xs
xsm
sm
md
lg

คุกคามสื่อ! สมาคม นสพ.ภาคใต้-สื่อพัทลุงร้อง ผวจ.ถูกอุ้มพ้นเวทีสัมปทานเหมืองแร่ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
พัทลุง - สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และชมรมสื่อมวลชน จ.พัทลุง ยื่นหนังสือต่อ ผวจ.พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรมกรณีสื่อในพื้นที่ถูกคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ ถูกห้ามเข้าทำข่าวเวทีรับฟังความคิดเห็นการขอประทานบัตรเหมืองแร่ ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ จ.พัทลุง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมสื่อมวลชน จ.พัทลุงและคณะผู้สื่อข่าวใน จ.พัทลุง ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกู้เกียรติ วงค์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง หลังถูกคุมคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติงาน จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จากกรณีที่คณะผู้สื่อข่าวถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทไม่ให้เข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าวการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่มีส่วนได้เสียกับการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด โดยสำนักงานอุตสาหกรรม จ.พัทลุง ในเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ส.ค. ณ มัสยิดอัสซอลีฮีน หมู่ที่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ที่ศาลากลาง จ.พัทลุง โดยมี พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม ผบ.ภ.จว.พัทลุง ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรม กอ.รมน.พัทลุง และป้องกันจังหวัด ร่วมรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวด้วย

นายไชยยงค์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว นางอิสณา อุดมศิลป์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และนางลัดดา มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมด้วยทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ทีมข่าวสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปทำข่าวการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น แต่ถูกคุมคามของบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด ไม่ให้เข้าทำหน้าที่รายงานข่าวกรณีการเปิดเวทีดังกล่าว โดยทีมข่าวเข้าไปถึงพื้นที่ก่อนเวลา 30 นาที จึงขับรถไปยังบริเวณน้ำตกลาดเตย ซึ่งห่างจากจุดเวทีประมาณ 3-4 กิโลเมตร เพื่อไปเก็บภาพประกอบข่าวของแหล่งต้นน้ำในพื้นที่

ขณะที่ทีมสื่อกำลังเก็บภาพอยู่นั้น ได้มีรถยนต์เก๋งสีดำขับตามไปประกบห่างจากจุดจอดรถของทีมสื่อประมาณ 30 เมตร พร้อมมีชายอายุ 45-50 ปี สูงประมาณ 160 ซม. ผิวดำแดง จำนวน 1 คน เดินลงมาจากรถคันดังกล่าวมุ่งหน้ามายังทีมสื่อ แล้วได้สอบถามว่า “เป็นนักข่าว ใช่หรือไม่ จะมาทำข่าวเวที ใช่หรือไม่ ขอคุยหน่อย”  โดยชายคนดังกล่าวอ้างเป็นตัวแทนของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด ระบุว่าไม่ต้องการให้ทีมสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวในเวทีรับฟังความคิด อ้างว่ามีการเคลียร์เวทีไว้เสร็จแล้ว หากสื่อเข้าไปก็จะก่อให้เกิดปัญหาเวทีไม่ราบรื่น พร้อมระบุจะจ่ายค่าเสียเวลาและค่าน้ำมันให้ ซึ่งทีมสื่อได้พยายามชี้แจงว่าเราเข้ามาทำข่าว ไม่ได้มีการตั้งแง่กับบริษัทที่เข้ามาขอประทานบัตร ได้รับการแจ้งข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยเข้าทำข่าวและสังเกตการณ์ แต่ชายคนดังกล่าวยืนยัน พร้อมระบุชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ทีมสื่อเข้าไปทำข่าว

จากลักษณะเหตุการณ์ดังกล่าวทีมสื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงบอกกับชายที่อ้างเป็นตัวแทนของบริษัทว่า เราจะไม่เข้าไปทำข่าวในเวที แต่ช่วงที่ทีมสื่อขับรถออกมาจากพื้นที่ ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวยังคงขับรถตามประกบตลอดเส้นทางออกจากน้ำตก เมื่อถึงบริเวณหน้ามัสยิด ซึ่งเป็นจุดที่เปิดเวทีปรากฏว่ารถยนต์ของชายดังกล่าวขับรถจ่อท้ายไม่ให้จอด จนรถของทีมสื่อต้องขับเลยมาจนถึงสามแยกถนนใหญ่ รถยนต์ทีมสื่อเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางถนนภายในเขตเทศบาลตำบลตะโหมด ส่วนรถยนต์คู่กรณีเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางเส้นทางคลองใหญ่ สู่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

 
นายไชยยงค์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติงานของสื่อจากกลุ่มคนที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการประทานบัตรการทำเหมืองหิน ทำให้มองว่าการเปิดเวทีดังกล่าวอาจมีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ต้น เพราะการที่หน่วยงานราชการจะเปิดเวทีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณะหรือกลุ่มบุคคลจำนวนมาก สิ่งหนึ่งที่หน่วยจะต้องทำคือ ต้องแจ้งสื่อในพื้นที่ให้รับทราบเพื่อความโปร่งใส แต่ลักษณะของการทำเวทีดังกล่าวเหมือนกับทำเวทีปิด ไม่เปิดกว้างมาแต่ต้น

“การที่สื่อเข้าไปทำข่าว เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริตและเป็นสามัญสำนึกในวิชาชีพของผู้สื่อข่าวในการรักษาประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่สื่อถูกกลุ่มอิทธิพลคุกคาม เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อวิชาชีพ เป็นเรื่องความไม่ปลอดภัยในการประกอบวิชาชีพ จึงต้องรวมตัวกันมายื่นหนังสือต่อ ผวจ. เพื่อให้จังหวัดตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทั้งให้มีการทบทวนการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของสำนักงานอุตสาหกรรมว่า ถูกต้องตามกระบวนการและมีความชอบธรรมหรือไม่” นายไชยยงค์ กล่าว

ด้าน ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากนี้ จังหวัดจะตรวจสอบข้อเท็จจริงในการเปิดเวทีของ สนง.อุตสาหกรรม หากพบไม่เป็นไปทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง อาจจะต้องมีการยกเลิกการเปิดเวทีดังกล่าว และเริ่มกระบวนการเปิดเวทีใหม่อีกครั้ง โดยย้ำต้องเป็นเวทีที่เปิดกว้าง และต้องมีการประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กอ.รมน.เข้าไปคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในเวทีด้วยทุกครั้ง
 




กำลังโหลดความคิดเห็น