xs
xsm
sm
md
lg

“ชินวัตร-เพื่อไทย” ตราช้างเรียกพี่ จับตาโดนคดีทุจริตข้าวอีกกระทงยังดื้อแพ่งเลือกตั้ง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพ : Facebook นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพื่อไทยไม่สนศาล รธน. มีผลให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลุดเก้าอี้นายกฯ พลิกเกมเร็วตั้ง “นิวัฒน์ธำรง” คนบริษัทชินวัตร เสียบนายกฯ รักษาการ ขณะที่พรรคออกแถลงการณ์ยืนยันทฤษฎีสมคบคิด ฝ่าย ส.ส.-นปช. วุ่นระดมมวลชน ให้แน่นถนนอักษะวันที่ 10 พฤษภานี้ เผยต้องการแค่ภาพ ประคองสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงตามคำสั่งทักษิณ เพื่อบล็อกทหารไม่ให้ปฏิวัติ มั่นใจ กปปส. ไปไม่รอด เพราะทหารเฉย เชื่อ “เลือกตั้ง” นำไปสู่ชัยชนะพรรคเพื่อไทย ด้าน ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก แนะจับตาคำตัดสิน ป.ป.ช. คดีทุจริตจำนำข้าว !

ต้องบันทึกไว้ว่า วันที่ 7 พฤษภาคม 2557 เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ที่คนทั่วประเทศให้ความสนใจและรอฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่เป็นธรรมว่าจะเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีรักษาการ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรักษาการหรือไม่ และคณะรัฐมนตรีจะหลุดไปด้วยหรือไม่

คำวินิจฉัยอย่างเป็นเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถที่จะอ้างอยู่รักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรอจนกว่าจะมีนายกฯ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ตามมาตรา 181 ได้อีกต่อไป เหตุเพราะฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำได้ ทำให้ผิดมาตรา 182 วรรค 1(7) เป็นเหตุให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันที เหตุความเป็นนายกฯ สิ้นสุดเฉพาะตัว และคณะรัฐมนตรีที่มีมติโยกย้ายนายถวิลอีก 9 คนก็ถือเป็นผู้กระทำความผิดเหมือนนางสาวยิ่งลักษณ์ทุกประการ แม้จะเป็นการกระทำผิดโดยทางอ้อม เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดเฉพาะตัวเช่นกัน ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล, นายสันติ พร้อมพัฒน์, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก, นายปลอดประสพ สุรัสวดี และ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์

วันนี้จึงเป็นอีกวันที่คนตระกูล “ชินวัตร” ถูกตัดสินว่ากระทำผิดกฎหมายอีกครั้ง (อีกแล้ว)

โดยหลักฐานก็มีความชัดเจนที่การแต่งตั้งโยกย้ายนั้นกระทำอย่างเร่งด่วนคือทำในวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ซึ่งภายหลังยังปรากฏพบมีการแก้เอกสาร ทำเอกสารเท็จเพื่อให้เปลี่ยนวันที่เป็นวันที่ 5 กันยายนแทน นอกจากนี้ ยังมีส่วนโยงใยไปถึงการเข้ามาได้ประโยชน์ส่วนตนของคนตระกูลชินวัตร ที่เป็นการโยกย้ายนายถวิล เพื่อเปิดช่องให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ณ ป้อมเพ็ชร (ชินวัตร) นายหญิงพรรคเพื่อไทย ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.)

เป็นทั้งการโยกย้ายไม่เป็นธรรม และโยกย้ายอย่างผิดกฎหมาย

เป็นผลประโยชน์ส่วนตนที่ขัดกับผลประโยชน์ส่วนรวมที่ชัดยิ่งกว่าชัด

อย่างไรก็ดี เกมการเมืองต่อจากนี้ไป คือต้องจับตาดูว่า พรรคเพื่อไทย นางสาวยิ่งลักษณ์ รวมทั้งตัวการใหญ่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาตลอดจะออกมาพูดอย่างไร และจะแก้เกมอย่างไร ในเมื่อจำนนด้วยหลักฐานที่ชัดขนาดนี้

ดูท่าความได้เปรียบจะเข้าทาง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่พลิกขึ้นมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ จากกระแสสังคมที่รับไม่ได้กับการกระทำผิดกฎหมายของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์มากขึ้น

