เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก คาด 3 แนวทางศาลโลกพิพากษาพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารไทย-กัมพูชา ยันการชี้แจงของฝ่ายไทย มีการเตรียมข้อมูลหลายปี และทำอย่างดีที่สุด ยังเชื่อในความยุติธรรมของศาลโลก หวังใช้คดีนี้ยืนยันความยุติธรรมของศาลได้อีกครั้ง
นายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงกรณีศาลโลกนัดฟังคำสั่งกรณีกัมพูชายื่นเรื่องขอศาลโลกตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ในพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) ว่า มีการคาดการณ์คำพิพากษาของศาลโลกไว้ 3 แนวทาง คือ 1.ศาลโลกไม่รับคำร้องของกัมพูชา และอาจจำหน่ายคดีทิ้ง 2.รับคำร้องกัมพูชา และมีคำสั่งมาตรการชั่วคราวให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร หรือเบากว่านั้น และแนวทางที่ 3 มีคำสั่ง แต่ไม่ตรงกับที่กัมพูชาร้องขอ เช่น มีมาตรการให้ทั้ง 2 ฝ่ายดำเนินการทั้งคู่ โดยแนวทางที่เป็นผลดีต่อไทยมากที่สุดคือแนวทางแรก
นายวีรชัยยืนยันว่า การชี้แจงของฝ่ายไทยต่อศาลโลกมีการเตรียมข้อมูลหลายปี และทำอย่างดีที่สุดในกรอบของการรับมรดกคดีเก่าที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย แต่เชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาลโลก และหวังว่าจะใช้คดีนี้ยืนยันความยุติธรรมของศาลได้อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน บริเวณสี่แยกเมืองทอง เขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เครือข่ายประชาชนคนกันทรลักษ์พิทักษ์ปราสาทเขาพระวิหาร ออกมาเคลื่อนไหวกรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะมีคำวินิจฉัยตามที่กัมพูชาร้องขอให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ใน 3 ประเด็น คือ ขอให้ประเทศไทยถอนกำลังทหารออกจากปราสาทพระวิหาร หยุดกิจกรรมทหารที่จะกระทบสิทธิและอธิปไตยของกัมพูชา และหยุดสร้างการสู้รบเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ คำวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ เครือข่ายประชาชนคนกันทรลักษ์พิทักษ์ปราสาทเขาพระวิหาร นำป้ายมาติดตามสี่แยก ขณะที่บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหารยังคงเป็นปกติ ชาวบ้านในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด