“รัฐบาลพลังประชารัฐ” หนึ่งในนักการเมืองซึ่งถูกกล่าวถึงและมีบทบาทในหน้าสื่อมาตลอดทั้งที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี และไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญใดๆ ก็คือ “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ฝีปากกล้าจากราชบุรี ซึ่งปัจจุบันมีคดี “รุกป่า 46 ไร่” และแชตไลน์หลุด ที่สังคมกังขา และตั้งคำถามว่ามีการช่วยเหลือกันหรือไม่ ทำไมคดีไม่คืบ?
หลายคนมองว่าปารีณา คือ “จุดอ่อน” ของรัฐบาล เพราะนอกจากคดีรุกป่าที่สร้างกระแสความไม่พอใจให้สังคมแล้ว เธอยังมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ที่ดูก้าวร้าว ไร้มารยาท มีแต่ข่าวฉาวและชอบสร้างวิวาทะชนิดที่เรียกว่าทะเลาะกับเขาไปทั่ว ขณะเดียวกันก็เกิดข้อสงสัยว่าปารีณาคือใคร ทำไมผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐจึงให้ความสำคัญ หรือทำไมไม่ห้ามปรามกันไม่ให้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่พรรค?
หากย้อนไปถึงภูมิหลัง ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะดึง น.ส.ปารีณา มาร่วมทีมเพื่อสู้ศึกในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ชาวราชบุรีต่างรู้ว่าตระกูลของปารีณาคือตระกูลการเมืองดังแห่งราชบุรี นอกจาก “นายทวี ไกรคุปต์” อดีต ส.ส.7 สมัย บิดาของปารีณา ที่เคยมีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาถึง 40 ปีแล้ว “นายสวัสดิ์ จังพาณิชย์” ลุงของปารีณา ก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเช่นกัน แต่ภายหลังทั้งสองครอบครัวเกิดทะเลาะกันจากปัญหาการชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองโพธาราม ที่นายทวีสนับสนุนผู้สมัครอีกคน ขณะที่นายสวัสดิ์ก็ลงชิงตำแหน่งนี้ด้วย
คุณสมบัติของปารีณาก็ดูน่าสนใจ เพราะมีดีกรีเป็น ส.ส.ถึง 3 สมัย โดยได้เป็น ส.ส.ราชบุรี ครั้งแรกในสังกัดพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2548 จากนั้นในการเลือกตั้งปี 2550 ได้ย้ายไปลงสมัครในนามพรรคชาติไทย ต่อมาเมื่อพรรคชาติไทยถูกยุบ และ ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับ ส.ส.จากชาติไทยโดยเฉพาะ ปารีณาก็ย้ายตามไปด้วย และได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 3 ในการเลือกตั้ง ปี 2554 ซึ่งการที่พรรคเกิดใหม่อย่างพลังประชารัฐจะสู้กับคู่แข่งซึ่งล้วนเป็นพรรคเก่าแก่ได้ก็ต้องอาศัยการดูด ส.ส.ที่มีฐานเสียงอยู่แล้วมาเข้าสังกัด
“ตอนนั้นคุณปารีณาก็เคว้งอยู่เหมือนกัน เพราะเขาอยากย้ายไปลงสมัครในนามประชาธิปัตย์ ไปออกตัวว่าเป็นแคนดิเดตผู้สมัครพรรคนี้แล้วด้วย แต่ด้วยความที่บุคลิกคุณปารีณาเป็นคนแรงและออกจะแปลกๆ เวลาโกรธนี่ไล่ยิงคนได้เลยนะ เคยทะเลาะกับคุณทวี คุณทวียังเข้าบ้านไม่ได้ ประชาธิปัตย์เลยไม่กล้ารับ พลังประชารัฐก็มาจีบ ลงทุนให้ทั้งหมดด้วย” แหล่งข่าววงในกล่าว
ส่วนบุคลิกความก้าวร้าวรุนแรงของปารีณานั้นน่าจะถูกหล่อหลอมมาจากอุปนิสัยของคนในครอบครัว เพราะเรื่องความ “แรง” ของครอบครัวนี้ล้วนเป็นที่กล่าวขานของคนโพธาราม ว่ากันว่าหลังจากที่นายทวีมีปัญหากับนายสวัสดิ์ซึ่งเป็นพี่ชาย สองครอบครัวนี้ก็ “ปะทะ” กันมาตลอด เคยตีกันภายในวัดซึ่งรุนแรงถึงขั้นที่ปารีณาถอดรองเท้าขว้างใส่หน้าลุงมาแล้ว และเรื่องนี้ได้มีการแจ้งความกันจนปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หัวสี เมื่อปี 2552
นอกจากนั้น ปารีณายังเป็นผู้ต้องหาในคดี “ครอบครองอาวุธสงคราม” (ปืนกลเล็ก, กระสุนเจาะเกราะ) หลังจากที่นายสัชญา สถิรพงษะสุทธิ ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาค้าอาวุธสงคราม เมื่อปี 2557 ให้การซัดทอด โดยคดีนี้ศาลได้ประทับรับฟ้อง และจะนัดสอบปากคำในวันที่ 27 ม.ค. 2563 นี้
