ASTVผู้จัดการรายวัน-"เสธ.อ้าย"นัดชุมนุมใหญ่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง สุดทนรัฐบาล"ปู"แค่หุ่นเชิด"นช.แม้ว" แถมไร้ประสิทธิภาพ-ขาดธรรมาภิบาล-ปล่อยคอร์รัปชัน ด้านพันธมิตรฯ แถลงให้กำลังใจ“องค์กรพิทักษ์สยาม” จัดกิจกรรมเพื่อบ้านเมืองให้สิทธิพี่น้องเข้าร่วมตามความสมัครใจ แต่ยังไม่เข้าเงื่อนไข 3 ข้อที่แกนนำพันธมิตรฯ จะเข้าร่วมนำการชุมนุม ย้ำแนวทาง พธม.มุ่งเดินสายให้ความรู้ประชาชน นำสู่การปฏิรูปครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนขั้วรัฐบาล แล้ววิกฤติชาติยังคงเดิม
วานนี้ (22 ต.ค.) ที่ราชตฤณมัยสมาคม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ"เสธ.อ้าย" ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน (เสื้อหลากสี) รวมทั้งภาคีเครือข่ายอีกกว่า 10 แห่ง ร่วมกันแถลงข่าว จัดการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อว่า “รวมพลังหยุดวิกฤติและหายนะชาติ” ในวันที่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง
พล.อ.บุญเลิศ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดชุมนุมว่า องค์กรพิทักษ์สยาม รวมถึงกลุ่มต่างๆ ทนไม่ได้กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 3 ประการ คือ
1. รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันฯ โดยไม่มีการป้องกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีการส่งเสริมมากกว่า
2. รัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร และขาดธรรมาภิบาล
3.รัฐบาลปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น
ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม กล่าวอีกว่า ในการชุมนุมใหญ่จะเชิญผู้ที่มีความรู้ในแต่ละด้าน เช่น การจำนำข้าว มาชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จะมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการชุมนุมนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะมาพบในช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค. นี้ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หากจะมาขอให้ยุติการชุมนุมก็ยืนยันว่า คงไม่ได้
นอกจากนี้ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 กองร้อย มาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ทั้งนี้มั่นใจว่า สถานที่จัดการชุมนุมคือที่สนามม้านางเลิ้ง มีรั้วรอบขอบชิด จึงง่ายต่อการควบคุมรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ก็ได้เตรียมรถไว้สำหรับส่งผู้ที่มาชุมนุมตามสถานที่ต่างอีกด้วย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคให้การสนับสนุนนั้น พล.อ.บุญเลิศ ยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะไม่ต้องการนักการเมืองอีกต่อไป ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณอะไรต่อไปนั้นตนคิดว่าก็ต้องขึ้นอยู่ที่สังคมว่าต้องการอะไร อย่างไรก็ตามขอปฏิเสธกรณีที่ทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่ากลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยยืนยันว่า ตนเป็นทหาร ไม่ใช่เสื้อเหลืองและไม่เคยขึ้นเวทีการชุมนุม
** พธม.ให้กำลังใจ"พิทักษ์สยาม"
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ ( 22 ต.ค.) ภายหลังจากการประชุมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธฺปไตย ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่นที่ 2 และโฆษกพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 8/2555 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง จุดยืนต่อการเคลื่อนมวลชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยมีเนื้อหาในรายละเอียดดังนี้
“สืบเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันประเทศชาติกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้งหนึ่งพร้อมกันหลายด้าน อันได้แก่ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรง ปัญหาการก่อหนี้ภาครัฐ ปัญหาการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในระหว่างประเทศ ปัญหาการถูกประเทศเพื่อนบ้านรุกรานอธิปไตย และปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ รวมถึงปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องฯลฯ
โดยปัญหาวิกฤติของชาติข้างต้นนั้นได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลในระบอบทักษิณ อันได้แก่ รัฐบาลพรรคไทยรักไทย รัฐบาลพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือ รัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณ อันได้แก่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จึงย่อมพิสูจน์เป็นที่ชัดเจนว่า การเมืองไทยในระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทุกขั้วอำนาจล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งการสลับเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองที่ผ่านมาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติได้ เพราะเป็นเพียงแค่การช่วงชิงอำนาจทางการเมือง และแย่งชิงผลประโยชน์ให้กับนักการเมืองเพียงไม่กี่คนในขั้วอำนาจของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการต่อสู้ของภาคประชาชนที่เสียสละด้วยแรงกาย แรงใจ และชีวิต จะไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้ หากเป็นเพียงแค่การโค่นล้มรัฐบาลชุดหนึ่งเพื่อให้นักการเมืองที่ล้มเหลวอีกชุดหนึ่งเข้ามาบริหารประเทศต่อไป
