xs
xsm
sm
md
lg

เสธ.อ้าย!แจงนานาชาติเหตุล้ม “ชินวัตร” ชี้ “ใครไม่พอใจรัฐบาล” พบกัน 24 พ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


‘เสธ.อ้าย’ เปิดใจอีกครั้ง! เชิญชวนประชาชนที่รักสถาบัน และทนเห็นคนกินบ้านกินเมืองบริหารประเทศไม่ได้ ต้องระดมกันออกมาโค่นรัฐบาล 24 พ.ย.นี้ ระบุจะใช้ยุทธวิธีทางการทหารเผด็จศึกเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย หวังหลุดพ้นเงื้อมมือ ‘ชินวัตร’ พร้อมทำหนังสือแจงสังคมโลกให้เข้าใจถึงสาเหตุในปฏิบัติการครั้งนี้ วอนประชาชนเชื่อมั่นจะไม่เกิดเหตุการณ์ ‘ทหารชนทหาร’ ชี้ ‘ชัยสิทธิ์ ชินวัตร’ แค่ราคาคุย! ขณะเดียวกันจะกอบกู้ระบบราชการให้แข็งแรง-มีคุณธรรมกลับคืน อีกทั้งทหารแก่ไม่มีวันตาย ต้องสร้างคุณค่าให้แผ่นดินด้วยการเข้าไปแก้ปัญหาทุกพื้นที่ หวังล้างบางหมู่บ้านเสื้อแดง


การประกาศว่าวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 จะระดมพลครั้งสุดท้าย 1 ล้านคนเพื่อขับไล่รัฐบาลของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยเหตุผล 3 ข้อหลัก คือ 1. รัฐบาลปล่อยให้มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่นอกจากไม่จัดการแล้ว คนระดับแกนนำของกลุ่มคนฝ่ายรัฐบาลหลายคนยังมีท่าทียุยงส่งเสริมให้มีการกระทำขึ้นด้วย 2. การบริหารประเทศไม่มีประสิทธิภาพ และ 3. การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงโดยเฉพาะจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น

ด้วยจำนวนตัวเลขผู้ชุมนุม 1 ล้านคนจะเป็นไปได้หรือไม่ รวมทั้งยุทธวิธีที่เสธ.อ้าย เตรียมการไว้แล้วนั้น หากใครได้ยินได้ฟังคงอยากจะเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติการกู้ชาติ กู้แผ่นดินในครั้งนี้

“ทีม Special Scoop หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน” จึงขอเปิดใจ พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม อีกครั้ง!

ยันปลอดภัย-ม็อบนี้ต้องสู้ด้วยประชาชน

การระดมพลในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 นี้ ขอยืนยันว่าจะเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ คือจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ ดังนั้นแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็คงจะไม่มาปะทะกับผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่นำโดยองค์กรพิทักษ์สยาม

“เราชุมนุมแบบไม่มีอาวุธ แล้วก็ไม่เข้าใจว่าเสื้อแดงจะมาตีเราทำไม เราไม่มีอาวุธ ผมไม่มีอาวุธ ถ้าเขามีอาวุธมาทำร้าย รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดูแล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างตำรวจ เพราะตำรวจคือผู้พิทักษ์สันติราษฎรก็มีหน้าที่ดูแล และผมเชื่อว่าตำรวจดีๆ มีอีกมาก”

ส่วนที่มองว่าจะมีมือที่ 3 นั้น ก็ตอบให้ชัดๆไปเลยว่า ไม่เชื่อว่าจะมีมือที่ 3 ตอนนี้มีเพียง 2 มือเท่านั้น คือมือของคนที่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ และมือของคนที่ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ อันนี้คือคู่ต่อสู้หลัก

และการต่อสู้ครั้งนี้ยืนยันว่าจะเป็นการต่อสู้ที่เกิดเร็ว จบเร็ว และจะใช้ยุทธวิธีทางการทหารมาบริหารการชุมนุม ซึ่งขอยังไม่บอกว่าแผนการคืออะไร

“ผมคิดแบบทหาร แต่จัดการเร็ว ทำยังไงขอยังไม่บอก เป็นยุทธวิธีของผม เป็นยุทธวิธีทางการทหาร แกนนำยังไม่รู้ว่าผมจะทำยังไง แค่เอาคนมาให้ได้เท่านั้นพอ”

