xs
xsm
sm
md
lg

โซเชียลร้องยูทูปสอบ ‘เจนนี่’ ปั่นยอดวิว ชี้โทษอาจถึงขั้นถูกปิด “ช่องได้หมดถ้าสดชื่น”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพต้นเหตุของเสียงวิจารณ์ว่า เจนนี่ ปั่นยอดวิว
โซเชียลเดือด แจ้งยูทูปสอบ “เจนนี่” ปั่นยอดวิว ยัน “เนเงิน” อัปหลักฐานลง TikTok เอง ด้าน “เสกสรร” ปรมาจารย์ด้านยูทูป ชี้โทษถึงขั้นถูกปิด “ช่องได้หมดถ้าสดชื่น” ขณะที่ “ทนายเจมส์” เดินหน้าลบคลิปเพลงเลิกคุยฯ พร้อมทั้งเพิ่มคำฟ้องกรณีเจนนี่ละเมิดสิทธินำเพลงไปลงใน JOOK และให้ 3 ค่ายมือถือทำริงโทน แจงฟ้องเฉพาะคดีอาญา ยังไม่ฟ้องแพ่งเรียกส่วนแบ่งรายได้ เผยละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้า โทษสูงสุดจำคุกถึง 4 ปี

เรียกว่าเป็นดรามารายวันกันเลยทีเดียวสำหรับกรณีของ “เจนนี่” หรือ น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” ด้วยมีข้อพิพาทจากหลากหลายกรณีการโกง ทั้งกับเจ้าหนี้ เด็กในค่าย และศิลปินที่ร่วมฟิตเจอริ่งจนทำให้เจนนี่ และลิลลี่ น้องสาวเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศอย่าง “เก้า-เกริกพล เพชรรัตน์” นักร้องเสียงดี ดีกรี The Voice Kids 5 และจากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสแอนตี้อย่างหนัก ส่งผลให้สถานการณ์ของเจนนี่ขณะนี้เข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว เนื่องจากนักร้องในค่ายลาออกไปแล้วถึง 6 คน ถูกเจ้าภาพยกเลิกงานคอนเสิร์ตติดๆกันถึง 9 งาน ขณะที่ในส่วนของกรณีที่เป็นปัญหากับเก้า-เกริกพล นั้นนอกจาก “ทนายเจมส์” นิติธร แก้วโต จะยื่นฟ้องเจนนี่ละเมิดสิทธินักแสดงของเก้าแล้ว ยังเดินหน้าเต็มที่เพื่อให้มีการลบคลิป MV เพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ที่มีเสียงและภาพของเก้าอยู่ด้วย อีกทั้งล่าสุดยังมีผู้แจ้งเรื่องไปยังยูทูปให้ตรวจสอบกรณีการ “ปั่นยอดวิว” ของค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของค่ายอย่างแน่นอน

การแจ้งรีพอร์ตข้อสังเกตเรื่องการปั้นยอดวิวของ ค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งชาวโซเชียลส่งถึงยูทูป
สำหรับข้อสงสัยเรื่องการปั่นยอดวิวของ “ค่ายได้หมดถ้าสดชื่น” นั้นเป็นประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ นายเจตริน ศรีสังข์ หรือ “เนเงิน” คนรักของเจนนี่ ได้นำคลิปที่ “เจนนี่นำมือถือหลายๆ เครื่องมาเปิด MV เพลงของตัวเองพร้อมๆ กัน” มาลงในติ๊กต็อก ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการปั่นยอดวิว อีกทั้งชาวโซเชียลต่างตั้งข้อสังเกตว่ายอดวิวเกือบทุกเพลงของค่ายได้หมดถ้าสดชื่นนั้นสูงผิดปกติ

ทั้งที่ศิลปินส่วนใหญ่เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งมีผลงานและน้ำเสียงไม่ได้โดดเดนนัก เช่น กรณีเพลง “เจอเสียวข้างถนน” ของศิลปินชื่อ “ทน แฮะ” ที่ปล่อยเพลงออกมาวันแรก ยอดวิวก็ขึ้นไปถึง 1.1 ล้านวิว เรียกว่ายอดวิวสูงพอๆ กับเพลง “ไม่เข้าท่า” ของวง “บอดี้สแลม” ซึ่งขณะนั้นปล่อยเพลงออกมา 4 วัน มียอดวิว 4 ล้านวิว หรือเฉลี่ยวันละ 1 ล้านวิว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้