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เมื่อมาเป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคใหญ่มากบารมีอย่างพลังประชารัฐ ปารีณาจะดาหน้าปะทะกับทุกคนเพื่อสร้างผลงานในฐานะองครักษ์พิทักษ์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เราจึงได้เห็นบทบาท “ปะฉะดะ” ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องอะไร หรือสถานการณ์ใดที่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล ปารีณาก็มักออกมาแสดงความเห็นตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน
เริ่มตั้งแต่เปิดประชุมสภา และมีการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ช่อ” ที่ขณะนั้นถูกจับตาว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรง ได้เสนอชื่อ ส.ส.หญิงจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ข้างฝ่ายรัฐบาลก็เสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันจนเกิดความวุ่นวายในสภา วันต่อมาปารีณาก็ไลฟ์สดถึง “อีช่อ” เรื่องมารยาทในการประชุมสภา แต่กระแสเกิดตีกลับ ปารีณาถูกวิจารณ์ยับถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้ถ้อยคำหยาบคายจิกเรียกชื่อคนอื่น ปารีณาจึงอ้างว่า “อีช่อ” เป็นภาษาถิ่นของราชบุรี หมายถึงคนที่ไม่มีมารยาท ไม่รักษากฎระเบียบ ทำให้ชาวราชบุรีต่างออกมาโต้ผ่านโซเชียลฯ ว่าจังหวัดราชบุรีไม่มีคำนี้
ตามด้วยกรณีที่ปารีณาโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึง นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา ซึ่งใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหลังอ่านคำพิพากษาาและเผยแพร่แถลงการณ์ที่ระบุว่า “คดีนี้เขาพิจารณาแล้วเห็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่อธิบดีผู้พิพากษาฯ มีคำสั่งให้แก้คำพิพากษาเป็นประหารชีวิตจำเลย 3 คน ส่วนอีก 2 คนให้จำคุก ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อกระบวนการยุติธรรมในยุครัฐบาลบิ๊กตู่ โดยปารีณาได้โพสต์ข้อความในลักษณะกล่าวหาว่านายคณากรใช้กระสุนปลอม จัดฉากเพื่อโจมตีตุลาการ แต่ต่อมาแพทย์ผู้รักษาออกมายืนยันว่านายคณากรใช้กระสุนจริง แม้กรณีนี้ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่ได้ออกมาตอบโต้ แต่ปารีณาก็มีคู่วิวาทะอีกคนคือ “ต้อม” ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ที่ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว แสดงความไม่พอใจที่ปารีณาโพสต์กล่าวหานายคณากร
เริ่มตั้งแต่เปิดประชุมสภา และมีการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ช่อ” ที่ขณะนั้นถูกจับตาว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรง ได้เสนอชื่อ ส.ส.หญิงจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ข้างฝ่ายรัฐบาลก็เสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันจนเกิดความวุ่นวายในสภา วันต่อมาปารีณาก็ไลฟ์สดถึง “อีช่อ” เรื่องมารยาทในการประชุมสภา แต่กระแสเกิดตีกลับ ปารีณาถูกวิจารณ์ยับถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้ถ้อยคำหยาบคายจิกเรียกชื่อคนอื่น ปารีณาจึงอ้างว่า “อีช่อ” เป็นภาษาถิ่นของราชบุรี หมายถึงคนที่ไม่มีมารยาท ไม่รักษากฎระเบียบ ทำให้ชาวราชบุรีต่างออกมาโต้ผ่านโซเชียลฯ ว่าจังหวัดราชบุรีไม่มีคำนี้