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเห็นว่าการปฏิรูปประเทศไทยที่มาจากการตื่นรู้ของประชาชน ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์จากการนักการเมืองที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ให้กลับมาเป็นของประชาชนเท่านั้น จึงจะสามารถหาทางออกที่แท้จริงให้กับประเทศได้ และเป็นเหตุทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศให้มีการจัดกิจกรรมเดินสายสัญจรให้ข้อมูลและความรู้กับประชาชนให้มากที่สุดดังที่ปรากฏเป็นกิจกรรมทั่วประเทศตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้การประชุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555 ณ สวนลุมพินี พี่น้องประชาชนได้มีฉันทานุมัติเห็นชอบเป็นมติในการเคลื่อนไหวมวลชนปรากฏเป็นแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 2/2555 ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ คือ
1. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
2. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การนิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพวก
3. เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ความเหมาะสมที่ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่
ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการดังกล่าวข้างต้น เกิดขึ้นเมื่อใด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะแจ้งให้ทราบและพร้อมจัดให้มีการชุมนุมใหญ่โดยทันที
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ประกาศในแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2555 ด้วยหลักปกครองประเทศ 15 ประการ ซึ่งเป็นการประกาศ “เป้าหมาย” การปฏิรูปการเมืองในเชิงเนื้อหา ว่าประเทศชาติและประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร โดยได้ปรากฏต่อมาว่า ไม่มีขั้วอำนาจใดที่ออกมาขานรับหลักปกครองประเทศดังกล่าว ย่อมแสดงให้เห็นว่า นักการเมืองทุกขั้วอำนาจขาดความจริงใจที่จะปฏิรูปประเทศชาติ และสนใจแต่จะรักษาอำนาจหรือช่วงชิงอำนาจทางการเมืองให้มาเป็นของพวกตนเองอยู่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อได้มีกลุ่มภาคประชาชน 30 กว่าองค์กร ได้รวมตัวกันในนาม “องค์การพิทักษ์สยาม” นำโดย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่ได้ประกาศว่า จะจัดกิจกรรมการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 นั้น เมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิจารณาวัตถุประสงค์ขององค์กรดังกล่าวแล้ว เห็นว่า “องค์การพิทักษ์สยาม” เป็นองค์กรภาคประชาชนอีกองค์กรหนึ่งที่หวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งควรให้กำลังใจ
แต่เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการชุมนุม อาจพุ่งเป้าไปที่เฉพาะความล้มเหลวของรัฐบาลชุดปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งแม้ในความเป็นจริงรัฐบาลชุดปัจจุบันจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลวในภาวะวิกฤติก็ตาม แต่ก็ยังไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขการเคลื่อนไหวมวลชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555 และยังไม่ชัดเจนว่า จะมีเป้าหมายสอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศไทยโดยหลักปกครองประเทศ 15 ประการ ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 หรือไม่ ประกอบกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มีกำหนดการในการจัดกิจกรรมของตนเองซึ่งประกาศล่วงหน้าว่าจะมีการจัดเสวนาการปฏิรูปประเทศไทยที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งตรงกับการจัดกิจกรรมขององค์การพิทักษ์สยามอีกด้วย
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2555 นี้ และขอให้กำลังใจองค์การพิทักษ์สยาม ในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ส่วนการตัดสินใจของภาคประชาชนที่จะเข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยามนั้น วันและเวลาดังกล่าวนั้น แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการใช้วิจารณญาณของแต่ละปัจเจกบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
**"เหลิม"ขนบิ๊กตร.ข่ม"เสธ.อ้าย"
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นคนไปขอคุยกับพล.อ.บุญเลิศ เพราะเป็นคนที่รักชอบพอกัน โดยจะเดินทางไปพร้อมกับพล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ด้วย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ได้ไปพูดคุยเรื่องการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เพราะเท่าที่ดูการชุมนุมซึ่งจัดในสนามม้านางเลิ้ง เป็นเพียงการแสดงสัญลักษณ์ คงไม่ได้คิดสร้างความวุ่ยวายให้กับบ้านเมือง