“ทหารสู้ทหาร” ไม่มี-มีแต่ทหารรักในหลวง

ส่วนที่หลายคนเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง เป็นศึกทหารชนทหารและจะมีความรุนแรงอาจได้รับอันตรายจึงไม่อยากออกมาร่วมชุมนุมนั้น ขอทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับรู้ไว้ว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ใช่ศึกทหารชนทหาร เพราะทหารทุกคนรักในหลวง และการที่พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร พยายามออกข่าวว่านักเรียนเตรียมทหารรุ่น 5 (ตท.5) ที่เป็นรุ่นของพลเอกชัยสิทธิ์ และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 ที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เตรียมออกมาต้านเต็มที่ แต่ในความจริงแล้วนั้น นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 5 เขาออกมาบอกแล้วอย่างชัดเจนว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของพลเอกชัยสิทธิ์

“พูดตามตรงนะ ไม่ต้องอะไรมาก ใครรุ่นไหน ใครเป็นแกนนำรุ่นไหน มันมีตัวแทน มันมีคนอยู่แล้ว แต่ของรุ่น 5 ก็ไม่ใช่พลเอกชัยสิทธิ์ที่เป็นตัวแทนรุ่น หรือมีบารมีในรุ่น คำถามคือ วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีทั้งหมด แล้วพลเอกชัยสิทธิ์เป็นพี่น้องตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ตั้งให้ดำรงตำแหน่งอะไรเลย ตรงนี้ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าพลเอกชัยสิทธิ์มีพลังจริงหรือเปล่า มีนามสกุลชินวัตรยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีเลย”

ส่วนใครจะมาบอกว่าเสธ.อ้ายมีคนอยู่เบื้องหลัง ก็ยืนยันว่าไม่มี

“ผมเป็นแบ็กเอง ไม่มีใครเป็นแบ็กผม คุณมาหาผมหลายทีแล้ว คุณเห็นใครไหมละ ไม่มี ผมมีแค่ตัวผมเอง ผมไม่กล้าไปคุยกับทหารด้วยกันหรอก เราไม่รู้ว่าใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย ต้องทำงานกันต่อไป ถ้าไปคุยก็จะทำงานด้วยกันลำบาก ดังนั้นคนที่มาช่วยจึงเป็นพลเรือนมากกว่าทหารเสียอีก”

แต่บอกได้เลยว่าผู้ที่มาช่วยในปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ใช่คนไร้น้ำยา เพราะแผนการทุกอย่างทำอย่างรัดกุมและเตรียมไว้หมดแล้ว!

วางแผนแก้เกมอ้างต่างประเทศไม่ยอมรับ

ทีมงานของพวกเรา ทำงานทุกอย่างอย่างรัดกุมที่สุด จะมีทั้งทีมสมอง ทีมรวบรวมคน ทีมรับข่าวสาร ทีมทำหนังสือ ทีมเลี้ยงดู ทีมต่างประเทศ ทีมหน่วยพยาบาล ฯลฯ

หน้าที่ของการจัดชุมนุม เราพร้อมหมดแล้ว เช่นทีมเลี้ยงดูมวลชน กองทัพธรรมจะเป็นแกนหลัก วันนี้ (13 พ.ย. 55) ทีมทำหนังสือ จะมีการทำหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อขออย่าให้มีการสกัดการเดินทางของประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดเข้าร่วมชุมนุม

“ผบ.ตร.คนนี้ (พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว) เป็นคนดี ผมเคยร่วมงานด้วยครั้งหนึ่ง ผมเชื่อท่านจะเข้าใจว่าควรทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างไร และท่านคงไม่ขัดขวางการชุมนุมครั้งนี้”
นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญที่ทีมงานได้เตรียมการไว้แล้วก็คือ การทำความเข้าใจกับนานาประเทศ เพื่อให้ทุกประเทศเข้าใจถึงความจำเป็นในการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยทีมงานกำลังร่างจดหมายเพื่อแถลงการณ์กับนานาชาติไว้แล้วว่าบ้านเมืองไทยมีความจำเป็นอย่างไร

