การสั่งงานผู้ใหญ่ในพรรคผ่านเฟซบุ๊กของ “Oak Panthongtae Shinawatra” ได้เกิดคำถามในแวดวงการเมืองว่าโอ๊คกำลังจะเข้าสู่สนามการเมืองเต็มตัวหรือไม่? สายตรง “วงใน” ชี้ “แม่” ไม่อนุญาต เหตุคุณหญิงอ้อ ได้บทเรียนความเจ็บปวดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่อยากให้ “ลูกซ้ำรอยพ่อ” ที่สำคัญแม้โอ๊คจะเส้นใหญ่ แต่บารมีไม่ถึง ขณะที่วันใดหาก “ทักษิณ-พจมาน” ยอมให้ลูกชายเล่นการเมือง “ทรงศักดิ์ เปรมสุข” หัวขบวน SC Matchbox คือพี่เลี้ยงปั้น “พานทองแท้ ชินวัตร” แน่นอน! ด้านนักวิชาการสายการตลาดเชิงการเมืองมองโอ๊คเล่นการเมืองแน่ เพราะไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แถมมีแต้มต่อดีกว่าคนอื่น
“โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร กับการเข้ามาเปิดแฟนเพจในเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้มียอดแฟนเพจที่กด Like แล้วกว่า 111,968 คน โดยเฟซบุ๊กของโอ๊คเริ่มมีความเคลื่อนไหวอย่างจริงจังในต้นปี 2555
โอ๊ค เคยโพสต์ไว้ในหน้าเฟซบุ๊กเมื่อ 16 มีนาคม 2555 ว่า “อยากให้เป็นหน้าส่วนตัวและเป็นการพูดคุยกันระหว่างคนที่รักกันชอบกันมากกว่า มิได้หวังให้เป็นกระดานข่าวให้ฝ่ายต่างๆ มาดีเบตหรือด่าทอกันนะครับ”
คนที่เข้ามากด Like ในระยะแรกมีทั้งกลุ่มแฟนที่รักและชื่นชอบทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากเพจดังกล่าวจะเป็นการบอกกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพานทองแท้ที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น การเดินทางไปเยี่ยมหรือทำกิจกรรมกันภายในครอบครัว ช่วยทำให้คนที่ยังรักและคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่เข้ามากด like ในเพจนี้
ขณะเดียวกันด้วยคุณลักษณะของเฟซบุ๊กแบบแฟนเพจ เปิดให้ใครก็สามารถไปกด like ได้ รวมถึงกลุ่มที่ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าไปโพสต์ข้อความต่อต้าน จนพานทองแท้ต้องออกมาแจ้งเมื่อวันที่ 16 มีนาคมว่า “ขอบล็อกผู้ที่เข้ามาป่วนจนทำให้ Theme ของ facebook ที่ผมอยากให้เป็นผิดเพี้ยนไป”
หลังจากที่เน้นไปที่กิจกรรมในครอบครัวชินวัตรและกิจการของโอ๊คอย่าง Voice TV เมื่อเกิดเหตุการณ์การทุบรถนักข่าว Voice TV โอ๊คเริ่มที่จะแสดงความเห็นทางการเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คู่ขนานไปกับการเผยแพร่การทำงานของคุณอา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแก้ต่างให้ อาปู ในยามที่ถูกโจมตีทางการเมืองไปพร้อมๆ กัน
รวมไปถึงการตอบโต้เกือบทุกดอกทั้งส่วนที่กระทบต่อโอ๊คโดยตรงหรือต่อตัวยิ่งลักษณ์ แบบที่เรียกว่าใครหน้าไหนที่มาทำร้ายครอบครัวชินวัตร พานทองแท้ตอบโต้ตลอดเวลา และเริ่มตอบโต้การโจมตีของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องแพงทั้งแผ่นดินด้วยการไปหาร้านอาหารราคาถูกถึงถิ่นพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้สาธารณะเห็นว่าสิ่งที่ประชาธิปัตย์พยายามโจมตีนั้นไม่เป็นความจริง
ขณะเดียวกันการตรึงและเพิ่มมิตรรักแฟนทักษิณยังดำเนินการผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว ไม่แตกต่างจากการทำตลาดด้วยการมอบโชคให้กับคนที่เข้ามากด like เริ่มจากการแจกเสื้อของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เคยเป็นของทักษิณ 4 ตัวพร้อมลายเซ็นของทักษิณบนเสื้อ จากนั้นได้มีโครงการเยี่ยมคนแดนไกลที่ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน จำนวน 20 คนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่ภาพรวมโดยหลักจะเน้นไปที่การโจมตี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการหนีการเกณฑ์ทหาร รวมไปถึงปมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งเรื่องกระสอบทรายและสนามฟุตซอล
