xs
xsm
sm
md
lg

“เนวิน” รอดคดีกล้ายาง ยังติดบ่วงคดีเซ็นทรัลแล็บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เนวิน ชิดชอบ
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – “เนวินแอนด์เดอะแก๊งค์” รอดคดีทุจริตกล้ายางตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไปแล้ว แต่ข้อกล่าวหาการใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้องที่ยังเป็นบ่วงผูกคอยังเหลือคดีเซ็นทรัลแล็บ ซึ่ง คตส. ส่งสำนวนชี้พฤติกรรมร่วมกระทำผิดอาญา ฮั้วประมูล มาให้ป.ป.ช. ดำเนินการต่อในเวลานี้

ศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตกล้ายางเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 52 ที่ผ่านมา พิพากษายกฟ้องจำเลยในคดีทั้งหมด 44 คน แม้ว่าสังคมบางส่วนจะยังไม่คลายความสงสัยในพฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะ “เนวิน ชิดชอบ” แต่ทุกฝ่ายก็ยอมรับผลแห่งคดีที่ศาลตัดสินให้เขาเป็นผู้บริสุทธิ์

ส่วนคดีเซ็นทรัลแล็บ หรือโครงการก่อสร้างและจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร จำกัด ซึ่งเป็นคดีที่ คตส. หยิบยกขึ้นมาตรวจสอบพร้อมๆ กับคดีกล้ายาง ยังไม่ขึ้นสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล

ทั้งนี้ หลังจาก คตส. ส่งสำนวนคดีเซ็นทรัลแล็บ มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อเมื่อเดือนมิ.ย. 51 หลัง คตส. หมดวาระลง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีขึ้นมาใหม่ โดยมี เมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน และจนบัดนี้ยังไม่มีการแถลงความคืบหน้าของคดีต่อสาธารณะแต่อย่างใด

คดีเซ็นทรัลแล็บ มีกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามผลการสอบของ คตส. คือ นักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน เช่นเดียวกันกับคดีกล้ายาง โดยระบุพฤติกรรมการกระทำผิดลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งตามรูปการณ์เมื่อเทียบเคียงกับคดีกล้ายางแล้ว “เนวินแอนด์เดอะแก๊งค์” ก็อาจมีสิทธ์พ้นข้อกล่าวหาให้ปราศจากมลทิน ซึ่งการที่เดินไปสู่จุดนั้นได้ก็มีแต่เพียงการนำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลและให้องค์คณะผู้พิพากษาตัดสินตามกระบวนการพิจารณาคดี

สำหรับความผิดปกติในการดำเนินโครงการเซ็นทรัลแล็บ ที่รอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ฟ้องร้องเพื่อให้ศาลชี้ขาดว่า มีความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ มีหลายประเด็นตามผลสอบของ คตส. ดังนี้

1) การกำหนดนโยบายเพื่อจัดตั้งบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง พบว่าเรื่องที่เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกเป็นการดำเนินงานในลักษณะองค์กรมหาชนแต่ต่อมาผู้รับผิดชอบโครงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นลักษณะบริษัทจำกัดเพื่อไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่หน่วยงานต้องถือปฏิบัติ ทำให้การดำเนินงานในรูปบริษัททำได้ง่ายขึ้น เช่น การเลือกบุคคลเข้ามาเป็นคณะกรรมการ การใช้จ่ายเงิน การออกกฎระเบียบของบริษัท

เวลานั้นในที่ประชุมครม. มีหลายหน่วยงานท้วงติงและให้กลับไปพิจารณาทบทวนใหม่เพราะอาจไปซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่รับตรวจสารตกค้างในสินค้าเกษตรอยู่แล้ว และเงินที่นำไปจัดตั้งและการดำเนินการต่างๆ ของบริษัทก็เป็นเงินของรัฐ ก็ควรยึดกฎระเบียบของรัฐเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หลังนำเรื่องเข้าที่ประชุมครม. ก็มีการจัดตั้งบริษัท และปรากฏว่า นายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรฯ ขณะนั้น เข้าไปนั่งเป็นประธานเพื่อกำหนดนโยบายและสั่งการให้การดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทห้องปฏิบัติการฯ เป็นไปตามความต้องการของตนเอง

คณะกรรมการ คตส. ชี้ว่า การจัดตั้งหน่วยงานนี้ในรูปบริษัทจำกัดเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 87 ที่ไม่ให้รัฐค้าขายแข่งขันกับเอกชน ไม่สอดคล้องกับภารกิจของกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 10 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม พ.ศ. 2543

