ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ยอมจำนน! คนร้ายยิง “ร.ต.ต.” สาวรวัตรจราจร สภ.คง โคราช บาดเจ็บ ยอมมอบตัวแล้ว หลังตำรวจระดมกำลังนับ 100 นายกดดัน พร้อมนำแม่กล่อมนานกว่า 2 ชม. ด้านตำรวจบาดเจ็บกระสุนฝังในส่งรักษาต่อ รพ.มหาราช ผู้การฯ รุดตรวจจุดเกิดเหตุ ชี้ตำรวจเข้าระงับพลาดถูกยิงเหตุไม่ทราบคนร้ายมีปืน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พล.ต.ต.พัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง ได้รับบาดเจ็บขณะที่เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทภายในครอบครัว ว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษจาก สภ.บัวใหญ่ และชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ระดมกำลังเข้าปิดล้อมกดดันคนร้ายที่ปักหลักอยู่ภายในบ้านเลขที่ 118 หมู่ 6 บ้านห้วยทราย ต.หนองมะนาว อ.คง จ.นครราชสีมา ทราบชื่อต่อมา คือ นายพรเพชร หรือเพชร ชัยประดิษฐ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 6 บ้านห้วยทราย ต.หนองมะนาว อ.คง และให้มารดาช่วยเกลี้ยกล่อม ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง คนร้ายจึงยอมออกมามอบตัวพร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.คง จ.นครราชสีมา เพื่อระงับสติอารมณ์ก่อนทำการสอบปากคำและแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ ร.ต.ต.เศวต บุญประสบ สารวัตรจราจร สภ.คง ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณโคนขาขวา จากการตรวจเบื้องต้นกระสุนฝังในแต่ไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่ ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลคงส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ขณะเดียวกันได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจบริจาคเลือดกรุ๊ป AB สำรองไว้หากแพทย์ต้องการเลือดในการรักษาด้วยการฝ่าตัดเพิ่มเติม ขณะนี้ ร.ต.ต.เศวต อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
พล.ต.ต.พัชรินทร์กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุลูกชายทำร้ายมารดาอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ร.ต.ต.เศวต อยู่ระหว่างเดินทางไปบรรยายให้ความรู้ด้านการจราจรแก่ประชาชนใกล้จุดที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งจึงนำกำลังอีกประมาณ 3 นายเข้าไปตรวจสอบ ขณะเดินเข้าไปถูกคนร้ายยิงใส่ทันทีโดยไม่ทันตั้งตัวจึงได้รับบาดเจ็บ
“ยืนยันว่าตำรวจเองไม่ได้ประมาท ทำตามทุกขั้นตอนที่ถูกฝึกมา เพียงแต่พลาดคิดว่าคนร้ายไม่มีอาวุธปืนจึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ขณะนี้กำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุและประมวลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน” พล.ต.ต.พัชรินทร์ กล่าวในตอนท้าย