เนื่องจากศักยภาพของศิลปินนั้นแตกต่างกันมาก โดย “บอดี้สแลม” ถือเป็นศิลปินดังระดับประเทศซึ่งมียอดผู้ติดตามในช่องยูทูปของวงถึง 8.8 แสนคน และมีผู้ติดตามในแฟนเพจ “พี่ตูน Bodyslam fc” ประมาณ 8.2 แสนคน ขณะที่ “ทน แฮะ” เป็นเด็กต่างจังหวัดหน้าตาธรรมดา แถมยังไม่เคยมีผลงาน มีผู้ติดตามในแฟนเพจ “fc ทนแฮะ” ประมาณ 1 พันคนเท่านั้น

จึงเกิดคำถามตามมาว่ายอดวิวที่พุ่งขึ้นถล่มทลายภายในวันเดียวนั้นเกิดจากการ “ปั่น” หรือไม่? มีการใช้บริการธุรกิจปั่นยอดวิวหรือเปล่า? อีกทั้งชาวโซเชียลต่างก็อยากรู้ว่าหากค่ายได้หมดถ้าสดชื่นมีการปั่นยอดวิวจริงแล้วยูทูปตรวจสอบพบ จะเกิดอะไรขึ้นกับเจนนี่และค่ายได้หมดถ้าสดชื่น?

นายเสกสรร เทิดสิริภัทร อาจารย์สอนการสร้างช่องยูทูป และเจ้าของช่อง “เสกสรร ปั้น Youtube”
นายเสกสรร เทิดสิริภัทร อาจารย์สอนการสร้างช่องยูทูป และเจ้าของช่อง “เสกสรร ปั้น Youtube” ปรมาจารย์ซึ่งสร้างยูทูปเปอร์หน้าใหม่มาแล้วนับไม่ถ้วน อธิบายถึงการดำเนินการของยูทูปต่อกรณีการปั่นยอดวิว ว่า ปัจจุบันมีการปั่นยอดวิวในหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งแฟนคลับช่วยปั่น ตัวศิลปินและทางค่ายปั่นเอง และธุรกิจรับจ้างปั่นยอดวิว ซึ่งยอดวิวใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติยูทูปก็ถือว่าผิดกฎ แต่ในกรณีที่แฟนคลับช่วยปั่นยูทูปอนุโลมเพราะเกิดจากความชื่นชอบในตัวศิลปิน ส่วนกรณีที่ตัวศิลปินและทางค่ายปั่นเอง หรือใช้บริการธุรกิจรับจ้างปั่นยอดวิวนั้น หากยูทูปตรวจพบจะมีบทลงโทษดังนี้

1) ทำการ strike ทำให้ไม่สามารถลงคลิปได้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หากถูก strike 3 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 เดือน จะถูกปิดช่องยูทุปอย่างถาวร 2) ถูกปิดการสร้างรายได้ของช่องเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งหมายความว่าแม้คลิปที่ลงในช่องยูทูปที่มีการปั่นวิวจะสามารถเผยแพร่บนช่องยูทูปนั้นๆ ได้แต่ในช่วง 1 เดือนดังกล่าวทางช่องจะไม่ได้รับรายได้ใดๆ จากยูทูป และ 3) ถูกปิดบัญชีรับรายได้ ซึ่งเท่ากับเป็น "ปิดช่องยูทูป" ช่องนั้นๆ นั่นเอง อย่างไรก็ดี ยูทูปไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการปั่นวิวแบบไหนจะได้รับโทษอย่างไร โดยความผิดแต่ละกรณีจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของยูทูปเอง

สำหรับกรณีการใช้บริการธุรกิจรับจ้างปั่นยอดวิวนั้น อาจารย์เสกสรร อธิบายว่า เท่าที่ทราบบริษัทเหล่านี้น่าจะใช้บอท หรือโปรแกรมซึ่งสร้างมาเพื่อคลิกปั่นยอดวิว โดยจะมีการตั้งเวลาให้บอททำงาน แต่บอทก็มีจุดอ่อนคือถ้าบอทตัวนั้นคลิกดูคลิปเดิมซ้ำๆ ยูทูปก็อาจเห็นความผิดปกติ และให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ

“ปกติยูทูปจะใช้ AI ในการตรวจสอบการปั่นยอดวิว หากได้รับการร้องเรียนก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ อย่างเมื่อปีที่แล้วลูกศิษย์ที่ผมสอนมาเล่าให้ฟังว่าเขาใช้บริการรับจ้างปั่นวิว ช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สักพักถูกยูทูปประเทศไทยดำเนินการ เพราะยูทูปตรวจพบความผิดปกติเนื่องจากเป็นช่องยูทูปภาษาไทย แต่ IP ที่คลิกดูคลิปจำนวนมากอยู่ในประเทศรัสซียและประเทศในแถบยุโรป หรืออย่างในบางกรณียูทูปพบว่ามี IP เดิมๆ คลิกเข้ามาดูคลิปใดคลิปหนึ่งซ้ำๆ ทางยูทูปก็อาจให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หรืออย่างกรณีมีการที่นำมือถือหลายๆ เครื่องซึ่งใช้ซิมโทรศัพท์ที่ซื้อโดยชื่อคนคนเดียวมาปั่นยอดวิว หากยูทูปตรวจพบก็ถือว่าผิดเช่นกัน ซึ่งบทลงโทษถือว่าหนักมาก ดังนั้น คนทำคลิปหรือทำช่องยูทูปอย่าคิดว่าปั่นวิวแล้วยูทูป จะไม่รู้ เพราะถ้าตรวจเจอคุณจะหมดโอกาสในการหารายได้จากยูทูปอย่างแน่นอน” อาจารย์เสกสรร กล่าว