นอกจากนี้ยังได้เริ่มแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในหลายมิติ โดยบางครั้งมีการงัดเอาเรื่องการครบรอบที่ทหารปฏิวัติพ่อตัวเองขึ้นมาเป็นประเด็น หรือเรื่องของไพรวัลย์ นวมทอง ขึ้นมาเขียน และเก็บทุกมิติในเรื่องที่เป็นกระแสดังของสังคม และการเลือกเรื่องที่นำมาโพสต์ข้อความจะเป็นการเลือกเฉพาะเรื่องที่เป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยและคนในตระกูลชินวัตร
ที่ร้อนแรงที่สุดคือการโพสต์เมื่อ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยการจุดประเด็นแผนการลอบสังหารทักษิณ ชินวัตร ที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการ หลังจากที่มีการจับบุคคลที่ครอบครองอาวุธสงครามได้ที่ประเทศพม่า
แต่การจุดกระแสดังกล่าวมีการตอบรับจากฝ่ายทหารน้อยมาก แม้แต่พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ตอบรับกับเรื่องดังกล่าว มีเพียง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาตอบรับข่าวของโอ๊ค
จากนั้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน จึงโพสต์ข้อความอีกครั้งถึงหลักฐานที่เป็นอาวุธสงคราม พร้อมด้วยถ้อยคำในลักษณะที่ขอร้องแถมสั่งการถึง อาโอ๋ (สุกำพล) ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
วันนี้เฟซบุ๊กของพานทองแท้ ชินวัตร ได้แสดงพลังความเป็นลูกชายของทักษิณ ชินวัตร มากขึ้นเรื่องๆ จากเดิมที่เน้นกิจกรรมในครอบครัว แจ้งให้กับคนที่รักทักษิณทราบความเคลื่อนไหว แต่วันนี้ได้พัฒนาขึ้นไปจนกลายเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายค้าน จนเริ่มเข้ามาสู่การจี้ให้รัฐมนตรีในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์เข้าไปตรวจสอบสิ่งที่โอ๊คพบเห็น
จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และจับตากันว่าลูกชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ กำลังจะก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองหรือไม่?
และเวทีแห่งนี้ใครคือพี่เลี้ยง?
“อาเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มีสิทธิเป็นพี่เลี้ยงตัวจริงในเวทีการเมืองให้โอ๊คหรือไม่?
ข้อความ “โอ๊ค” ไม่มีราคา
รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อมวลชน และการตลาด มองว่าการที่ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในครั้งนี้ เป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ข่าว ซึ่งก็ได้ผล ทำให้เกิดข่าวออกมา แต่หากสังเกตการโพสต์ข้อความของ โอ๊ค พานทองแท้ ที่ผ่านมา ผลที่ออกมาจะออกมาในแง่ลบมากกว่า อาทิ เรื่องของแพง ที่โพสต์การไปทานข้าวหมูแดงที่มีราคาแค่ 30 บาท เป็นต้น
ส่วนกรณีการโพสต์ข้อความปกป้องพ่อในครั้งนี้ ก็มีผลออกมาในทางลบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดราม่า, เหิมเกริมไปสั่งสอนตำรวจ ฯลฯ อีกทั้งยังไม่เห็นใครขานรับกับข้อความดังกล่าวนอกจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ขณะที่หน่วยงานรัฐ หรือภาคส่วนงานอื่นๆ ยังไม่มีการขานรับ
“มันบ่งชี้ว่าสิ่งที่โอ๊ค พานทองแท้ ออกมาโพสต์ข้อความที่ผ่านมายังไม่เข้าท่า ทั้งนี้ยังมองว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นการหยั่งเชิง แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ายังไม่มีไหวพริบ ยังมองไม่ทะลุ”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าลูกๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในอนาคตจะก้าวเข้ามาเล่นการเมืองอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะว่ายังไม่มีความพร้อม ซึ่งเหตุที่มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะส่งลูกเล่นการเมือง เนื่องจากไม่ไว้ใจใคร นอกจากคนในครอบครัว ซึ่งเดาว่าคนที่จะสอนการเมืองให้แก่ลูกของเขา ก็คือตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง
“คุณทักษิณเขาต้องสอนลูกเขาเอง เพราะเขาคิดว่าเขาฉลาดกว่าคนอื่น”
เส้นใหญ่แต่ “บารมีไม่ถึง”
ขณะที่ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มองว่าเส้นทางทางการเมืองของ “โอ๊ค” พานทองแท้ เกิดขึ้นแน่นอน และเข้าสู่ภาคการเมืองได้ทันที เพราะมีปัจจัยที่ทำให้ พานทองแท้ มีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ กล่าวคือ ประการแรก พานทองแท้ มีญาติพี่น้องที่เป็นนักการเมืองอยู่แล้ว และมีถึง 2 คนที่เป็น “ชินวัตร” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือคุณพ่อ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณอา คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และยังมีอาเขย คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ) อีกคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ประการต่อมา สถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ เป็นตัวบีบให้ พานทองแท้ เข้ามาสู่เส้นทางทางการเมือง โดยเฉพาะความอึดอัดใจที่คุณพ่อ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกดดันทางการเมืองรูปแบบต่างๆ จนกระทั่งต้องออกจากตำแหน่ง และต้องไปอยู่ต่างประเทศ ความกดดันนี้จะทำให้พานทองแท้ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเพื่อมาปลดล็อกสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพ่อ อีกทั้งการแสดงออกถึงความท้าทายต่อตัวพานทองแท้เองที่จะมีโอกาสทำให้ตัดสินใจเข้ามาเล่นการเมืองได้ง่ายขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าว รวมกับความพร้อมทุกด้านโดยเฉพาะความจำเป็นของ พานทองแท้ ที่ต้องก้าวเข้าสู่ภาคการเมืองก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่า พานทองแท้ เขาจะเข้ามาเล่นการเมืองเมื่อไร เพราะพานทองแท้มีจุดเด่นที่มากกว่าคนอื่นๆ คือไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ มีแต้มต่อที่เหนือกว่านักการเมืองรุ่นใหม่คนอื่นๆ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส
อย่างไรก็ดี การจะเข้าไปมีตำแหน่งใหญ่ถึงระดับการสั่งการในพรรคเพื่อไทย หรือการขึ้นสู่จุดการเป็นรัฐมนตรีนั้น มองว่ายาก เพราะว่าพรรคเพื่อไทยเองมีระบบของกรรมการบริหารพรรค และมีความพยายามที่จะปรับให้เพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง อีกทั้งมีผู้ใหญ่ที่เป็นคนเก่งกว่า พานทองแท้อาจจะมีปัญหาด้านการยอมรับที่ต้องใช้ทั้งเวลา และการสร้างสมบารมีในระยะหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่จะทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ
“จุดที่คุณโอ๊คจะยืนอยู่ จะพัฒนามาจากการเล่นการเมืองในเชิงรับ เป็นลักษณะตอบโต้กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับรัฐบาล เช่นไปทานอาหารราคาถูกข้างพรรคประชาธิปัตย์เพื่อทำให้เห็นว่าไม่มีปัญหาข้าวยากหมากแพง เป็นการตอบโต้ แต่การเข้าไปสั่งการในพรรคเพื่อไทยนั้น คุณโอ๊คจะยังมีฐานะเป็นลูกเป็นหลานมากกว่าที่จะเป็นระดับผู้นำ”
โดยถ้าเทียบกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมานที่แม้เข้าไปในพรรคเพื่อไทยได้แล้ว แต่ยังมีระบบของพรรค และยังมีเรื่องของเกมการเมืองควบคุมอยู่ด้วย
