีย์ ถึงถิ่น 2-0 ลอยลำเข้าสู่รอบ 4 ต่อไป ส่วนคู่ของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ และ ฟูแล่ม กับ บริสตอล โรเวอร์ส ลงเอยด้วยการเสมอ 2-2 ทั้งคู่ ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันอีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบิร์นลีย์ – กาบอร์ คิราลี่, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, สตีฟ คัลด์เวลล์, สตานิสลาฟ วาร์ก้า, จอน ฮาร์ลีย์, เจมส์ โอคอนเนอร์, เวด เอลเลียตต์, คริส แม็คคานน์, ร็อบบี้ เบล็ค, ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้, แอนดี้ เกรย์
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, โคโล ตูเร่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, อาร์มองด์ ตราโอเร่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, จิลแบร์โต้ ซิลวา, อาบู ดิยาบี้, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เบิร์นลีย์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2-2
ฟูแล่ม เสมอ บริสตอล โรเวอร์ส 2-2
ลูตัน ทาวน์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
สโต๊ค ซิตี้ เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2551
เบิร์นลีย์ 0 – 2 อาร์เซนอล
ศึกฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ของอังกฤษ รอบ 3 เบิร์นลีย์ เปิดสนามเทิร์ฟ มัวร์ ต้อนรับ อาร์เซนอล จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ชิป โดยเจ้าถิ่นมีผู้เล่นที่เคยค้าแข้งอยู่ในลีกสูงสุดอยู่ครึ่งทีม ซึ่งนัดนี้วางหมากโดยใช้ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้, ร็อบบี้ เบล็ค และ แอนดี้ เกรย์
ขณะที่ เดอะ กันเนอร์ส พักตัวจริงถึง 9 คนแล้วให้โอกาสกับกลุ่มดาวรุ่งและตัวสำรองลงสนามนำโดย เยนส์ เลห์มันน์ นายทวารจอมเก๋าที่มีข่าวว่ากำลังจะย้ายไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงเฝ้าเสา ส่วน โคโล ตูเร่ กับ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ได้ลงสนามเป็นนัดสุดท้ายก่อนไปเล่นให้ทีมชาติไอวอรีโคสต์ในศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีเศษ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ก็หาจังหวะลุ้นทำประตูให้ทีมเยือนจากการพาบอลขึ้นมาแถวกลางสนามแล้วลองส่องไกล แต่ลูกไต่หลังเท้าหลุดห่างออกไปพอสมควร ก่อนที่ เบิร์นลีย์ จะมาสร้างความหวาดเสียวให้ อาร์เซนอล โดย แอนดี้ เกรย์ เปิดบอลจากกรอบเขตโทษด้านขวาไปถึง ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ที่สอดเข้ามาโหม่งเต็มศีรษะ บอลผ่านมือ เลห์มันน์ ไปแล้ว ทว่ายังไม่พ้นคานประตู
อย่างไรก็ตาม พลพรรคปืนใหญ่ก็ได้เริงร่าในนาทีที่ 9 เมื่อ โคโล ตูเร่ ตักบอลจากวงกลมกลางสนามข้ามแผงหลังให้ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา หลุดเข้าไปแตะบอลหนึ่งจังหวะก่อนจิ้มสวนตัว กาบอร์ คิราลี่ เข้าไปแบบนิ่มนวลให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังตกเป็นรอง เบิร์นลีย์ ก็พยายามหาทางเจาะเข้าทำหวังตีเสมอให้ได้ นาทีที่ 18 แอนดี้ เกรย์ ได้บอลจ่ายทะลุช่องเข้าไปแปในเขตโทษ แต่ถูก ตูเร่ เบียดเอาไว้จึงยิงเบาไปเข้ามือ เลห์มันน์ จากนั้นนาทีเดียว ร็อบบี้ เบล็ค เก็บตกจากลูกที่ เซนเดอรอส สกัดไม่ขาด แต่ก็ซัดเหินข้ามคานออกไป
เดอะ กันเนอร์ส เกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 21 จากลูกเตะมุมทางด้านขวาที่เปิดเข้ามาให้ จิลแบร์โต้ ซิลวา ขึ้นโขก บอลไปแฉลบ เจมส์ โอคอนเนอร์ เปลี่ยนทางเข้าหากรอบประตู แต่ จอน ฮาร์ลีย์ ที่ยืนคุมเส้นอยู่ช่วยเซฟเอาไว้ให้เจ้าถิ่นยังตามหลังแค่ลูกเดียวต่อไป
ถึงนาทีที่ 38 ปืนใหญ่เกือบโดน เบิร์นลีย์ ยิงตีเสมอจากความผิดพลาดของ อาร์มองด์ ตราโอเร่ ที่ครองบอลหน้าประตูนานเกินไปจนถูกฉกตัดไปได้ แต่จังหวะสุดท้าย คริส แม็คคานน์ กลับซัดโด่งออกหลังไปเอง ทำให้จบครึ่งแรก อาร์เซนอล ยังคงนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นกันในครึ่งหลัง ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสส่องไกลคนละครั้ง แต่ลูกยิงของทั้ง จอน ฮาร์ลีย์ และ เดนิลสัน ก็ยังไม่สามารถขยับสกอร์บอร์ดได้ ก่อนที่ อาร์เซนอล จะเกือบได้ประตูอีกครั้งเมื่อ เอดูอาร์โด ทำชิ่งกับ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ก่อนหลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ คิราลี่ แต่ดาวยิงโครแอตแปเฉี่ยวเสาแรกออกไปเพียงนิดเดียว
กระทั่งถึงนาทีที่ 60 เบิร์นลีย์ ก็ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเนื่องจาก ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ ถูกผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ชักใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังพุ่งเข้าไปสไลด์ จิลแบร์โต้ ซิลวา อย่างหนักหน่วง ทำให้เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เดอะ กันเนอร์ส ก็มาทะลวงประตูหนีห่างไปเป็น 2-0 จนได้จากการจ่ายตัดแผงหลังของ เอดูอาร์โด ไปให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดเข้าไปแตะหนี คิราลี่ ก่อนยิงเข้าสู้ก้นตาข่าย จากนั้น โจอี้ กุ๊ดยอนส์สัน กองกลางตัวสำรองของเจ้าถิ่นก็ลองซัดไกลใน 5 นาทีต่อมา แต่ก็ไปตรงตัว เลห์มันน์ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการยิงประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซนอล เป็นฝ่ายบุกมาชนะ เบิร์นลีย์ ถึงถิ่น 2-0 ลอยลำเข้าสู่รอบ 4 ต่อไป ส่วนคู่ของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ และ ฟูแล่ม กับ บริสตอล โรเวอร์ส ลงเอยด้วยการเสมอ 2-2 ทั้งคู่ ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันอีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบิร์นลีย์ – กาบอร์ คิราลี่, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, สตีฟ คัลด์เวลล์, สตานิสลาฟ วาร์ก้า, จอน ฮาร์ลีย์, เจมส์ โอคอนเนอร์, เวด เอลเลียตต์, คริส แม็คคานน์, ร็อบบี้ เบล็ค, ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้, แอนดี้ เกรย์
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, โคโล ตูเร่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, อาร์มองด์ ตราโอเร่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, จิลแบร์โต้ ซิลวา, อาบู ดิยาบี้, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เบิร์นลีย์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2-2
ฟูแล่ม เสมอ บริสตอล โรเวอร์ส 2-2
ลูตัน ทาวน์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
สโต๊ค ซิตี้ เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0