ตามด้วยกรณีที่ปารีณาโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึง นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา ซึ่งใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหลังอ่านคำพิพากษาาและเผยแพร่แถลงการณ์ที่ระบุว่า “คดีนี้เขาพิจารณาแล้วเห็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่อธิบดีผู้พิพากษาฯ มีคำสั่งให้แก้คำพิพากษาเป็นประหารชีวิตจำเลย 3 คน ส่วนอีก 2 คนให้จำคุก ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อกระบวนการยุติธรรมในยุครัฐบาลบิ๊กตู่ โดยปารีณาได้โพสต์ข้อความในลักษณะกล่าวหาว่านายคณากรใช้กระสุนปลอม จัดฉากเพื่อโจมตีตุลาการ แต่ต่อมาแพทย์ผู้รักษาออกมายืนยันว่านายคณากรใช้กระสุนจริง แม้กรณีนี้ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่ได้ออกมาตอบโต้ แต่ปารีณาก็มีคู่วิวาทะอีกคนคือ “ต้อม” ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ที่ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว แสดงความไม่พอใจที่ปารีณาโพสต์กล่าวหานายคณากร
สำหรับ ต้อม-ยุทธเลิศ นั้นถือว่าไม่ใช่คู่ปรับคนใหม่ของปารีณา เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันปารีณาได้แจ้งจับยุทธเลิศในข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ยุทธเลิศทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัววิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรียก รศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ บิดาของ “นายจอห์น” วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรดังไปชี้แจง กรณีที่โพสต์ถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า รับคำร้องวินิจฉัยเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.32 คน จากฝั่งรัฐบาล แต่กลับไม่ออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งแม้ความพยายามของปารีณาจะไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นที่คนไทยมีต่อกระบวนการยุติธรรมในยุครัฐบาลบิ๊กตู่กลับมาได้ แต่ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่องครักษ์อย่างเต็มที่แล้ว
คู่ปรับ “นายกฯ ตู่” อีกคนที่ปารีณาจัดหนักจัดเต็มก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามจี้ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องปมถวายสัตย์ฯ อย่างไม่ลดละ งานนี้หลังจากที่ปารีณาสามารถเข้าไปเป็น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความเหมาะสมในคุณสมบัติ เนื่องจากมีคดีรุกป่าติดตัว เอ๋ก็แท็กทีมกับ สิระ เจนจาคะ กมธ.จากพรรคเดียวกัน เรียกร้องให้ กมธ.บรรจุเรื่องการตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งนำไปสู่การโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ป่วนไปทั้งกรรมาธิการฯ
สำหรับ ต้อม-ยุทธเลิศ นั้นถือว่าไม่ใช่คู่ปรับคนใหม่ของปารีณา เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันปารีณาได้แจ้งจับยุทธเลิศในข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ยุทธเลิศทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัววิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรียก รศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ บิดาของ “นายจอห์น” วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรดังไปชี้แจง กรณีที่โพสต์ถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า รับคำร้องวินิจฉัยเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.32 คน จากฝั่งรัฐบาล แต่กลับไม่ออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งแม้ความพยายามของปารีณาจะไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นที่คนไทยมีต่อกระบวนการยุติธรรมในยุครัฐบาลบิ๊กตู่กลับมาได้ แต่ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่องครักษ์อย่างเต็มที่แล้ว
