xs
xsm
sm
md
lg

ญาติร้องสื่อ คดียิงสาหัส 3 รายกลางเมืองภูเก็ตไม่คืบ ขณะเพื่อนมือปืนโพสต์ขู่“ทำไมไม่ยิงให้ตายยกครัว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - น้องสาวผู้บาดเจ็บจากเหตุถูกคนร้ายยิงภายในบ้าน บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ร้องมายังสมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต คดีไม่คืบ คนร้ายยังลอยนวล เกรงจะย้อนมาทำร้ายในโรงพยาบาล เพราะมีการแสดงความคิดเห็นกันในโซเชียลของเพื่อนคนร้าย ว่า “ทำไมไม่ยิงให้ตายยกครอบครัว” ด้าน ผกก.สภ.วิชิต เผยคดีคืบหน้าไปมากแล้ว มีการออกหมายจับคนร้ายแล้วแต่ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ภูเก็ต จัดชุดเฝ้าติดตามตัวอย่างใกล้ชิด

จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 9 เม.ย.61 ที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 41 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณท้อง อาการสาหัส น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อายุ 43ปี ถูกยิงเข้าบริเวณท้องทะลุปอด อาการสาหัส และ นายธนวัฒน์ เคียงจันทร์ อายุ 20 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณหลังกระสุนฝังใน ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นพ่อแม่ลูก ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เหตุเกิดที่ บริเวณบ้านเลขที่ 12/391 หมู่บ้านธินวุฒิ 3 ม.3 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/390 อยู่ติดกับบ้านของผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา น้องสาวผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อายุ 43 ปี ได้ส่งข้อความร้องเรียนมายังสมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความชัดเจนการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุข้อความว่า “ตามข่าวที่ โดนบุกยิงพ่อแม่ลูก ที่หมู่บ้านธินวุฒิ 3 ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561 เวลา 23.30 น. จนถึงวันนี้ คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ ยังจับคนร้ายไม่ได้ที ตำรวจมาหาครั้งเดียว และไม่มาอีกเลย ตอนนี้ผู้บาดเจ็บ พักรักษาตัวอยู่ รพ.วชิระภูเก็ต นางสาวอุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู อาการหนัก ส่วนลูกชายและสามีก็ผ่าตัดมาแล้วหลายครั้ง เราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครเลย พ่อแม่ของมือปืนก็ไม่มาเลย น้องขอความเห็นใจ พี่ๆนักข่าวให้ช่วยเหลือที ครอบครัวหนูก็เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้จะไปพึ่งใครคะ ตอนนี้ทางญาติเดือดร้อนมาก ร้อนใจมาก ขอความเมตตากับพี่ๆนักข่าวคะ ช่วยพี่สาวหนูทีนะคะ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามไปยัง น้องออย ซึ่งเป็นน้องสาวผู้บาดเจ็บ พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจาก น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อาการยังสาหัสและอาการทรุดลงอีก แพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียูอีกครั้ง และยังมีกระสุนฝังอยู่อีก 2-3 จุดโดยทีมแพทย์ยังผ่าเอาออกไม่ได้เนื่องจากฝังอยู่ในอวัยวะที่สำคัญ ส่วนนายสมชาย เคียงจันทร์ อาการยังทรงตัวแต่แพทย์ยังดูอาการอย่างใกล้ชิด และบุตรชายของผู้บาดเจ็บแพทย์ต้องผ่าตัดกระสุนที่ฝังอยู่กระสันออก แต่ยังผ่าออกไม่ได้ เนื่องจากยังมีเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก

“ขณะนี้งานการแสดงนาฎศิลป์ที่ครอบครัวของพี่สาวรับไว้ก็ต้องยกเลิกหมดเลย และเงินก็ไม่มีเข้ามาทางครอบครัวจึงเดือนร้อนมาก ซึ่งตนและเพื่อนๆ ของผู้บาดเจ็บต้องคอยสลับสับเปลี่ยนกันมาเฝ้าดูแลผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย เพราะยังเกรงความไม่ปลอดภัยของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน” น้องออย กล่าวและว่า

เนื่องจากคนร้ายยังไม่ถูกจับกุม และเกรงว่าคนร้ายจะย้อนมาทำร้ายภายในโรงพยาบาล เพราะมีการแสดงความคิดเห็นกันในสื่อโซเซียลของเพื่อนคนร้าย ว่า “ทำไมไม่ยิงให้ตายยกครอบครัว” ทำให้ตนและเพื่อนๆ หวาดกลัวเป็นอย่างมาก จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายด้วย และอยากให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต ถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าว ว่า คดีได้คืบหน้าไปมากแล้ว หลังจากเกิดเหตุตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และมีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไว้ทั้งหมด จนพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ขอศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติหมายจับ นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 12/390 ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ตามหมายจับที่ จ 221/61 ลง 10 เม.ย.61 ซึ่งต้องหากระทำความผิดว่า พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และทราบว่า คนร้ายรายนี้หลังจากก่อเหตุเสร็จได้หลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ตไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ต่างจังหวัด และขณะนี้ได้จัดชุดสืบสวนเฝ้าติดตามจับคนร้ายอย่างใกล้ชิด


กำลังโหลดความคิดเห็น