“จะอ้างว่ามีคน 15 ล้านคนเป็นผู้สนับสนุนเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทยมา คงไม่ได้ เพราะมีข้อกล่าวหาทั้งซื้อเสียงโดยใช้นโยบาย SML แล้วก็มีข้อกังขาเรื่องการเปลี่ยนหีบเลือกตั้ง ดังนั้นสิ่งที่เราอยากบอกต่างชาติคือ ประชาธิปไตยของไทย มันยังไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยบ้านอั๊วมันซื้อเสียง และมันต้องหยุดกลไกเหล่านี้ให้ได้เพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ เป็นการปรับเรื่องประชาธิปไตยใหม่ด้วยซ้ำ”

ตรงนี้จะมีการจำแนกเหตุผลให้ต่างชาติเห็นอย่างชัดเจน และการชุมนุมจะต้องเป็นการชุมนุมด้วยพลังบริสุทธิ์ของประชาชน

3 แสนคนไม่พอต้อง 1 ล้านคนเท่านั้น

“คุณมากัน 1 แสนคน มากัน 3 แสนคน ผมไม่พอใจ ผมคงต้องเลิกทำต่อ เพราะไม่เกิดผลในการเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย แต่ถ้าวันนี้คุณอึดอัด คุณต้องออกมา ผมเปิดช่องทางให้คุณแสดงออกแล้ว ดังนั้น 7 แสนคนต้องเป็นอย่างต่ำ และควรมาให้ได้ 1 ล้านคนขึ้นไป”

ในวันที่ 24 พ.ย.ก็จะมีการนัดเจอกันที่สนามม้านางเลิ้งก่อน เสร็จแล้วก็จะเดินทางไปพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ถ้าคนมาจำนวนมาก ก็จะเริ่มจากตรงกลางที่แน่น แล้วขยายออกไป ทั้งด้านกว้าง ยาว ใหญ่ ก็จะเห็นภาพชัดว่าเป็นพลังของประชาชน แต่ถ้าไม่มาก็คงต้องหยุด

“เขาถือว่า 15 ล้านเสียงสนับสนุนเขา ก็ของแกมันของปลอม ซื้อเสียงมาหรือเปล่า นี่ตัวเป็นๆ 1 ล้านคน ก็จะบอกรัฐบาลอย่างนี้ แต่ถ้ามาหยอมแหยม 3 แสนคนอย่างนี้ ก็แย่ ผมคงเลิก ผู้ชุมนุมจะมาทุบตีผมยังไงก็ได้ ผมก็จะยอม เพราะว่าคนน้อยมันไม่เกิดผล มันก็ต้องเลิก”

อย่างไรก็ดี จากการเช็กพลังมวลชน ขณะนี้หลายภาคส่วนมีความพร้อมอย่างมาก ทั้งจากกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากกลุ่มสหภาพฯ จากกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน และยืนยันได้เลยว่าจะมีคนมาจากทุกจังหวัด

“ใครได้รับผลกระทบจากรัฐบาล เราก็ขอให้ออกมา เพราะมีเวทีให้แล้ว อย่างสภาอุตฯ หรือภาคธุรกิจ 1 มกราคม 2556 นี้คุณจะกระทบหนักจากนโยบาย 300 บาท คุณเดือดร้อน คุณจะมาร่วมไหม อันนี้ต้องตัดสินใจเองว่าควรจะหยุดรัฐบาลนี้ไว้ก่อนหรือเปล่า”

เตรียมใช้มูลนิธิทหารต้านหมู่บ้านเสื้อแดง

ก้าวต่อไปที่พวกเราชาวเตรียมทหารทุกคน ทุกรุ่นจะต้องร่วมมือร่วมใจกันทำงานต่อไปก็คือการปกป้องสถาบัน และดูแลราษฎรทั่วประเทศ โดยเสธ.อ้ายในฐานะประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารได้เสนอแนวคิดนี้ต่อที่ประชุมของมูลนิธิฯ ไปแล้ว และทุกคนก็เห็นด้วย

“คือทหารไม่ได้มีแค่ในเหล่าในกอง แต่มีทหารที่ปลดประจำการ (ทหารเกณฑ์) ไปแล้ว ปีหนึ่งกว่า 80,000 คน ส่วนโรงเรียนนายร้อยตอนนี้ก็มีคนเรียนถึง 55 รุ่นแล้ว นับที่ยังเรียนอยู่ 7 รุ่น ก็จะพบว่ามีคนที่จบการศึกษาไปอยู่ในเหล่าทัพต่างๆ รวมทั้งไปเป็นตำรวจแล้ว 48 รุ่น รุ่นหนึ่งมีคนประมาณ 300 คน ดังนั้นมีนักเรียนเตรียมทหารที่อยู่ในสังคมกว่า 14,400 คน ซึ่งคนเหล่านี้ต่อไปจะให้ไปเป็นผู้ฝึกทหารปลดประจำการตามหมู่บ้านต่างๆ ถ่ายทอดความรู้ให้ราษฎร คนหนึ่งถ่ายทอดได้ 3 คนก็คุ้มแล้ว หน้าที่หลักคือปลูกฝังให้คนในชุมชนรักสถาบัน สร้างจิตสำนึกรักชาติ”

