“จัสติน เอแน็ง” นักเทนนิสมือ 1 โลกชาวเบลเยี่ยม ปรับแผนรับปี 2008 ด้วยการตั้งเป้าคว้าแชมป์วิมเบิลดันเป็นสมัยแรก ขณะที่รายการซึ่งผูกปีคว้าแชมป์มาตลอด 4 สมัย อย่าง เฟรนช์ โอเพ่น กลับถูกลดสำคัญลงเหลือเพียงอันดับสองเท่านั้น ตามรายงานของเดลี่เมล์
นับเป็นครั้งแรกที่ “จัสติน เอแน็ง” ราชินีแห่งวงการลูกสักหลาดโลก ยอมรับว่า เป้าหมายอันดับแรกในการคว้าแชมป์ปีนี้ คือ การชูถ้วยที่สนามออล อิงแลนด์ คลับ มากกว่าที่จะเป็นการครองแชมป์เป็นสมัยที่ 5 บนคอร์ตดินในศึกเทนนิสเฟรนช์ โอเพ่น
คาร์ลอส โรดริเกซ โค้ชของเอแน็ง เผยถึงเป้าหมายในการแข่งขันปี 2008 ว่า การช่วยให้นักหวดเล็กพริกขี้หนูคว้าแชมป์วิมเบิลดันเป็นครั้งแรก คือ งานสำคัญอันดับแรกของเขาในปีนี้ เนื่องจากเอแน็ง ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นยอดหญิงแห่งวงการเทนนิสนั้นยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์รายการนี้มาก่อนเลย
ก่อนหน้านี้ เอแน็ง มักพูดเสมอว่า เธอชอบที่จะคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น มากกว่า วิมเบิลดัน ทว่ามาในครั้งนี้ หวดวัย 25 ปี ซึ่งเคยครองแชมป์ที่ฝรั่งเศสมาแล้วถึง 4 สมัย กลับตอบต่างออกไป โดยเมื่อถูกถามว่า “ถ้าให้เลือกระหว่างแชมป์เฟรนช์ โอเพ่นสมัยที่ 5 กับ แชมป์วิมเบิลดันหนแรก?” หวดหมายเลข 1 ของโลกกลับอย่างไม่ลังเลเลยว่า “วิมเบิลดัน!”
ทั้งนี้ โรดริเกซ ออกมาเฉลยภายหลังว่า แทคติกและแผนการเล่นของเอแน็ง ในปีนี้เปลี่ยนไป ซึ่งทำให้เป้าหมายและการวางแผนต่างๆ ย่อมเปลี่ยนไปด้วย เธอจำต้องการคว้าแชมป์วิมเบิลดันหนแรกมาครองให้ได้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของตัวเอง
ขณะเดียวกัน โฆเซ่ พ่อของเอแน็ง ได้ออกมากล่าวเสริมถึงเรื่องนี้ว่า “คาร์ลอสพูดถูกเกี่ยวกับหนทางในการผลักดันให้จัสตินยอดเยี่ยมขึ้นกว่าเดิม เขาต้องการทำให้เธอแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้น รวมทั้งสร้างความคิดในแง่บวกให้กับเธอ การเล่นหน้าเนตมากขึ้นจะช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย และวิมเบิลดันคือเป้าหมายนั้น”
โดยฤดูกาลที่แล้ว เอแน็ง พลาดโอกาสสำคัญในการเข้าไปชิงชนะเลิศศึกเทนนิสวิมเบิลดัน หลังจากพ่ายพลิกล็อกให้กับ มาริยง บาร์โตลี่ มือรองบ่อนจากฝรั่งเศส ในรอบรองชนะเลิศที่ออล อิงแลนด์ คลับ