ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หมาเป็นเหตุเห่าเสียงดัง ทำเพื่อนบ้านอารมณ์เสีย ใช้อาวุธปืนยิงเรียงตัวครอบครัวเจ้าของหมาซึ่งอาศัยอยู่บ้านติดกัน ส่งผลบาดเจ็บ 3 ราย ส่วนเพื่อนบ้านปืนโหดยังหลบหนี ตร.เร่งตามจับดำเนินคดี
เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วานนี้ (9 เม.ย.) ร.ต.ท.หญิงขวัญสิรินาฏ ไทยราช รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.วิชิต ว่า เกิดเหตุยิงกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย โดยเหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 12/391 หมู่บ้านธินวุฒิ 3 หมู่ 3 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผู้กำกับการตำรวจภูธรวิชิต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคราบเลือดบริเวณหน้าบ้าน และมีรอยเลือดไหลเป็นทางออกมาจากด้านในบ้าน จนถึงประตูรั้วบ้าน เมื่อเข้าสำรวจบริเวณหน้าบ้านภายในรั้วบ้าน พบปลอกกระสุนปืน จำนวน 6 ปลอด และลูกกระสุนปืน จำนวน 1 นัด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า มี 3 คน และเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย นายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 41 ปี ถูกยิงอาการสาหัส น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อายุ 43 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเช่นเดียวกัน และนายธนวัฒน์ เคียงจันทร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายสมชาย และ น.ส.อุรารัตน์ ถูกยิงได้อาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน น.ส.อุรารัตน์ และนายธนวัฒน์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ นายธนวัฒน์ฯ พร้อมด้วยครอบครัวกำลังรับประทานอาหารภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้มี นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/390 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของผู้บาดเจ็บ ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ พร้อมตะโกนบอกว่า “ช่วยเงียบเสียงของสุนัขให้หน่อย” หลังจากนั้น นายพันปกรณ์ ได้เดินกลับไป
ขณะที่ นายธนวัฒน์ ได้พยายามทำให้สุนัขเงียบเสียง โดยการนำมาขังไว้ในห้อง แต่สุนัขยังคงส่งเสียงดังเห่าอยู่เหมือนเดิม จากนั้น นายพันปกรณ์ ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ อีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืนด้วยท่าทางโมโหหนักมาก และได้เล็งอาวุธปืนยิงเข้าไปที่ น.ส.อุรารัตน์ มารดาของ นายธนวัฒน์ ซึ่งนายธนวัฒน์ เห็นดังนั้นจึงได้เข้าไปห้าม แต่กลับถูกนายพันปกรณ์ ยิงสวนกลับมาที่ตนจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโคนขาขวา ทันใดนั้น บิดาของนายธนวัฒน์ ได้พูดขอร้องนายพันปกรณ์ ว่า “อย่ายิง อย่ายิง” แต่นายพันปกรณ์ ไม่ฟังกลับเล็งอาวุธปืนไปที่นายสมชาย บิดาของนายธนวัฒน์ และยิงรัวเข้าไปที่ร่างของนายสมชาย จำนวนหลายนัด
หลังก่อเหตุ นายพันปกรณ์ ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน จากนั้นนายธนวัฒน์ จึงได้คลานออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านแต่ก็ไม่พบผู้ใด จึงได้โทรศัพท์เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมคนร้ายดำเนินคดี
เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วานนี้ (9 เม.ย.) ร.ต.ท.หญิงขวัญสิรินาฏ ไทยราช รอง สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.วิชิต ว่า เกิดเหตุยิงกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย โดยเหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 12/391 หมู่บ้านธินวุฒิ 3 หมู่ 3 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผู้กำกับการตำรวจภูธรวิชิต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคราบเลือดบริเวณหน้าบ้าน และมีรอยเลือดไหลเป็นทางออกมาจากด้านในบ้าน จนถึงประตูรั้วบ้าน เมื่อเข้าสำรวจบริเวณหน้าบ้านภายในรั้วบ้าน พบปลอกกระสุนปืน จำนวน 6 ปลอด และลูกกระสุนปืน จำนวน 1 นัด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า มี 3 คน และเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย นายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 41 ปี ถูกยิงอาการสาหัส น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อายุ 43 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเช่นเดียวกัน และนายธนวัฒน์ เคียงจันทร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายสมชาย และ น.ส.อุรารัตน์ ถูกยิงได้อาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน น.ส.อุรารัตน์ และนายธนวัฒน์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ นายธนวัฒน์ฯ พร้อมด้วยครอบครัวกำลังรับประทานอาหารภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้มี นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/390 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของผู้บาดเจ็บ ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ พร้อมตะโกนบอกว่า “ช่วยเงียบเสียงของสุนัขให้หน่อย” หลังจากนั้น นายพันปกรณ์ ได้เดินกลับไป
ขณะที่ นายธนวัฒน์ ได้พยายามทำให้สุนัขเงียบเสียง โดยการนำมาขังไว้ในห้อง แต่สุนัขยังคงส่งเสียงดังเห่าอยู่เหมือนเดิม จากนั้น นายพันปกรณ์ ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ อีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืนด้วยท่าทางโมโหหนักมาก และได้เล็งอาวุธปืนยิงเข้าไปที่ น.ส.อุรารัตน์ มารดาของ นายธนวัฒน์ ซึ่งนายธนวัฒน์ เห็นดังนั้นจึงได้เข้าไปห้าม แต่กลับถูกนายพันปกรณ์ ยิงสวนกลับมาที่ตนจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโคนขาขวา ทันใดนั้น บิดาของนายธนวัฒน์ ได้พูดขอร้องนายพันปกรณ์ ว่า “อย่ายิง อย่ายิง” แต่นายพันปกรณ์ ไม่ฟังกลับเล็งอาวุธปืนไปที่นายสมชาย บิดาของนายธนวัฒน์ และยิงรัวเข้าไปที่ร่างของนายสมชาย จำนวนหลายนัด
หลังก่อเหตุ นายพันปกรณ์ ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน จากนั้นนายธนวัฒน์ จึงได้คลานออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านแต่ก็ไม่พบผู้ใด จึงได้โทรศัพท์เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมคนร้ายดำเนินคดี