2) การก่อตั้งบริษัทไม่ได้ศึกษาความคุ้มทุนเพราะเมื่อ คตส. เข้าไปตรวจสอบ พบว่า การดำเนินไม่ประสบผลสำเร็จ มีลูกค้าน้อย เพราะสินค้าที่ผ่านการรับรองจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลางฯ แล้ว แต่ผลการรับรองก็ต้องไปผ่านการพิจารณาจากห้องปฏิบัติการของหน่วยราชการอีก ซ้ำราคาค่าตรวจจากห้องปฏิบัติของภาครัฐต่ำกว่าอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังพบการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ในราคาแพงแต่ใช้งานไม่คุ้มค่า บางสาขาไม่ได้ใช้ บางสาขาพื้นที่อยู่ในจังหวัดห่างไกลจากทะเล ไม่มีลูกค้าตรวจสอบอาหารทะเลแต่กลับซื้อเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบอาหารทะเลเพราะจัดซื้อเครื่องมือเหมือนกันทุกสาขา

3) สถานะของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทรัฐวิสาหกิจไม่ใช่บริษัทจำกัด ตาม พ.ร.บ.ต่าง ๆ เช่น พ.ร.บ.พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4 พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 มาตรา 4 และพ.ร.บ.พัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 มาตรา 4

4) การดำเนินการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ นั้นมีการกระทำผิดกฎหมาย ตั้งแต่การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ เพื่อนำไปใช้ในการประกวดราคา มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์กับบริษัทเอกชนบางราย และกีดกันบริษัทอื่น ๆ มีความผิดปกติในการดำเนินการในการประกวดราคา

เช่น การจัดซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ พบว่า มีความผิดปกติ เช่น การประมูลจัดซื้อ มีบริษัทเอกชนบางราย ใช้แหล่งเงินในการออกหนังสือค้ำประกันธนาคารแห่งเดียวกัน บุคคลที่ดำเนินการเป็นคนเดียวกัน

รวมทั้งบริษัทที่เข้าประมูลหลายแห่งได้รับใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนการขายเครื่องมือ จากบริษัทจำหน่ายเครื่องมือรายใหญ่รายหนึ่ง ถือเป็นการกีดกันผู้เสนอราคารายอื่น และกรรมการรายหนึ่งที่ทำหน้าที่กำหนดคุณลักษณะเครื่องมือ มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้บริหารระดับสูงในบริษัทขายเครื่องมือรายหนึ่งด้วย

นอกจากนั้น เครื่องมือที่จัดซื้อก็มีราคาสูงมากกว่าความเป็นจริง เพราะกระบวนการซื้อขายเครื่องมือของเอกชนเป็นลักษณะการซื้อเครื่องมือมาเป็นทอดๆ

เช่น กิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร ฯ ซึ่งเป็นผู้ประมูลการจัดหาเครื่องมือทาง วิทยาศาสตร์ไม่ได้จัดซื้อเครื่องมือจากบริษัทผู้ผลิต เช่น บริษัทเอจิเลนต์ ฯ โดยตรง แต่ได้ให้บริษัทเอกชนอื่น เช่น บริษัท เอส. ดับเบี้ลยู. เอ็น. คอมพิวเทค จำกัด (ซี่งไม่มีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจประเภทการค้าเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ มาก่อน และภายหลังเลิกกิจการไปหลังจากการซื้อขายสินค้าครั้งนี้) ดำเนินการซื้อจากบริษัทเหล่านั้น และนำมาขายกับกิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร

นอกจากนั้น มีบางบริษัทเป็นผู้ดำเนินการในลักษณะตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทผู้ผลิตสินค้า เช่น บริษัทเวิลด์สยาม กรุ๊ป จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทเอจิเลนต์ฯ

ทั้งนี้ บริษัทต่าง ๆ ดังกล่าวนั้นมีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกันในการประกอบธุรกิจกับโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ที่โอนไปจากกิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร ฯ ที่ได้เงินไปจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ พบว่า บริษัทเหล่านี้ ได้เคยเข้าร่วมประมูลงานข้อมูลในโครงการอื่นของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ 3 โครงการ ที่เกี่ยวเนื่องมาแล้ว ชี้ให้เห็นว่าบริษัทเอกชนเหล่านี้ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน

จากการซื้อขายสินค้ากันหลายทอดดังกล่าว ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น มากกว่าที่ควรจะเป็นโดยมีส่วนต่างประมาณ 343 ล้านบาท อันทำให้บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ เสียประโยชน์จากการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทดังกล่าว

ที่สำคัญ เงินที่ได้รับไปจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ ถูกสั่งจ่ายเป็นเช็คมากกว่าหลายร้อยใบ ไปให้บุคคล และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ก่อนที่เงินจำนวนนี้จะถูกถอน เป็นเงินสด และหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้ และมีเงินจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ บางส่วนโอนข้าไปในบัญชีของกลุ่มนักเล่นหุ้นกลุ่มหนึ่งด้วย

ผลการตรวจสอบของ คตส. ได้ชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 53 คน ประกอบด้วย

1.กลุ่มนักการเมือง คือนายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตร และสหกรณ์ ขณะนั้น โดยใช้อำนาจสั่งการ และชี้นำในการดำเนินการโครงการดังกล่าว มีความผิดตาม มาตรา 10,11,13 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบมาตรา 84 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ. ป.ป.ช.