คู่ปรับ “นายกฯ ตู่” อีกคนที่ปารีณาจัดหนักจัดเต็มก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามจี้ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องปมถวายสัตย์ฯ อย่างไม่ลดละ งานนี้หลังจากที่ปารีณาสามารถเข้าไปเป็น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความเหมาะสมในคุณสมบัติ เนื่องจากมีคดีรุกป่าติดตัว เอ๋ก็แท็กทีมกับ สิระ เจนจาคะ กมธ.จากพรรคเดียวกัน เรียกร้องให้ กมธ.บรรจุเรื่องการตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งนำไปสู่การโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ป่วนไปทั้งกรรมาธิการฯ
สำหรับ ต้อม-ยุทธเลิศ นั้นถือว่าไม่ใช่คู่ปรับคนใหม่ของปารีณา เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันปารีณาได้แจ้งจับยุทธเลิศในข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ยุทธเลิศทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัววิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรียก รศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ บิดาของ “นายจอห์น” วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรดังไปชี้แจง กรณีที่โพสต์ถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า รับคำร้องวินิจฉัยเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.32 คน จากฝั่งรัฐบาล แต่กลับไม่ออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งแม้ความพยายามของปารีณาจะไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นที่คนไทยมีต่อกระบวนการยุติธรรมในยุครัฐบาลบิ๊กตู่กลับมาได้ แต่ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่องครักษ์อย่างเต็มที่แล้ว
คู่ปรับ “นายกฯ ตู่” อีกคนที่ปารีณาจัดหนักจัดเต็มก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามจี้ พล.อ.ประยุทธ์เรื่องปมถวายสัตย์ฯ อย่างไม่ลดละ งานนี้หลังจากที่ปารีณาสามารถเข้าไปเป็น กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างหนักเรื่องความเหมาะสมในคุณสมบัติ เนื่องจากมีคดีรุกป่าติดตัว เอ๋ก็แท็กทีมกับ สิระ เจนจาคะ กมธ.จากพรรคเดียวกัน เรียกร้องให้ กมธ.บรรจุเรื่องการตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งนำไปสู่การโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ป่วนไปทั้งกรรมาธิการฯ
ทั้งนี้ แม้ว่าบทบาท “องครักษ์พิทักษ์บิ๊กตู่” ของปารีณาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาจะไม่สามารถช่วยเรียกคะแนนนิยมที่กำลังดิ่งเหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้กระเตื้องขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย
“ขณะที่กระแสสังคมมองว่าแต่ละอย่างที่คุณเอ๋ทำ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดูแย่ แต่ในมุมของผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะมองว่าสังคมไปโฟกัสที่คุณเอ๋ก็ดี เพราะโครงการต่างๆ ที่มีปัญหาก็จะถูกลืมไป แล้วก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยเพราะคุณเอ๋แกเป็นคนแปลกๆ ผีเข้าผีออก บางวันเจอกันในสภาก็ยิ้มแย้มทักทายดี บางวันก็ไม่คุยกับใครเลย ล่าสุดรู้สึกผู้ใหญ่จะสั่งให้หยุดพูด” แหล่งข่าวในรัฐบาลกล่าว
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่สังคมจับตาอย่างคดีบุกรุกป่า และครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ของปารีณานั้น วงในพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รอดยาก” เพราะพรรคถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะพยายาม “ดูแล” ทุกก๊วนทุกคนในพลังประชารัฐ ก็ยังต้องปล่อยมือ ดังที่ปรากฏในแชตไลน์ที่ปารีณาต่อว่าต่อขาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่าไม่ยอมช่วย อย่างไรก็ดี งานนี้คงไม่ถึงขั้น “ติดคุก” เพราะนั่นเท่ากับว่าพลังประชารัฐจะหายไป 1 เสียง และการเลือกตั้งซ่อมในสถานการณ์ “ขาลง” เช่นนี้คงไม่ส่งผลดีต่อพลังประชารัฐ!!