นายกฯ คนกลางเจอทางตัน

อย่าลืมว่าการเมืองไทยตอนนี้ต้องจบลงแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ เพื่อไทยชนะ หรือ กปปส. ชนะ เพราะก่อนหน้านี้มีคนเคยเสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองมากมาย แต่ทุกคนมีเส้นทางที่ตีบตัน และต้องยกเลิกความคิดไปทั้งหมด

เริ่มตั้งแต่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่เสนอตัวเป็นคนกลางเดินหน้าปฏิรูปประเทศเมื่อกันยายน 2556 ก็แห้ว ตามด้วยสภามหาวิทยาลัย 18 สถาบันก็ไม่มีผล ต่อด้วยภาคเอกชน 7 องค์กรที่น่าจะเป็นตัวกลางให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การเจรจาที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ต่างฝ่ายต่างต้องการให้ภาคเอกชนมีมติที่เป็นไปตามฝ่ายที่ตนเองต้องการ มาถึงคณะรัฐบุรุษ นำโดย พลเอก สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่สะดุดทันทีที่มีแนวคิดให้รัฐบุรุษไปขอพระบรมราชโองการฯ เพราะพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ไม่เล่นด้วย มาถึงโรดแมปของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูเหมือนจะดีกับทุกฝ่าย แต่สุดท้ายก็เป็นโรดแมปที่แค่แสดงตัวแค่ภาพการเป็นผู้นำปฏิรูปไม่ให้ตกขบวนปฏิรูปของนายอภิสิทธิ์เท่านั้น

แห้วทุกข้อเสนอ และยิ่งชัดว่าฝ่ายรัฐบาล และ กปปส. ไม่สนใจ “เจรจา” ผ่านคนกลางใดๆ ทั้งสิ้น

เกมการเมืองจึงต้องจบลงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระหว่างรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ และ กปปส. เท่านั้น ใครจะชนะ! และต้องจบด้วยกระบวนการยุติธรรมที่คนในประเทศถือว่ายอมรับได้มากที่สุด

เมื่อวันนี้ กปปส. เป็นฝ่ายได้เปรียบ ฝ่ายพรรคเพื่อไทยจะต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ ดิ้นหนีเอาตัวรอดให้เร็วที่สุด แต่จะหนีอย่างไร?

เพื่อไทยพลิกเกมตั้ง “นิวัฒน์ธำรง” ไม่สนเสียหมากชินวัตร

เริ่มต้นจาก ครม. นัดพิเศษ แต่งตั้ง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี แทบไม่กี่ชั่วโมงหลังการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

พร้อมทั้งประกาศเดินหน้าจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยจะมีการนัดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หารือร่วมกันในวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นให้ได้ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2557

รับลูกด้วยการแถลงข่าวของ กรรมการบริหารและคณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย นำโดยนายโภคิน พลกุล นายภูมิธรรม เวชยชัย เสนอความคิดเห็น 8 ข้อ ได้แก่

1. พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ถึงพี่น้องประชาชนและทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องว่า ประเทศจะเดินหน้าไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ และจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เป็นอยู่ไม่ให้บานปลายจนเกิดกลียุคได้ก็ด้วยการเลือกตั้งและการตั้งอยู่บนความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติของทุกฝ่าย และทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

2. พรรคเพื่อไทยได้ย้ำและชี้ให้เห็นมาโดยตลอดว่ามีขบวนการสมคบคิดกันเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ล้มล้างการเลือกตั้ง มุ่งทำลายล้างฝ่ายประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยความร่วมมือของพรรคการเมืองบางพรรค กปปส. และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ด้วยการไม่ยอมรับการเลือกตั้ง การเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง การกลั่นแกล้งรัฐบาลที่ยึดหลักประชาธิปไตยตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ด้วยการยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคทุกคนเป็นเวลา 5 ปี จนถึงการใช้ทุกกระบวนการเพื่อทำลายนายกรัฐมนตรีตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่สุจริต

3. พรรคเพื่อไทยขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า พรรคอาสาเข้ามารับใช้ประชาชนด้วยจิตสำนึกที่เคารพในอำนาจของประชาชน ด้วยการนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนมีความผาสุก มุ่งมั่นทำงานทุกอย่างให้เป็นไปตามนโยบาย แม้จะถูกขัดขวางและใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอดโดยขบวนการสมคบคิดดังกล่าว พรรคเชื่อมั่นในวิจารณญาณของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนบนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ความเที่ยงธรรมและความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน

4. พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า ตราบใดที่ขบวนการสมคบคิดยังดำเนินต่อไป จะมีการละเมิดหลักการประชาธิปไตยและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างไม่จบสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรัฐประหารในรูปแบบใหม่เพื่อสร้างระบอบการปกครองใหม่ที่ทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะเห็นประเทศก้าวหน้าไปบนวิถีทางประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม พี่น้องประชาชนจะได้เห็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ กปปส. และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ที่จะไม่ให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค. 57 และให้มีนายกฯ และคณะรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

5. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการใช้อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญก็ดี ป.ป.ช. ก็ดี ที่กระทำต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล้วนเป็นไปด้วยความเร่งรัด เร่งรีบ ผิดปกติ ไม่ให้โอกาสอ้างอิงพยานและรับฟังคำพยานได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น และบ่อยครั้งสอดคล้องกับการแถลงของ กปปส. และฝ่ายที่ต้องการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้และที่ผ่านมาได้วางบรรทัดฐานนอกเหนือจากตัวบทกฎหมายและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง จนทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ก็ไม่เป็นไปตามมาตรา 181 ที่บัญญัติว่าคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ตามมาตรา 180 ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ นั่นคือถ้ายังมีสภาผู้แทนราษฎรอยู่ก็ไปเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่แล้วมีคณะรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องไปเลือกตั้งจนได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป

6. พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความถูกต้องเที่ยงธรรมทั้งหลาย ร่วมกันต่อต้านขบวนการสมคบคิดดังกล่าวโดยใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม การร้องเรียน แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีและการต่อต้านโดยสันติวิธีทุกรูปแบบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 เพื่อมิให้การดำเนินการของขบวนการสมคบคิดบรรลุผล

7. พรรคเพื่อไทยขอให้อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคทุกคน ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และความมุ่งหมายของขบวนการสมคบคิดที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตย และร่วมมือกับพี่น้องประชาชนเพื่อต่อต้านขบวนการดังกล่าวอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสันติสุขของสังคมต่อไป

8. พรรคเพื่อไทยขอย้ำอีกครั้งว่า กกต. และรัฐบาลต้องเร่งรัดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 20 ก.ค. 57 และขอให้ทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่ายร่วมมือกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยสุจริต เพื่อเป็นทางออกของความขัดแย้ง ดังที่ปฏิบัติกันในนานาประเทศและประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมา

เดินหน้าเต็มพิกัดสู่การเลือกตั้งซึ่งเป็นเป้าหมายหลักตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
หลักฐานสำคัญคดีโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ ภาพ : Facebook ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน
ส.ส.-นปช. วุ่นระดมมวลชน

แน่นอนว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยวุ่นวายที่สุด

วุ่นวายที่จะเตรียมการขั้นต่อไป คือการระดมมวลชนให้ได้มากที่สุด

เวลานี้พลพรรค ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง นปช. กลุ่มต่างๆ จึงต่างเช็กกำลังกันให้วุ่น เตรียมระดมมวลชนครั้งใหญ่ ให้มวลชนมาให้ได้มากที่สุดในการชุมนุมวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ที่ถนนอักษะ

โดยขณะนี้คนในพรรคเพื่อไทย แม้ฉากหน้าจะมีการประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล แต่ลึกๆ แล้ว คนในพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการตีความคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้เป็นบวกกับกลุ่มตนเอง

“ศาลตัดสินอย่างนี้ ไม่ได้มีข้อเสียกับพรรคเพื่อไทยเลย รัฐบาลไม่ได้สูญเสียอะไร มองว่าแรงกดดันกลับไปที่นายสุเทพ กปปส. ทางเราไม่กดดัน และดีสำหรับนายกฯปู และตระกูลชินวัตร เพราะต่อไปนายสุเทพจะด่าใคร จะด่านิวัฒน์ธำรง คุณนิวัฒน์ธำรงก็ยิ้มอย่างเดียว” แหล่งข่าวแกนนำ นปช. ภาคอีสาน กล่าว

โดยการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ชัดเจนว่าจะทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์พ้นจากการเป็นจำเลยสังคม และได้ไปพักผ่อนหลังจากที่เจอศึกหนักมานาน ขณะที่รัฐบาลไม่ได้มีความเสียหายอะไร เพราะคำตัดสินของศาลยังเอื้อช่องให้หาคนมาแทนได้

ที่สำคัญ นางสาวยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีอีก 9 คน ยังลงสมัครรับเลือกตั้งได้ หากมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก กล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ไม่ได้ตัดสิทธิทางการเมืองของนางสาวยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีทั้ง 9 คน ทำให้ยังสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ได้เลย

