รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 21 มกราคม 2563 ตอน ดีลลับเพื่อไทยสะเทือน ผลัก"บิ๊กป้อม"ตำบลกระสุนตก
กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่ก่อนจะเดินหน้าปิดบัญชี ได้ชื่อคนที่จะโดนซักฟอกอย่างถูกตัวถูกใจคนดู ก็มีข่าวถูกเปิดเผยว่ามีรายการเหยียบเท้ากัน รู้กันระหว่างคนจากฝ่ายค้านกับบางคนในรัฐบาลที่จะถูกตรวจสอบในครั้งนี้
ทำให้การยื่นญัตติซักฟอกถูกเลื่อนออกไป เป็นวันที่29 เดือนนี้แทน เพราะมาจากปัญหาดีลลับถูกแฉออกมาเป็นเรื่องไม่ลับไปเสียแล้ว
เหตุที่กระแสข่าวดีลลับระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพื่อตัดชื่อรัฐมนตรีบางรายออกจากญัตติไม่ไว้วางใจ ที่แพร่สะพัดออกมาอย่างต่อเนื่อง คนเชื่อว่ามีน้ำหนักฟังขึ้น ก็มาจากความไม่ชัดเจน และโฉ่งฉ่างของฝ่ายค้านเอง
ข่าวดีลลับยังสะท้อนความขัดแย้ง ความไร้เอกภาพภายในพรรคเพื่อไทยอีกด้วย ซึ่งว่ากันตามความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ก็มีรายการงัดข้อภายในพรรคเพื่อไทยอยู่จริง เป็นรายการใหญ่ขนาดล้มช้างเสียด้วย
บอกได้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ในพรรคเพื่อไทยอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ถูกคนมีอำนาจส่วนบนอย่างเจ๊ปู/เจ๊ด. เล่นเกมในพรรค พยายามบีบเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค อย่างหนัก แบบที่จะไม่ให้เจ๊หน่อยมีที่ยืนในเพื่อไทยอีกต่อไป
สองเจ๊ทำทุกวิถีทางไล่ขย่มเจ๊กน่อยทุกเรื่อง เช่นการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่จ. ขอนแก่น ซึ่งเจ๊หน่อยทุ่มเทตัวเองไปเป็นแม่ทัพสู้กับฝ่ายรัฐบาล เมื่อแพ้กลับมาแทนที่จะได้รับการปลอบใจแต่ก็ถูกซ้ำเติม
มูลเหตุปัญหาแพ้ที่ขอนแก่น ไม่ใช่เพียงการสู้กับอำนาจฝ่ายพรรคพลังประชารัฐอย่างเดียว แต่แพ้เพราะความชิงดีชิงเด่นกันภายในพรรคด้วย
เช่น มีการขัดขากันตั้งแต่การคัดเลือกตัวคนสมัครของเพื่อไทย พอชื่ออกมาก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ตั้งแต่ในมุ้งแล้ว แต่ก็ต้องยอมเอาเพราะเป็นคนในสังกัดสองเจ๊ ขนาดนักการเมืองจอมเก๋ายังไม่เคยไปช่วยหาเสียงสักวัน เพราะบอกว่ารู้ว่าแพ้แน่แล้วไปเหนื่อยทำไม
ส่วนคนที่เจ๊หน่อยอยากใช้บริการคือ นาย อดิสร เพียงเกตุ อดีตส. ส. ชื่อดัง ถูกตีตกไป เมื่อแพ้ศึกกลับมา ก็เป็นจังหวะโยนผิดให้เจ๊หน่อยรับผิดชอบไปคนเดียว เพื่อหวังให้อับอายและพิจารณาตนเอง
มาถึงศึกซักฟอก เมื่อมีการดึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้ามามีบทบาทเป็นกุนซืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา ร.ต.อ.เฉลิม อาศัยความเก๋าเกมทางการเมือง เข้าจัดการกำกับทิศทางศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยประกาศล็อคเป้า 5 รัฐมนตรี รวม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดประเด็นเสร็จสรรพ
แบบที่ ในอดีตไม่เคยมีฝ่ายค้านที่ไหนมากางข้อสอบให้ดูกันอย่างนี้
ต้องไม่ลืมว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิม กลับมามีที่ยืนมีอำนาจในพรรค ในการซักฟอกครั้งนี้ก็มาจากบัญชาจาก “คนแดนไกล” ที่ใครก็รู้ดีว่า ไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมติดตามความเคลื่อนไหววิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกแง่ทุกมุม ทุกเวลา
มีหรือที่คนแดนไกลจะอ่านหมากตื้นๆที่เกิดขึ้นในรอบนี้ไม่ออก
จนน่าสนใจว่า หลังข่าวดีลลับที่ลือกันออกมาระหว่างเพื่อไทย กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกเขียนชื่อไว้ในบัญชีซักฟอกตั้งแต่หัววัน รวมทั้งดีลลับระหว่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กับผู้นำระดับสูงของพรรคเพื่อไทย
ที่ให้ตัดชื่อ พล.อ.ประวตร และนายศักดิ์สยาม ออกจากญัตติไม่ไว้วางใจ ที่ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย กลับยังไม่มีสัญญาณใดๆจาก “คนแดนไกล” มากระตุกให้เข้ารูปเข้ารอย
มองให้ลึกไปอีกชั้น “คนแดนไกล” อาจปล่อยให้กระแสข่าวถูกกระพือไปเรื่อยๆ เพื่อหวังผลบางประการ เพราะรู้ดีที่สุดว่า การเสนอญัตติไม่ไว้วางใจ หรือการตัดสินใจว่าจะอภิปรายใครบ้างในส่วนขอฃพรรคเพื่อไทย ก็ต้องได้รับไฟเขียวจาก “คนแดนไกล” อยู่ดี
บัญชีเพื่อไทยกับดีลลับ นอกเหนือจากสะท้อนความไม่มีเอกภาพในพรรคเพื่อไทย ที่ “คนแดนไกล” ย่อมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้พรรคเพื่อไทยสองด้าน คือภายในเกิดความแตกแยก และเกิดภาพติดลบกับภายนอก
ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ พล.อ.ประวิตร กลายเป็นเป้าทางการเมือง ที่แม้จะมีหรือไม่มีชื่อในญัตติไม่ไวางใจ ก็คงไม่ต่างมากนัก เพราะพลันที่กระแสข่าวดีลลับออกมา เหมือนผลักให้ พี่ใหญ่รัฐบาล ที่ระยะหลังลดบทบาทหน้าฉากไปพอสมควร ให้ออกไปยืนกลางสปอตไลท์อีกครั้ง
โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายต่างๆนานา ถูกขุดคุ้ยเรื่องเก่าเก็บมาโจมตี ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเริ่มเสียอีก เปรียบเทียบกับ 5 รัฐมนตรี ที่ ร.ต.อ.เฉลิม โหมโรงไว้ ที่แทบไม่ถูกพูดถึงเลย
คงพอสรุปได้ว่า ข่าวดีบลับ รายการเหยียบเท้ากัน เป็นหมากที่ย้อนกลับมาทำร้ายคนของพรรคเพื่อไทยเอง แล้วยังผลัก พล.อ.ประวิตร ให้กลับมาเป็น ตำบลกระสุนตกอีกครั้ง.