ทั้งนี้ แม้ว่าบทบาท “องครักษ์พิทักษ์บิ๊กตู่” ของปารีณาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาจะไม่สามารถช่วยเรียกคะแนนนิยมที่กำลังดิ่งเหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้กระเตื้องขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย
“ขณะที่กระแสสังคมมองว่าแต่ละอย่างที่คุณเอ๋ทำ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดูแย่ แต่ในมุมของผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะมองว่าสังคมไปโฟกัสที่คุณเอ๋ก็ดี เพราะโครงการต่างๆ ที่มีปัญหาก็จะถูกลืมไป แล้วก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยเพราะคุณเอ๋แกเป็นคนแปลกๆ ผีเข้าผีออก บางวันเจอกันในสภาก็ยิ้มแย้มทักทายดี บางวันก็ไม่คุยกับใครเลย ล่าสุดรู้สึกผู้ใหญ่จะสั่งให้หยุดพูด” แหล่งข่าวในรัฐบาลกล่าว
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่สังคมจับตาอย่างคดีบุกรุกป่า และครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ของปารีณานั้น วงในพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รอดยาก” เพราะพรรคถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะพยายาม “ดูแล” ทุกก๊วนทุกคนในพลังประชารัฐ ก็ยังต้องปล่อยมือ ดังที่ปรากฏในแชตไลน์ที่ปารีณาต่อว่าต่อขาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่าไม่ยอมช่วย อย่างไรก็ดี งานนี้คงไม่ถึงขั้น “ติดคุก” เพราะนั่นเท่ากับว่าพลังประชารัฐจะหายไป 1 เสียง และการเลือกตั้งซ่อมในสถานการณ์ “ขาลง” เช่นนี้คงไม่ส่งผลดีต่อพลังประชารัฐ!!
ทั้งนี้ แม้ว่าบทบาท “องครักษ์พิทักษ์บิ๊กตู่” ของปารีณาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาจะไม่สามารถช่วยเรียกคะแนนนิยมที่กำลังดิ่งเหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้กระเตื้องขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย
“ขณะที่กระแสสังคมมองว่าแต่ละอย่างที่คุณเอ๋ทำ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดูแย่ แต่ในมุมของผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะมองว่าสังคมไปโฟกัสที่คุณเอ๋ก็ดี เพราะโครงการต่างๆ ที่มีปัญหาก็จะถูกลืมไป แล้วก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยเพราะคุณเอ๋แกเป็นคนแปลกๆ ผีเข้าผีออก บางวันเจอกันในสภาก็ยิ้มแย้มทักทายดี บางวันก็ไม่คุยกับใครเลย ล่าสุดรู้สึกผู้ใหญ่จะสั่งให้หยุดพูด” แหล่งข่าวในรัฐบาลกล่าว
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่สังคมจับตาอย่างคดีบุกรุกป่า และครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ของปารีณานั้น วงในพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รอดยาก” เพราะพรรคถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะพยายาม “ดูแล” ทุกก๊วนทุกคนในพลังประชารัฐ ก็ยังต้องปล่อยมือ ดังที่ปรากฏในแชตไลน์ที่ปารีณาต่อว่าต่อขาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่าไม่ยอมช่วย อย่างไรก็ดี งานนี้คงไม่ถึงขั้น “ติดคุก” เพราะนั่นเท่ากับว่าพลังประชารัฐจะหายไป 1 เสียง และการเลือกตั้งซ่อมในสถานการณ์ “ขาลง” เช่นนี้คงไม่ส่งผลดีต่อพลังประชารัฐ!!