“เล่นการเมืองได้ แต่มองข้ามช็อตจะยาก เพราะมันต้องใช้หลายอย่าง ใช้แค่ความเป็นลูก เป็นหลานไม่ได้”
จับกลุ่มคนรุ่นใหม่
ขณะที่ ไพจิต ศรีวรขาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา และประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎรไทย มองว่าการที่โอ๊ค พานทองแท้ ลูกชายคนเดียวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในประเด็นการเมืองนั้น เป็นการปกป้องพ่อของตนเองซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ และมองว่าเป็นการเติมเต็มงานทางการเมือง โดยเฉพาะโลกของคนรุ่นใหม่ คนหนุ่ม คนสาว และเป็นการสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านมุมมองของคนใกล้ชิด ในฐานะลูก แต่ก็ย่อมเสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ตาม การที่พานทองแท้ ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตนไม่คิดว่าจะเป็นการปูทาง พัฒนาเข้าสู่บทบาททางการเมืองในรูปแบบของกรรมการบริหารพรรค, รัฐมนตรี หรือในตำแหน่งต่างๆ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ รักครอบครัวมาก หากมีทางเลือกอื่นก็จะไม่ให้เข้าการเมือง เพราะการเมืองมี 2 ด้าน คือ ให้ทั้งคุณ และให้โทษ
โอ๊คไม่เหมาะการเมือง-ทนแรงต้านน้อยกว่าพ่อ
ขณะที่นักการเมืองระดับกุนซือพรรคเพื่อไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า พานทองแท้ แม้อยากเล่นการเมืองแต่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่ จะไม่ยอมให้พานทองแท้เล่นการเมืองแน่นอน สาเหตุคือ ครอบครัวนี้ต้องเจ็บปวดกับเรื่องทางการเมืองอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น การให้พานทองแท้มาเล่นการเมือง พานทองแท้จะต้องเจออุปสรรคและแรงบีบคั้นที่มากเกินไป
ประกอบกับพานทองแท้นั้น มีลักษณะส่วนตัวเป็นแบบศิลปิน และการต้านแรงเสียดทานทางการเมืองที่คู่ต่อสู้มีการต่อสู้กันรุนแรงมากนั้นมีน้อย ไม่เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีความสามารถในการต้านแรงเสียดทานทางการเมืองที่มากกว่า
“เกมที่โอ๊คจะเล่น จะเล่นเป็นแบบศิลปินอย่างนี้ต่อไป เพราะว่าเป็นเกมที่ถนัดอยู่แล้ว คือช่วยคุณยิ่งลักษณ์ ตอบโต้ทางการเมือง เป็นการทำสงครามแทน แต่ก็ยังถือว่าถนัดที่จะอยู่นอกเวทีมากกว่า แต่การบริหารงานการเมืองจะไม่ใช่เรื่องที่โอ๊คถนัด”
อยู่ที่ Voice TV และเล่น facebook เป็นงานถนัด และเหมาะกับความเป็นศิลปินของโอ๊คอยู่แล้ว งานการเมืองไม่ใช่เรื่องถนัดที่เขาจะโดดเข้ามาเล่นเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม หากวันใดที่ครอบครัวชินวัตรตัดสินใจว่า จะต้องส่งเลือดเนื้อเชื้อไขมาแก้การเมืองที่จะต้องใช้การเมืองเป็นตัวแก้เท่านั้นแล้ว คนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงให้พานทองแท้ดีที่สุด ไม่ใช่นักการเมืองรุ่นเก่าอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อย่างแน่นอน เพราะสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้ทีมงานที่ปั้นตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในแง่การทำตลาดเชิงการเมืองสำเร็จและอยู่เคียงข้าง พ.ต.ท.ทักษิณมาตลอด อย่างผู้บริหาร SC Matchbox
เขาคนนั้นชื่อ “ทรงศักดิ์ เปรมสุข” อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซี แมทซ์บ๊อกซ์ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)
“ไม่ต้องเอาคนอื่นหรอก คุณทรงศักดิ์ คนนี้ที่จะเป็นคนปั้นพานทองแท้ในเส้นทางการเมืองที่เก่งที่สุด เพราะประสบการณ์ที่ช่วยงานด้านการตลาดให้พ่อ (พ.ต.ท.ทักษิณ) มาตลอดสิบกว่าปี มันไม่ต้องใช้คนอื่นแล้ว คุณทรงศักดิ์เก่ง และคุณทักษิณไว้ใจมาก”
