วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ลุกลามทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหนักหน่วง ภาคเกษตรกรรมที่ผูกอยู่กับการส่งออกเผชิญกับความวิบัติซ้ำกรรมซัด ส่วนแรงงานต่างทุกข์ระทมจากการเลิกจ้าง ลดเงินเดือน ผู้ประกอบการรายใหญ่จนถึงรายย่อยหนีไม่พ้นการล่มสลาย ปิดกิจการ
ท่ามกลางมรสุมวิกฤตเศรษฐกิจ ฟากฝั่งทางการเมืองยังหนีไม่พ้นจากวิกฤตความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย รัฐบาลใหม่ที่ขึ้นมาเถลิงอำนาจจะสามารถนำพาชาติฝ่าวิกฤตทั้งเศรษฐกิจ – การเมือง ให้หลุดพ้นจากวังวนอุบาทว์ วิกฤตซ้ำวิกฤตซาก ได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรีคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ผู้คนในสังคมต่างฝากความหวังไว้จะสร้างแรงศรัทธาโน้มนำมวลประชาทุกหมู่เหล่าให้ร่วมฟันฝ่าปัญหานานัปการ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตข้างหน้าได้สำเร็จหรือไม่ ยังต้องลุ้นกันตลอดปีหน้า
แต่ถึงแม้ปัญหาจะหนักหนาสาหัส ตราบใดที่มีข้อมูลข่าวสารเป็นฐานความคิด วิเคราะห์ เปรียบเสมือนมีเข็มทิศนำทางให้ชีวิตได้เตรียมพร้อมจะต่อสู้ ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตไปได้
ในโอกาสนี้ กองบรรณาธิการ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ได้เรียบเรียง วิเคราะห์วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือ “10 วิกฤตชาติ’52” เพื่อรู้ทันสถานการณ์อย่างรอบด้านตั้งแต่วิกฤตโลกถึงวิกฤตไทย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ
นี่คือตัวอย่างบางตอนจาก “10 วิกฤตชาติ’52” ที่รอท่านผู้อ่านอยู่บนแผงร้านหนังสือ
*** “แฮมเบอร์เกอร์” ที่สุดวิกฤตโลก เศรษฐกิจไทยตายซ้ำซาก
ปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซัพไพรม์) เดินทางมาถึงจุดที่ “ช็อกคนทั้งโลก” เมื่อได้ส่งผลต่อสถาบันการเงินจนต้องประสบปัญหาล้มละลายเป็นทิวแถว รวมถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเช่น เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์. ซึ่งปี 2552 วิกฤตที่สุดในโลกนี้ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นปัญหายืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน ระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
*** 2552 หายนะเลิกจ้าง เตะฝุ่นทะลุล้าน VS ทางออกเมื่อถูกเลิกจ้าง
สัญญาณร้ายจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น สภาพัฒน์ พบว่า ในช่วง 8 เดือนของปี 2551 มียอดการว่างงานประมาณ 530,000 คน คาดว่าในปี 2552 แนวโน้มการจ้างงานจะลดลงอีกจากการปิดกิจการ โดยคาดว่าตัวเลขผู้ว่างงานจะทะลุหลักล้าน ขณะที่ทีดีอาร์ไอ ประเมินว่าจะมีการว่างงานพุ่งสูงถึง 2 ล้านคน พร้อมทั้งมีการลดเวลาทำงาน งดโบนัส และชะลอการขึ้นเงินเดือน ตามมา
*** เกษตรกรโคม่า ราคาสินค้า – ส่งออกวิกฤต
วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่แผ่ลามทั่วโลก ส่งผลทำให้เกษตรกร คนรากหญ้า น้ำตาตก ได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสไม่แพ้กลุ่มคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม หรือนักธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศ เนื่องเพราะประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา นั้นคือต้นตอของปัญหา ขณะที่ตลาดยุโรป ญี่ปุ่น ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่อเค้าจะงดคำสั่งซื้อหรือออเดอร์สินค้าเกษตรจากไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
