ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เปิดรายละเอียดนาทีอุ้ม “เอกชัย อิสระทะ” เลขาธิการ กป.อพช.ใต้ พ้นเวทีสัมปทานเหมืองแร่ จ.พัทลุง สั่ง “เอาไปเก็บไว้ก่อน” บอกให้ “รักลูกรักเมียมากๆ หน่อย” ก่อนปล่อยขู่ห้ามแจ้งความ บอกรู้หมดแล้วว่าเป็นใคร-บ้านอยู่ที่ไหน”
จากกรณีที่ นายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ราว 10 คน ร่วมกันอุ้มขณะจะเข้าไปสังเกตการณ์เวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่มีส่วนได้เสียกับการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด จัดโดยสำนักงานอุตสาหกรรม จ.พัทลุง ในเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ณ มัสยิดอัสซอลีฮีน หมู่ที่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง นอกจากนี้ กลุ่มสื่อมวลชน จ.พัทลุง ที่จะเข้าไปทำข่าวเวทีดังกล่าวก็ถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทไม่ให้เข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าวนั้น
วันนี้ (16 ส.ค.) รายการสภากาแฟ ช่อง NEWS 1 ล้อมวงคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ในหัวข้อ “สังคมไทยเป็นนิติรัฐ! ทำไมมีการคุมคามนักปกป้องสิทธิชุมชน” โดยพูดคุยกับนายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการ กป.อพช.ใต้ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และนายบรรจง นะแส อดีตนายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ดำเนินรายการโดย “หมี-ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที”
นายเอกชัย กล่าวว่า เวทีดังกล่าวจัดในพื้นที่ อ.ตะโหมด เขตติดต่อกับ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ห่างจากบ้านของตนประมาณ 30 กิโลเมตร ตนได้ขับรถไปจอดข้างอาคารเรียนของ ร.ร.สอนศาสนาใกล้กับมัสยิด ก่อนลงรถเห็นชายยืนเรียงกันประมาณ 10 กว่าคน เหมือนเป็นหน่วยดูแล จึงบันทึกเสียงด้วยมือถือ เมื่อลงรถก็มีคนมาคุยด้วย ถามว่ามาจากไหน ตนก็บอกว่ามาจาก อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พื้นที่ใกล้กัน บอกมาสังเกตการณ์ ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า เวทีนี้ “ดับไว้หมดแล้ว” (เตรียมไว้หมดแล้ว) เขาบอกไม่ให้เข้า ตนบอกว่าขอคุยกับเจ้าหน้าที่ สนง.อุตสาหกรรม จ.พัทลุงได้ไหม เขาก็โทร.ถามไป ทางนั้นตอบมาว่าไม่รู้จัก ไม่ได้เชิญมา ตนก็บอกว่า ขอไปฟัง มาคนเดียว ไม่ได้มีอะไร เขาก็คุยกับอีกคน คนในคลิปที่สื่อมวลชนเอามาเผยแพร่ เขาบอกเช่นเดียวกันว่าไม่ให้เข้า
“ผมบอกว่า มารับฟังความคิดเห็น ไม่ได้มาคัดค้านอะไร มาฟังอย่างเดียว จัดที่นั่งให้ในส่วนของคนสังเกตการณ์ก็ได้ ตอนนี้มาคุยด้วยหลายคนประมาณ 10 กว่าคน เอามือถือผมไปก่อน คุยอีกสักระยะ เขาบอกไปเก็บไว้ก่อนจนเวทีเสร็จ หลังคำสั่ง ทรัพย์สินทั้งหมด มือถือ เป้ กุญแจรถ เขาเอาไป ถ่ายรูปบัตรประชาชน ดันผมไปขึ้นรถเขา รถใหญ่ๆ เขาให้ลบที่บันทึกเสียงในมือถือ ลบแล้วเอาไปต่อ รถถอยมาแล้วเปิดประตูให้นั่งตรงกลางเบาะหลัง มีคนนั่งประกบ แล้วสั่งลูกน้องขับรถของผมตามมา ระหว่างที่ขับรถไป ออกไปสักนิดเขาถามกันเองว่าไปไหน คนคุมเขาโทร.ถามอีกคนว่าเอาไปไหนดี ไม่ใช่ตำรวจแน่ๆ เขาบอกว่าเป็นคนของบริษัท พาไปผมไปรีสอร์ต ห่างจากเวทีประมาณ 13 กิโลเมตร ให้อยู่ในรีสอร์ต เคลียร์คนแล้วให้ผมเข้าไปในห้อง เสร็จเวทีแล้วเขาจะกลับมา ในห้องมีเฝ้าอยู่ 1 คน ห้องพักมีคนเฝ้า 2 ประตูหน้า-หลัง อยู่ 3 ชั่วโมงจนเสร็จเวที ก่อนจะกลับ เขาบอกผมว่าถ้าจะออกไปขอไม่ให้แจ้งความ เขาโทร.ไปถามคนแถวบ้านผมแล้วว่า ผมเป็นใคร บ้านอยู่ไหน อ้างชื่อคนมีอิทธิพล 2-3 คนว่าเขาอยู่สายนี้ เขาบอกว่า ให้รักลูกรักเมียมากๆ หน่อย ซึ่งไม่น่าจะใช่คำพูดแบบปรารถนาดี”
นายเอกชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเป็นแค่หนึ่งกรณี ทั่วประเทศก็จะมีแบบนี้ โดยเฉพาะการประมูลงาน ส่งคนแบบนี้ไปนั่งวันยื่นซอง ก็มีแบบนี้มานั่ง มาอุ้ม ถามว่า เราอยากเห็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือต้องการการเปลี่ยนแปลง แม้เวทีนี้ได้หยุดไปแล้ว แต่ความกลัวเกิดขึ้นแล้ว ถามว่าชาวบ้านเขาจะกล้าไหม ส่วนกลุ่มอิทธิพลก็ยังเดินหน้าอยู่
ด้าน นายไชยยงค์ กล่าวว่า ในฐานะอยู่ภาคใต้มานาน คือการใช้อิทธิพลในการดำเนินการตามรูปแบบของเขา เวทีนี้จัดรูปแบบไว้แล้ว ป้องกันไม่ให้เข้าไปในเวทีที่จัดไว้ วิธีนี้เป็นวิธีการแบบเก่า เหมือนกับว่าทั้งคนทั้งรัฐยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิธีกระทำ ข้าราชการที่ไปร่วมเวทีก็ระดับธุรการ ไปเพื่อบันทึกรายชื่อ รับฟังความคิดเห็น บันทึก เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าส่งจดหมายให้คนมีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น ระบบราชการจะอ้างว่า ไม่รู้จักพื้นที่ไม่รู้จักประชาชน ก็จะใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย ใช้ผู้ใหญ่บ้าน กำนันที่ต้องพาลูกบ้านมาเวที รู้จักมากกว่าตัวเองที่อยู่ในเมือง ทุกเรื่อง รูปแบบในประเทศนี้ อาศัยผู้ใหญ่บ้าน เวทีนี้ก็เหมือนกัน ใช้รูปแบบเก่าผ่านกลไกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
นายบรรจง กล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้ครั้งแรก ที่ภาคใต้มีเยอะ เรื่องพวกนี้ตำรวจรู้หมด ตำรวจเล่าให้ฟังว่า กระบวนการเขาใหญ่มาก แล้วเราจะเดินหน้าประเทศไปแบบนี้หรือ ครั้งนี้น่าจะเลวร้าย ครั้งนี้ชะล่าใจ คงทำมาแล้วหลายครั้ง ถึงเวลาต้องทบทวนกันใหม่ หากนายกรัฐมนตรีจะทำให้โปร่งใส ก็ต้องวัดใจรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร แค่ชาวบ้านขายข้าวยำก็ยังรู้ว่าแถวนั้นใครใหญ่ รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ยกเว้นรัฐบาลว่ารู้หรือไม่รู้ กรณีของนายเอกชัย หากตำรวจจริงจัง เรียกมือถือของคนที่โทร.ถามว่าจะให้ไปเก็บไว้ไหนมาดูว่าเป็นของใคร
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
- คุกคามสื่อ! สมาคม นสพ.ภาคใต้-สื่อพัทลุงร้อง ผวจ.ถูกอุ้มพ้นเวทีสัมปทานเหมืองแร่ (ชมคลิป)
- อิทธิพลมืดคุกคาม! “เลขาธิการ กป.อพช.ภาคใต้” เตรียมเข้าแจ้งความถูกอุ้มจากเวทีสัมปทานเหมืองแร่ จ.พัทลุง
- “เอกชัย อิสระทะ” เลขา กป.อพช.ภาคใต้ บุกแจ้งความที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 (ชมคลิป)
- 53 องค์กรเครือข่ายฯ ออกแถลงการณ์ประณามการข่มขู่คุกคาม “เอกชัย อิสระทะ”
- เรียกร้อง “นายกฯ-สภา” กวาดล้างกลุ่มอิทธิพลเถื่อนจัดฉากเวทีสัมปทานเหมืองแร่ทั่วประเทศ หลัง “เลขาธิการ กป.อพช.ใต้” ถูกอุ้ม (ชมคลิป)
- ตร.ออกหมายจับ 2 ตัวการสั่งอุ้ม “เลขาธิการ กป.อพช.ใต้” จากเวทีสัมปทานเหมืองแร่ จ.พัทลุง
- ผู้ว่าฯ พัทลุง เตรียมสั่งยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นขอประทานบัตรเหมืองแร่