ศาลอาญาระหว่างประเทศ มีมติไม่ยกคำร้องเขมร แต่ให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทพระวิหาร เพื่อลดการเผชิญหน้า “กษิต” ปลื้มมีผลผูกพัน 2 ฝ่าย “วีระชัย” ชี้ศาลยุติธรรมต่อไทยมาก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกษิต ภิรมย์ แถลงข่าว
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ศาลอาญาระหว่างประเทศได้นั่งบัลลังก์พิพากษาคดีที่ประเทศกัมพูชาได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาออกมาตรการชั่วคราวให้ประเทศไทยถอนกำลังติดอาวุธทั้งหมดทุกประเภทออกจากพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร โดยศาลได้มีมติเอกฉันท์ไม่ยกคำร้องของกัมพูชา ขณะที่มติ 9 ต่อ 5 เสียงให้ประเทศไทย และประเทศกัมพูชา ถอนทหารออกจากบริเวณพื้นที่รอบบริเวณปราสาทพระวิหาร เพื่อสันติภาพและลดการเผชิญหน้าทั้ง 2 ฝ่าย โดยกำหนดเขตแดนปลอดทหาร 4 จุด ขณะที่มติ 11 ต่อ 5 เสียง คุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ไทยขวางการดำเนินการของกัมพูชาต่อการให้ผู้สังเกตการณ์อาเซียนเข้าสู่พื้นที่และการบูรณะตัวปราสาทพระวิหาร และมติ 15 ต่อ 1 เสียง ให้ทั้ง 2 ฝ่ายรายงานความคืบหน้าจนกว่าจะมีคำพิพากษาตีความเพิ่มเติมต่อคำพิพากษาปราสาทพระวิหารปี 2505
ภายหลังมีคำสั่งศาล นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก พร้อมในฐานตัวแทนไทยให้ข้อมูลต่อศาลโลก และที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติ 3 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเข้าห้องรับรองของฝ่ายไทยทันที โดยนายกษิตได้แถลงผ่านทางโทรศัพท์ต่อสื่อมวลชนที่กระทรวงการต่างประเทศว่า รู้สึกพอใจต่อมติดังกล่าว เพราะว่ามีผลพูกพันกับทั้งสองประเทศไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่นเดียวกับนายวีรชัยที่กล่าวแสดงความพอใจในคำตัดสินของศาลโลก ต่อกรณีที่กัมพูชาร้องให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว โดยถือว่าศาลโลกให้ความยุติธรรมต่อฝ่ายไทยอย่างมาก
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมจะต่อสายคุยกับนายกษิต และจะแถลงท่าทีของฝ่ายไทยต่อมติศาลโลก ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ในเวลา 18.00 น.วันนี้