***ผ่าแผนรัฐจัดการพลังงานล้มเหลว น้ำมัน – ก๊าซ – พลังงานทางเลือก วิกฤตรอปะทุ
ปี 2551 เป็นปีที่คนไทยได้ใช้น้ำมันราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ผู้บริโภคต้องกระเสือกกระสนหาพลังงานทดแทนมาใช้ แต่แล้วเมื่อวิกฤตการเงินโลกถล่ม เศรษฐกิจของโลกส่อเค้าชะงักงัน ราคาน้ำมันก็ร่วงดำดิ่ง การใช้พลังงานของผู้บริโภคหันกลับมาที่น้ำมันอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจก๊าซซบเซาลง แผนการใช้พลังงานทางเลือกก็ถูกเก็บเข้าลิ้นชักเหมือนเดิม ความสับสนในการใช้พลังงานและการสร้างเสถียรภาพในการใช้พลังงานสำหรับปี 2552 จึงเป็นคนถามว่าจะยังเป็นวิกฤตที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดหรือไม่
*** ยุบพรรคล้างพันธุ์ ฝ่าวิกฤตวงจรการเมืองอุบาทว์
การยุบพรรคการเมืองที่กระทำผิด จึงเป็นปลูกฝังการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองให้เป็นไปโดยสุจริต อันจะเป็นคุณประโยชน์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
***นช.ทักษิณ ท้าชนทุกสถาบัน ตุลาการภิวัฒน์แก้วิกฤตยังมืดมน ***
การหวนคืนสู่เวทีการเมืองโดยใช้มวลชนเป็นปราการโอบล้อม นอกจากเป้าหมายกลับมาเอาคืนศัตรูทางการเมืองแล้ว ยังหวังผลสร้างแรงกดดันต่อกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ ที่ต้องพิจารณาคดีความอีกหลายคดีซึ่งยังค้างคาอยู่ในชั้นศาล และการตัดตอนคดีซึ่งกำลังทยอยตามมาอีกหลายคดี
***คุกคามสื่อเย้ยประชา ฝ่าวิกฤตปฎิรูปยังไม่พ้น
การปฏิรูปสื่อที่รัฐบาลต้องเปิดให้ประชาชนเป็นเจ้าของคลื่นความถี่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2550 ดำเนินไปอย่างเชื่องช้าและยังมองไม่เห็นว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะสำเร็จ ขณะที่การยึดกุมสื่อของรัฐเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาล และการคุกคามสื่อที่ไม่ตอบสนองต่อใบสั่งดำเนินไปอย่างชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน
***รอยร้าวสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา รอวันแตกหัก
วิกฤตความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา ว่าด้วยเรื่องเส้นพรมแดนไม่ได้เป็นเพียงข้อพิพาทระหว่างประเทศที่แฝงเร้นไปด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์จากหลายฝักหลายฝ่ายเท่านั้น แต่ยังคงก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศของทั้งสองชาติเองด้วย
***“การศึกษาไทย จากวิกฤสู่วิบัติ”
ในหนังสือ “10 วิกฤตชาติ’52” อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้นำเสนอเรื่อง การศึกษาไทย จากวิกฤตสู่วิบัติ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการศึกษาของไทยที่ยังไม่พัฒนาไปถึงไหน
“การแก้ปัญหาการศึกษา แท้ที่จริงคือการแก้ปัญหาของสังคม หากเรายังเน้นการประเมินคุณครูด้วยตัวเลข หน่วยงานการศึกษาก็ถูกประเมินด้วยตัวเลข ทุกอย่างเป็นตัวเลขไปหมด คุณค่าทางจิตใจจึงหายไป เพราะจิตใจประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ การที่ลูกศิษย์ยกมือไหว้ครูอย่างจริงใจ คุณควรให้กี่คะแนน ??”
***ใครจะอาจซื้อขายฟ้ามหาสมุทร
“ความโลภกำลังเข้ารุกรานสมบัติสุดท้ายของชาติไทย – อุทยานแห่งชาติ – และหากเราปล่อยให้ความโลภมีชัย วิกฤตจะแปรเปลี่ยนเป็นวิบัติ และเราจะไม่เหลืออะไรเลย” คำเตือนจาก อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ถึงผู้มีอำนาจที่คิดจะเปลี่ยนแผ่นดิน ป่าไม้ น้ำฟ้ามหาสมุทร เป็นเงิน เงิน และเงิน โดยไม่ใส่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าอนาคตลูกหลาน