แนวคิดนี้จะเป็นการทำงานรูปแบบที่สู้กับหมู่บ้านคนเสื้อแดง?

“ใช่ แต่หมู่บ้านคนเสื้อแดงไม่มีราก มีแค่เงินกับท่อน้ำเลี้ยง ถ้าวันหนึ่งคุณทักษิณรู้สึกว่าทำไปไม่มีประโยชน์ เสียแต่เงิน แต่ก็กลับประเทศไม่ได้ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร วันหนึ่งเขาอาจจะคิดก็ได้นะว่า พอดีกว่า เสียดายเงิน ไม่ได้มีประโยชน์กลับมาให้ตัวเขาเลย ถ้าไม่มีน้ำเลี้ยง หรือถ้าไม่มีทักษิณ คนเราทุกคนต้องตาย วันหนึ่งหมดทักษิณไป คิดว่ากระบวนการเสื้อแดงจะมีอยู่ไหม ผมคิดว่ามันก็จะไม่มีแล้วนะ มันจะจบ”

ทักษิณตาย หรือ เบื่อแล้ว ปลงแล้ว กระบวนการที่เดินหน้าด้วยเงิน ทุกอย่างก็จะจบ!

สำหรับการขับเคลื่อนในนามมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารล้วนแต่เป็นพลังดี เป็นพลังด้านบวกที่จะช่วยทำให้สังคมไทยแน่นแฟ้นขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นความเข้มแข็งของระบบราชการ วันนี้การเมืองทำให้ระบบราชการอ่อนแอมากเกินไป ต้องฟื้นขึ้นมา เพราะประเทศแข็งแกร่งได้จากระบบราชการที่เข้มแข็ง และมีคุณธรรม ซึ่งคนพวกนี้จะเป็นผู้ไปดูแลและพัฒนาชุมชนทั่วประเทศได้อย่างดี

ไม่ปิดประเทศ แค่แช่แข็งนักการเมือง
 

เสธ.อ้ายย้ำว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ มีขั้นมีตอน และที่เราเลือกเวลา 09.01 น.นั้น เพราะเป็นเลขมงคล ส่วนใครจะจับไปผูกโยงว่าหมายถึงการส่งสัญญาณจากสถาบันก็ตาม เราไม่สามารถห้ามใครได้ ทั้งที่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าพระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง และทำทุกอย่างเพื่อประชาชนของพระองค์ท่านมาตลอด ยังคิดสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

“จะตีความอย่างนั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ คนที่รักสถาบันจะได้ออกมาเยอะ ๆ เพราะพวกเราต้องการปกป้องสถาบัน แต่พวกเขาหมิ่นสถาบันและไม่มีการจัดการคนพวกนี้ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมอีกด้วย”
ส่วนที่เสื้อแดงบอกว่าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลครั้งนี้เมื่อทำสำเร็จพวกเราต้องการปิดประเทศนั้น ไม่เป็นความจริง จะไม่มีการปิดประเทศแน่นอน เพราะภาคธุรกิจคงไม่ยอม และมีหลายภาคส่วนที่ต้องขับเคลื่อนต่อไป เพียงแต่นักการเมืองจะต้องมีการหยุดแล้วปรับตัวก่อน ค่อยเดินหน้าใหม่

อีกประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าศึกครั้งนี้ทำเพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นรัฐบาลนั้น บอกได้อย่างเดียวว่า “ผมไม่เตะหมูเข้าปากหมา” ละกัน!

แต่รายละเอียดในการบริหารประเทศจะเป็นรูปแบบใดนั้น ต้องให้เราบรรลุเป้าหมายวันที่ 24 พ.ย.นี้ได้ก่อน แล้วทุกอย่างจะปรากฏชัดเจน!

กำลังโหลดความคิดเห็น