2.คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ คณะกรมการบริษัท คณะทำงานด้านเทคนิคสถานที่ และอุปกรณ์ และคณะทำงานพิจารณาด้านเทคนิคอุปกรณ์ ของ บริษัท เซ็นทรัลแล็บ ได้ร่วมกันกำหนดคุณสมบัติหรือล็อกสเปกในลักษณะเจาะจง และมีคณะกรรมการบางคนมีส่วนได้เสียกับการดำเนินการครั้งนี้ มีความผิด ตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว ประกอบมาตรา 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 8 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502

ทั้งนี้ ในส่วนของการประกวดราคาที่ไม่ชอบ เห็นควรดำเนินการกับกรรมการผู้จัดการ และคณะกรรมการบริหาร ตามมาตรา 11 และ 12 แห่งพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายาญา และมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดต่อพนักงานของรัฐฯ พ.ศ.2502

3.กลุ่มบริษัทเอกชน รวมกันฮั้วในการเสนอราคามีความผิดตามาตรา 4 ,9 แห่ง พ.ร.บ.อั้ว และมาตรา 341 แห่งประมาลกฎหมายอาญา
 
และกลุ่มที่ 4 บุคคล และนิติบุคคล ที่ร่วมกันในการสมยอมราคา และฉ้อโกงรัฐ ทำให้รัฐเสียหายมีความผิด ตามมาตรา 5 ,9 แห่ง พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา 60,61 ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว และมีความผิดฐานรับของโจร ตามมาตรา 357 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

นอกจากการกล่าวหาของ คตส.แล้วจะมีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ง. และดีเอสไอ เพื่อสอบประเด็นการฟอกเงินด้วย

หากตรวจสอบรายชื่อ 53 ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเซ็นทรัลแล็บ จะพบรายชื่อบุคคลถูกกล่าวหาในคดีกล้ายางซึ่งศาลยกฟ้องไปแล้ว เช่น เนวิน ชิดชอบ รมช.กระทรวงเกษตรฯ และกลุ่มข้าราชการกรมวิชาการเกษตร เช่น ฉกรรจ์ แสงรักษาวงส์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร รองปลัดกระทรวงเกษตรฯในปัจจุบัน, นาย สมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตรในขณะนี้ และ นายจิรากร โกศัยเสวี รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นต้น

ส่วนบริษัทเอกชนขาใหญ่ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ที่มี นางทัศนีย์ ชาญวีรกุล หรือ นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร หรือ นายมาศถวิน ชาญวีรกุล หรือนายวรพันธ์ ช้อนทอง หรือ นางสนอง ชาญวีรกุล กรรมการผู้มีอำนาจกระทำแทนในปัจจุบัน นายอนุทิน ชาญวีรกุล อดีต รมช.สาธารณสุข ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจในขณะเกิดเหตุ ที่มอบอำนาจให้ นายประเสริฐ คงเคารพธรรม เป็นผู้เสนอราคา

ในสำนวนการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการ คตส. ยังพบข้อมูลว่า คณะกรรมการที่พิจารณาข้อมูลเรื่องอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือกำหนดสเปกค มีความสัมพันธ์ เป็นสามีภรรยา กับบุคคลที่อยู่ในบริษัทจำหน่ายเครื่องมืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์รายหนึ่ง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการเซ็นทรัลแล็บด้วย โดยรายแรก เป็นภรรยาของผู้บริหารระดับสูงในบริษัท ส่วนรายที่สอง เป็นภรรยาของข้าราชการคนหนึ่งในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาบริษัทแห่งนี้

จากข้อมูลข้างต้น จะพบว่า ทั้งประเด็นความผิดปกติ และกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา กระทั่งความสัมพันธ์ในเชิงผลประโยชน์ทับซ้อน ละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างยิ่งกับคดีกล้ายาง ดังนั้นหากคดีเซ็นทรัลแล็บ มีบทลงเอยเช่นเดียวกันกับคดีกล้ายาง จะส่งผลให้ “เนวิน แอนด์เดอะแก๊งค์” บริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากมลทินใดๆ ไร้ข้อกล่าวหาว่าขี้โกง อีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น