“ทน แฮะ” เจ้าของเพลง “เจอเสียวข้างถนน” แห่งค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตกรณียอดวิวที่พุงไปถึง 1 ล้านวิว หลังจากปล่อยเพลงออกมาได้แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ด้าน นายอำนวย ยูทูปเปอร์ชื่อดัง เจ้าของช่อง zystem ได้เคยพูดถึงเหตุผลที่ยูทูปซีเรียสกับกรณีการปั่นยอดวิวว่า เนื่องจากรายได้ของยูทูปมาจากโฆษณาที่ลงในช่องยูทูป และยอดวิวที่เกิดจากการปั่นเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของสินค้าที่ลงโฆษณา เพราะผู้ลงโฆษณาย่อมต้องการให้กลุ่มลูกค้าที่แท้จริงได้เห็นโฆษณา และการที่เขายอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อลงโฆษณาในคลิปที่มียอดวิวสูงๆ ก็เพราะต้องการให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก แต่ยอดวิวที่เกิดจากการปั่นไม่ได้สะท้อนจำนวนลูกค้าที่มีโอกาสเห็นโฆษณาอย่างแท้จริง

อีกกรณีที่ผู้คนให้ความสนใจก็คือกรณีที่เจนนี่ถูกฟ้องว่าละเมิดสิทธินักแสดงของ “เก้า-เกริกพล” ที่ร้องและแสดงใน MV เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ จะมีผลให้ยูทูปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่นั้น อาจารย์เสกสรร ชี้แจงว่า หลักของยูทูปคืออะไรที่ไม่ใช่ของเรา แต่เราเอามาใช้โดยเจ้าของไม่ยินยอม ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหากมีการรีพอร์ตหรือร้องไปยังยูทูป ยูทูปก็จะถามผู้ร้องว่าถูกละเมิดในลักษณะใด จากนั้นก็จะถามไปยังผู้ที่นำคลิปมาลงยูทูป ซึ่งผู้ที่ลงคลิปสามารถนำหลักฐานไปชี้แจงต่อยูทูปได้ หากยูทูปพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะให้คลิปนั้นคงอยู่ต่อไป แต่ถ้าพบว่าละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะดำเนินการลบคลิปทันที หรือในกรณีที่แจ้งไปยังผู้ลงคลิปแล้วไม่ติดต่อกลับมา ยูทูปก็จะทำการลบคลิปเช่นกัน นอกจากนั้น ยูทูปยังทำการระงับรายได้ของคลิปนั้นๆ อีกด้วย

“กรณีแบบนี้เจอบ่อย บางคนเป็นเพื่อนกัน ตอนทำคลิปให้เพื่อนมาแสดงโดยตกลงกันว่าถ้ายอดวิวเยอะ มีรายได้จากยูทูป จะแบ่งรายได้กัน แต่ด้วยความเป็นเพื่อนจึงไม่ได้ทำสัญญา พอลงคลิป มีรายได้จากยอดวิว คนลงคลิปก็ไม่ยอมแบ่ง เพื่อนที่ร่วมแสดงในคลิปเลยฟ้องลบคลิป ดังนั้น กรณีนี้ในเมื่อเก้ามีทั้งภาพและเสียงใน MV แต่ไม่ยินยอมให้นำภาพและเสียงของตนไปใช้ ก็สามารถแจ้งลบคลิปได้” อาจารย์เสกสรร ระบุ

ทนายเจมส์  นิติธร แก้วโต ทนายที่อาสาทำคดีให้ เก้า-เกริกพล
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีละเมิดสิทธินักแสดงของ “เก้า-เกริกพล” นั้น นายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” ชี้แจงว่า เนื่องจากการยื่นฟ้องเจนนี่ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ จากการละเมิดสิทธินักแสดงและนำไปแสวงหากำไร ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2563 ที่ผ่านมา ซึ่งศาลรับคำร้องไว้ไต่สวนในคดีหมายเลขดำ อ.716/2563 และกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 9 พ.ย. เวลา 13.30 น. พร้อมทั้งให้ปรับคำฟ้องให้ชัดเจนว่า เก้าในฐานะโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิงานประเภทใดบ้าง ซึ่งตนพบว่าเจนนี่ได้นำเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียวซึ่งมีเสียงร้องของเก้าไปหาประโยชน์เชิงธุรกิจโดยให้ค่ายมือถือ 3 ค่าย ประกอบด้วย ทรู ดีแทค และเอไอเอส นำไปทำริงโทน และให้ JOOK ซึ่งเป็นบริการสตรีมเพลงนำเพลงนี้ไปลง ดังนั้น ตนจึงเพิ่มการละเมิดลิขสิทธิ์ในกรณีดังกล่าวลงในคำฟ้องด้วย

ทนายเจมส์ กล่าวต่อว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในหมวดลิขสิทธิ์นักแสดง ตามมาตรา 45 ที่ระบุถึงการบันทึกและเผยแพร่ผลงานนักแสดงต้องได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม และเนื่องจากเจนนี่ไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนให้เก้าอย่างเป็นธรรมจึงถือว่าเป็นการละเมิดสิทธินักแสดงตามมาตรา 52 ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีอาญา โดยจะมีความผิดตามมาตรา 69 ซึ่งต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และเนื่องจากเป็นการกระทำความผิดเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1-8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเนื่องจากมีกรณีการละเมิดสิทธินักแสดงจากการที่เจนนี่นำเสียงร้องของเก้าไปให้ค่ายมือถือ 3 แห่ง ทำริงโทน และให้ JOOK เอาเพลงที่มีเสียงเก้าไปลง คดีทั้งหมดจึงนับเป็น 5 กรรม ส่วนศาลจะพิจารณาอัตราโทษของคดีทั้งหมดอย่างไรนั้นก็อยู่กับดุลพินิจของศาล

เก้าเกริกพล เพชรรัตน์ และ “เจนนี่” หรือ น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ เจ้าของค่ายได้หมเถ้าสดชื่น
โดย ทนายเจมส์ ระบุว่า ในการฟ้องครั้งนี้ตนในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ได้ร้องต่อศาลให้ดำเนินการใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1) ให้ลงโทษเจนนี่และบริษัทได้หมดถ้าสดชื่น ในความผิดตาม พ.ร.บ.ละเมิดลิขสิทธิ์ ในส่วนของการละเมิดสิทธิ์นักแสดง และ 2) ให้ศาลมีคำสั่งให้เจนนี่และบริษัทได้หมดถ้าสดชื่นลบชิ้นงานทั้งหมดที่มีเสียงและภาพของเก้าปรากฏอยู่ ซึ่งหากศาลติดสินว่าเจนนี่ละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดง ก็จะมีคำสั่งให้เจนนี่ต้องทำการลบคลิปเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ในยูทูป รวมถึงลบริงโทนเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ที่เจนนี่ให้ค่ายมือถือนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ และลบเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ที่ลงใน JOOK ด้วย

นอกจากนั้นตนจะประสานไปยังยูทูปเพื่อหารือถึงแนวทางการยื่นลบคลิปดังกล่าวออกจากช่องยูทูปอีกทางหนึ่งด้วย

“ต้องขอชี้แจงว่าการฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องเรื่องละเมิดสิทธินักแสดงเท่านั้น ยังไม่ได้ฟ้องเรียกส่วนแบ่งรายได้ ซึ่งข่าวที่ออกไปว่าฟ้องเรียก 3 ล้านนั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากเป็นคำถามต่อเนื่อง ซึ่งนักข่าวถามว่าถ้าเรียกส่วนแบ่งจะเรียกเท่าไหร่ ผมก็ตอบว่า 3 ล้าน พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงเป็น 3 ล้าน แต่เรายังไม่ได้มีการฟ้องในส่วนนี้ ซึ่งในใจของเก้าตอนนี้เขาอยากลบคลิปอย่างเดียวเลย ไม่อยากฟ้องเรียกส่วนแบ่งแล้ว แต่เราก็เผื่อช่องทางไว้ว่าถ้าจะเรียกส่วนแบ่งตามสิทธิก็ทำได้ ก็คงต้องมาคุยกันอีกที” ทนายเจมส์ ระบุ

ส่วนกรณีที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ออกมาชี้ว่าคดีการฟ้องร้องระหว่างเก้าและเจนนี่นั้นเจนนี่ชนะแน่ พร้อมทั้งแนะนำให้เก้าถอนฟ้องนั้น นายเจมส์ ชี้ว่า เป็นการกระทำที่ผิดมารยาททนาย และเป็นการสร้างความสับสน ดังนั้น ตนจึงร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีออกมาให้สัมภาษณ์ชี้นำสังคม ทั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสน

ส่วนว่าสุดท้ายแล้วคดีนี้จะจบลงอย่างไร ฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น