ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศ รายงานการชี้แจงข้อมูลต่อศาลโลกเป็นวันที่สอง ย้ำศาลโลกไม่ได้ตัดสินเกี่ยวกับเส้นเขตแดน คำขอของกัมพูชาเป็นการขอให้ศาลตัดสินประเด็นที่ไม่ได้ตัดสินไว้เดิม จึงขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ ส่วนความขัดแย้งตามแนวชายแดนมีความเสี่ยงจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับกัมพูชาที่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีและขยายพื้นที่ความขัดแย้งจากปราสาทพระวิหารไปยังพื้นที่อื่น
กระทรวงการต่างประเทศ รายงานการเข้าชี้แจงข้อมูลต่อศาลโลกในวันที่สอง โดยทวิตข้อความผ่านเว็ปไซต์ www.twitter.com ภายใต้ชื่อ @MFAThai_PR_TH ดังนี้
วานนี้ 31 พ.ค. 17.00-18.00 น. เวลากรุงเฮก คณะดำเนินคดีฝ่ายไทยชี้แจงศาลโลกตอบโต้คำขอกัมพูชาให้มีมาตรการชั่วคราวบริเวณปราสาทฯ เป็นวันที่สอง โดยสรุปเนื้อหาสำคัญดังต่อไปนี้
1.นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย (ออท.) ณ กรุงเฮก ในฐานะผู้แทนไทย ย้ำท่าทีของไทยมีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไทยยอมรับและได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี พ.ศ. 2505 อย่างครบถ้วนแล้วซึ่งกัมพูชาก็ยอมรับ
2.ไทยย้ำศาลโลกไม่ได้ตัดสินเกี่ยวกับเส้นเขตแดน และต้องเจรจาต่อไป โดยมีกลไกในกรอบทวิภาคีดำเนินการ
3.การขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกต้องมีพื้นที่บริหารจัดการอยู่ในไทย การที่กัมพูชาปฏิเสธขึ้นทะเบียนร่วมเป็นที่มาของการยื่นคำร้องต่อศาลของกัมพูชา
4.ออท. ณ กรุงเฮกยืนยันไทยจริงใจในการดำเนินความสัมพันธ์กับกัมพูชาบนพื้นฐานของความเท่าเทียม ไม่ได้เป็นการรังแกโดยประเทศใหญ่ตามที่กัมพูชาพยายามสร้างภาพ
5.ไทยไม่ประสงค์ให้ปราสาทพระวิหารเสียหาย แต่การใช้กำลังเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง ย้ำกัมพูชาใช้ปราสาทเป็นฐานโจมตีไทย ละเมิดอนุสัญญากรุงเฮก ปี 1954
6. ออท. ณ กรุงเฮก ตอบโต้กัมพูชาว่าไทยเป็นประชาธิปไตย การเมืองภายในของไทยไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใดกับประเด็นที่ศาลกำลังพิจารณา
7. ไทยชี้ประชาชนชาวกัมพูชาเพิ่งอพยพย้ายเข้าไปอยู่ในบริเวณใกล้เคียงปราสาทพระวิหารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง
8. ไทยย้ำความขัดแย้งเสี่ยงจะทวีความรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับกัมพูชาที่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีและขยายความขัดแย้งจากบริเวณปราสาทฯ ไปยังพื้นที่อื่น
9. ออท. ณ กรุงเฮก เน้นการที่มีเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้นในบริเวณอื่นไม่เป็นเหตุให้ศาลต้องพิจารณามีคำสั่งมาตรการชั่วคราวบริเวณปราสาทพระวิหาร
10. ไทยไม่ได้ปิดประตูต่อบทบาทสนับสนุนของฝ่ายที่สามในการแก้ไขปัญหา โดยได้ให้ข้อมูลแก่คณะมนตรีความมั่นคงฯ และร่วมประชุมแข็งขันในกรอบอาเซียน
11.ออท. ณ กรุงเฮก ชี้ไทยกับกัมพูชาไม่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับคำพิพากษา ปี 2505 คำขอตีความของกัมพูชาเป็นการขอให้ศาลตัดสินประเด็นที่ไม่ได้ตัดสินไว้เดิม
12. ออท. ณ กรุงเฮก กล่าวสรุปคำขอของไทยต่อศาลโลก คือ ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