วานนี้ (22 ต.ค.) ที่ราชตฤณมัยสมาคม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ"เสธ.อ้าย" ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มสยามสามัคคี กลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน (เสื้อหลากสี) รวมทั้งภาคีเครือข่ายอีกกว่า 10 แห่ง ร่วมกันแถลงข่าว จัดการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อว่า “รวมพลังหยุดวิกฤติและหายนะชาติ” ในวันที่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง
พล.อ.บุญเลิศ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดชุมนุมว่า องค์กรพิทักษ์สยาม รวมถึงกลุ่มต่างๆ ทนไม่ได้กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 3 ประการ คือ
1. รัฐบาลปล่อยให้มีการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันฯ โดยไม่มีการป้องกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีการส่งเสริมมากกว่า
2. รัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร และขาดธรรมาภิบาล
3.รัฐบาลปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น
ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม กล่าวอีกว่า ในการชุมนุมใหญ่จะเชิญผู้ที่มีความรู้ในแต่ละด้าน เช่น การจำนำข้าว มาชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยืนยันว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จะมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการชุมนุมนั้น พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะมาพบในช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค. นี้ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หากจะมาขอให้ยุติการชุมนุมก็ยืนยันว่า คงไม่ได้
นอกจากนี้ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 3 กองร้อย มาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยให้ ทั้งนี้มั่นใจว่า สถานที่จัดการชุมนุมคือที่สนามม้านางเลิ้ง มีรั้วรอบขอบชิด จึงง่ายต่อการควบคุมรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ก็ได้เตรียมรถไว้สำหรับส่งผู้ที่มาชุมนุมตามสถานที่ต่างอีกด้วย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคให้การสนับสนุนนั้น พล.อ.บุญเลิศ ยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะไม่ต้องการนักการเมืองอีกต่อไป ส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะส่งสัญญาณอะไรต่อไปนั้นตนคิดว่าก็ต้องขึ้นอยู่ที่สังคมว่าต้องการอะไร อย่างไรก็ตามขอปฏิเสธกรณีที่ทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่ากลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยยืนยันว่า ตนเป็นทหาร ไม่ใช่เสื้อเหลืองและไม่เคยขึ้นเวทีการชุมนุม
** พธม.ให้กำลังใจ"พิทักษ์สยาม"
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ ( 22 ต.ค.) ภายหลังจากการประชุมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธฺปไตย ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่นที่ 2 และโฆษกพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 8/2555 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง จุดยืนต่อการเคลื่อนมวลชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยมีเนื้อหาในรายละเอียดดังนี้
“สืบเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันประเทศชาติกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้งหนึ่งพร้อมกันหลายด้าน อันได้แก่ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรง ปัญหาการก่อหนี้ภาครัฐ ปัญหาการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในระหว่างประเทศ ปัญหาการถูกประเทศเพื่อนบ้านรุกรานอธิปไตย และปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ รวมถึงปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องฯลฯ
โดยปัญหาวิกฤติของชาติข้างต้นนั้นได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลในระบอบทักษิณ อันได้แก่ รัฐบาลพรรคไทยรักไทย รัฐบาลพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือ รัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณ อันได้แก่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จึงย่อมพิสูจน์เป็นที่ชัดเจนว่า การเมืองไทยในระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทุกขั้วอำนาจล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งการสลับเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองที่ผ่านมาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติได้ เพราะเป็นเพียงแค่การช่วงชิงอำนาจทางการเมือง และแย่งชิงผลประโยชน์ให้กับนักการเมืองเพียงไม่กี่คนในขั้วอำนาจของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการต่อสู้ของภาคประชาชนที่เสียสละด้วยแรงกาย แรงใจ และชีวิต จะไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้ หากเป็นเพียงแค่การโค่นล้มรัฐบาลชุดหนึ่งเพื่อให้นักการเมืองที่ล้มเหลวอีกชุดหนึ่งเข้ามาบริหารประเทศต่อไป
