xs
xsm
sm
md
lg

สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนแปลง / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ขอบคุณภาพจาก http://www.bangkokbiznews.com
 
คอลัมน์  :  คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ  หยูทอง-แสงอุทัย

 
 
 
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ในโลกนี้ที่สำคัญมี ๒ เรื่องใหญ่ๆ คือ ๑) กรรมพันธุ์ และ ๒) สิ่งแวดล้อมเป็นเหตุปัจจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อเนื่องถึงด้านสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ กรรมพันธุ์ หรือพันธุกรรม มีอิทธิพลทางด้านภายภาพ เช่น สีผิว สีนัยน์ตา สีผม โรคประจำตัวบางอย่าง เป็นต้น ส่วนสิ่งแวดล้อมมีผลทางด้านการแต่งกายหรือเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย อาหารการกิน ยารักษาโรค อาชีพ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เป็นสำคัญ
 
ปัจจุบันเทคโนโลยีในด้านต่างๆ มีพัฒนาการเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สิ่งแวดล้อมทางด้านต่างๆ เช่น ป่าไม้ ลมฟ้าอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน น้ำ ฯลฯ ได้รับผลกระทบกระเทือนสร้างปัญหามลภาวะ การแย่งชิงทรัพยากร เกิดวิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตทางวัฒนธรรมติดตามมามากมาย
 
ด้วยเทคโนโลยีทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความเจริญก้าวหน้า ทำให้มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมีที่ก่ออันตรายต่อชาวโลก ทำให้มหาอำนาจบางประเทศฉวยโอกาสรังแกประเทศที่ด้อยกว่าตนในทุกด้าน
 
ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศที่ได้เปรียบทางเศรษฐกิจเอารัดเอาเปรียบประเทศที่ด้อยกว่า ทั้งในรูปแบบของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ที่ประเทศมหาอำนาจไม่กี่ประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำกับให้เป็นไปตามเจตนาของประเทศนั้นๆ
 
ด้วยความได้เปรียบทางการเมืองที่บางประเทศได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของระบอบประชาธิปไตย ทั้งในระบอบรัฐสภาและระบอบประธานาธิบดี ทำให้บางประเทศเหล่านั้นฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบ และดูหมิ่นดูแคลนประเทศอื่นที่ลอกเลียนระบอบการปกครองของตน
 
ด้วยการรับเอาระบอบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของชาติตะวันตกเข้ามาพัฒนาประเทศไทย โดยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับต่างๆ เป็นพิมพ์เขียว ทำให้ประเทศของเราตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ในทางเศรษฐกิจ และการแย่งชิงทรัพยากรระหว่างชุมชนกับทุนข้ามชาติ ในนามของการลงทุกร่วมกับรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย ประชาชนไม่อาจจะพึ่งพาพึ่งพิงรัฐบาลของตนได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือลากตั้งก็ตาม เพราะรัฐบาลส่วนใหญ่มักรับใช้นายทุนชาติและนายทุนต่างชาติ มากกว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
 
กล่าวจำเพาะสังคมและวัฒนธรรมในรอบกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย และสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นกับคนในสังคมกึ่งเมืองขึ้น กึ่งศักดินาและกึ่งทุนข้ามชาติ ดังจะเห็นได้จากปรากฏการณ์ร้านสะดวกซื้อที่แพร่กระจายเข้าไปในทุกชุมชน ทั้งในเมืองและเขตชนบท (ซึ่งปัจจุบันว่ากันว่าประเทศไทยไม่มีชนบทในความหมายว่าเป็นบ้านนอก ห่างไกลทุรกันดารอีกต่อไปแล้ว)
 
สังคมไทยเป็นสังคมท่องบ่นแบบนกแก้วนกขุนทอง ชอบจดจำคำพูดที่สวยหรู ฟังดูทันสมัย แต่เข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจแก่นแท้ของสิ่งนั้นๆ เช่น ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง การมีส่วนร่วมทางการเมือง การปรองดอง สมานฉันท์ ความเป็นไทย การย้อนยุคด้วยกระแสการสวมใส่เสื้อผ้า (แทนที่จะปลูกฝังจิตสำนึกของความเป็นคนมีน้ำใจ สนใจปัญหาของสังคม และไม่ทำตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหรือผู้สร้างปัญหา)
 
ปรากฏการณ์กับธาตุแท้ของคนในสังคมไทยไปคนละทาง สังเกตได้จากวินัยการจราจร ที่ต้องมีการรณรงค์ต่างๆ นานา เพื่อลดอุบัติเหตุในเทศกาลต่างๆ ให้คนไทยตายน้อยที่สุดในแต่ละเทศกาลของแต่ละปี แต่ดูเหมือนว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ลดลง หรือมีแต่ตะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามค่านิยมที่ผิดๆ ของคนไทยยุคปัจจุบัน
 
ปรากฏการณ์ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างหนึ่งคือ จารีตทางเพศของคนไทยในปัจจุบันที่ไร้ยางอายมากขึ้น ถือตามฝรั่งมังค่าว่าทันยุคทันสมัย ฝรั่งไม่ถือเนื้อถือตัว และไม่ค่อยสนใจเรื่องสำส่อนทางเพศ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงสังคมไทยและศาสนาพุทธของคนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัญหาจารีตทางเพศมากมาแต่โบราณ ดังจะเห็นได้จากเพลงกล่อมเด็ก วรรณกรรมท้องถิ่น การละเล่นพื้นบ้าน โดยเฉพาะหนังตะลุงของชาวใต้ที่มุ่งเน้นสอนจริยธรรม จรรยาบรรณทางเพศของผู้หญิงและผู้ชายให้อยู่กับร่องกับรอยตามจารีตของสังคม
 
จะเห็นว่าสิ่งแวดล้อมทรงอิทธิพลมากกว่าพันธุกรรม เพราะไม่ว่าเราจะมีสีผิวแบบไหน ผิวเหลือง หรือผิวดำ เราต่างมีรสนิยมในการแต่งกาย การกินอาหาร การบันเทิง ฯลฯ แบบคนผิวขาวในอีกซีกโลกหนึ่ง เพราะเราได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมจากแดนไกล
 
เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน คนและวัฒนธรรมของคนก็เปลี่ยนไปเป็นธรรมดา.
 


กำลังโหลดความคิดเห็น