“ผมคิดว่าคุณยิ่งลักษณ์รู้อยู่แล้วในประเด็นนี้นะ ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกมาพูดวันนี้ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมืองไว้ก่อน เพราะถ้ารอให้ถึงการชี้มูลของ ป.ป.ช. ในวันที่ 8 พฤษภาคม แล้วค่อยพูด คุณยิ่งลักษณ์อาจจะเสียหายไป”

ตอนนี้พลพรรคเพื่อไทยจึงมั่นใจว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสัญญาณที่ดีต่อพรรคเพื่อไทย

ดังนั้น สิ่งที่จะทำในต่อไปนี้ คือภาพของมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล

วันที่ 10 พฤษภาคม ที่จะมีการชุมนุมที่ถนนอักษะ จะมีการระดมมวลชนไปให้ได้มากที่สุด โดยทั้งจาก นปช.กลุ่มต่างๆ และมวลชนของ ส.ส.

“ของกลุ่มผมนี้ เตรียม 10 ล้อไว้ 2 คัน รวมๆ ภาคอีสานพากันไป 10-20 คันก็พอ รวมแล้วคาดว่าจะมีมวลชนอย่างน้อย 1 แสนคน” แหล่งข่าวแกนนำ นปช. กล่าว

การไปครั้งนี้เพื่อไปแสดงภาพมวลชนเท่านั้น

“เราต้องการแค่ภาพมวลชนที่สนับสนุนประชาธิปไตย แต่ไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือเกิดแรงปะทะขึ้นมาเด็ดขาด เพราะไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง”

อย่างไรก็ตาม คนของพรรคเพื่อไทยก็ยังรักษาการนายกฯ ต่อไป เป้าหมายก็คือนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้

นั่นคือเป้าหมายที่เป็นชัยชนะของพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เชื่อแน่แล้วว่า วันนี้ “การเลือกตั้ง” เป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุด!

มอง กปปส. ไปไม่รอด-ทหารเฉย

ดังนั้นเรื่องหนักอกจึงไปอยู่ที่ กปปส. เพราะทหารวางเฉย

“ที่อุบล มีข่าวว่าภรรยาของคุณอิสสระ สมชัย เอาโฉนดมาประเมินราคาที่ดิน เตรียมหาทางประกันตัวคุณอิสสระแล้ว คิดว่าตอนนี้การเลือกตั้งน่าจะไม่ยาก แล้วทาง กปปส. เองก็คงเริ่มหาทางลง”

เมื่อมองว่า กปปส. เองก็หาทางลงแล้ว

แผนเดิมตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งไว้ คือประคองสถานการณ์ ไม่ให้เกิดความรุนแรง บล็อกทหารทุกทางไม่ให้สามารถประกาศกฎอัยการศึก และทำรัฐประหารได้ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องยึดไว้

“เราไม่จำเป็นต้องรุนแรงเลย และต้องระวังอย่างมากที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรง”

เลือกตั้งคือทางออกสุดท้ายที่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงคิดว่าจะนำไปสู่ชัยชนะ!

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยอาจจะลืม ลืมว่ามีดาบ 2 ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) ที่จะดับฝันยิ่งลักษณ์

“ยิ่งลักษณ์” ฝันค้าง โอกาสติดคุกยังมี

ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า หากวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการตัดสินโดยชี้มูลความผิดนางสาวยิ่งลักษณ์คดีทุจริตจำนำข้าว จะเป็นได้ใน 2 กรณี

หนึ่ง คือเรื่องจะถูกส่งไปที่ ส.ว. โดย ส.ว. ต้องลงคะแนนเสียง 3 ใน 5 ของจำนวน ส.ว. ทั้งหมด คือประมาณ 91 คน เพื่อถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง ซึ่งกรณีนี้เป็นไปได้ยาก เพราะ ส.ว. เสียงในฝ่ายต้านรัฐบาลมีจำนวนไม่ถึง 91 คน

อีกประการหนึ่งคือ เรื่องถูกส่งไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็มีสิทธิถูกตัดสินให้ติดคุกเลย ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้เป็นการเพิกถอนสิทธิทางการเมือง เพราะจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ แต่จะขาดคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. ที่จะต้องพ้นโทษออกมาก่อนเป็นเวลา 5 ปี ถึงสมัคร ส.ส. ได้

แต่ที่ผ่านมา นักการเมืองจะหนีไปนอกประเทศเสียก่อน มากกว่าจะยอมติดคุก

กำลังโหลดความคิดเห็น