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเห็นว่าการปฏิรูปประเทศไทยที่มาจากการตื่นรู้ของประชาชน ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์จากการนักการเมืองที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง ให้กลับมาเป็นของประชาชนเท่านั้น จึงจะสามารถหาทางออกที่แท้จริงให้กับประเทศได้ และเป็นเหตุทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศให้มีการจัดกิจกรรมเดินสายสัญจรให้ข้อมูลและความรู้กับประชาชนให้มากที่สุดดังที่ปรากฏเป็นกิจกรรมทั่วประเทศตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้การประชุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555 ณ สวนลุมพินี พี่น้องประชาชนได้มีฉันทานุมัติเห็นชอบเป็นมติในการเคลื่อนไหวมวลชนปรากฏเป็นแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 2/2555 ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ คือ
1. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
2. มีการดำเนินการใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายอื่นใด ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสู่การนิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพวก
3. เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ความเหมาะสมที่ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่
ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการดังกล่าวข้างต้น เกิดขึ้นเมื่อใด พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะแจ้งให้ทราบและพร้อมจัดให้มีการชุมนุมใหญ่โดยทันที
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ประกาศในแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2555 ด้วยหลักปกครองประเทศ 15 ประการ ซึ่งเป็นการประกาศ “เป้าหมาย” การปฏิรูปการเมืองในเชิงเนื้อหา ว่าประเทศชาติและประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร โดยได้ปรากฏต่อมาว่า ไม่มีขั้วอำนาจใดที่ออกมาขานรับหลักปกครองประเทศดังกล่าว ย่อมแสดงให้เห็นว่า นักการเมืองทุกขั้วอำนาจขาดความจริงใจที่จะปฏิรูปประเทศชาติ และสนใจแต่จะรักษาอำนาจหรือช่วงชิงอำนาจทางการเมืองให้มาเป็นของพวกตนเองอยู่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อได้มีกลุ่มภาคประชาชน 30 กว่าองค์กร ได้รวมตัวกันในนาม “องค์การพิทักษ์สยาม” นำโดย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่ได้ประกาศว่า จะจัดกิจกรรมการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 นั้น เมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิจารณาวัตถุประสงค์ขององค์กรดังกล่าวแล้ว เห็นว่า “องค์การพิทักษ์สยาม” เป็นองค์กรภาคประชาชนอีกองค์กรหนึ่งที่หวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งควรให้กำลังใจ
แต่เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการชุมนุม อาจพุ่งเป้าไปที่เฉพาะความล้มเหลวของรัฐบาลชุดปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งแม้ในความเป็นจริงรัฐบาลชุดปัจจุบันจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลวในภาวะวิกฤติก็ตาม แต่ก็ยังไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขการเคลื่อนไหวมวลชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 2/2555 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555 และยังไม่ชัดเจนว่า จะมีเป้าหมายสอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศไทยโดยหลักปกครองประเทศ 15 ประการ ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 หรือไม่ ประกอบกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มีกำหนดการในการจัดกิจกรรมของตนเองซึ่งประกาศล่วงหน้าว่าจะมีการจัดเสวนาการปฏิรูปประเทศไทยที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งตรงกับการจัดกิจกรรมขององค์การพิทักษ์สยามอีกด้วย
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2555 นี้ และขอให้กำลังใจองค์การพิทักษ์สยาม ในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ส่วนการตัดสินใจของภาคประชาชนที่จะเข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยามนั้น วันและเวลาดังกล่าวนั้น แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการใช้วิจารณญาณของแต่ละปัจเจกบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
**"เหลิม"ขนบิ๊กตร.ข่ม"เสธ.อ้าย"
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเป็นคนไปขอคุยกับพล.อ.บุญเลิศ เพราะเป็นคนที่รักชอบพอกัน โดยจะเดินทางไปพร้อมกับพล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ด้วย
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ได้ไปพูดคุยเรื่องการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เพราะเท่าที่ดูการชุมนุมซึ่งจัดในสนามม้านางเลิ้ง เป็นเพียงการแสดงสัญลักษณ์ คงไม่ได้คิดสร้างความวุ่ยวายให้กับบ้านเมือง