นราธิวาส - ชาวสวนยาง และเจ้าของที่ดินร้างในพื้นที่นราธิวาสเฮลั่น หลังภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์ จำกัด ร่วมส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างรายได้เสริม
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนวิว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการส่งเสริมธุรกิจปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้สโลแกน “ชาวนราร่วมใจสร้างเศรษฐกิจสีเขียวเมืองป่าไม้ สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ หรือดั๊บเบิ้ลเอ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์ จำกัด กับธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสงเคราะห์สวนยางพารา รวมทั้งกรมป่าไม้เห็นชอบ เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส ตะเคียนทอง กันเกรา พะยูง และไม้ชิงชัน ในร่องสวนยางพารา หรือที่ดินว่างเปล่า และนาร้างของชาวบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากไม้เศรษฐกิจจำพวกนี้เมื่อปลูกโตได้ขนาดสามารถตัดขายให้แก่กลุ่มสวนกิตติ หรือดั๊บเบิ้ลเอ รวมทั้งบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์ จำกัด ได้ ซึ่งทาง 2 บริษัทภาคเอกชนจะรับประกันราคาซื้อ
ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าของสวนยางพารา ชาวบ้านที่มีที่ดิน และที่นาร้าง จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมพื้นที่ การตัดและการนำเคลื่อนที่ รวมทั้งการส่งออกและการขึ้นทะเบียนไซเตรส รวมทั้งรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับซึ่งอยู่ที่ปริมาณพื้นที่ปลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลังจากประชุมแล้วเสร็จเจ้าของสวนยางพารา เจ้าของที่ดิน และเจ้าของที่นาร้างได้แสดงความจำนงลงทะเบียนที่จะปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าว
ด้าน นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ถือเป็นโครงการดีๆ อีกโครงการหนึ่งที่ได้มีการบูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานราชการกับภาคเอกชน ที่ได้นำแนวทางช่วยเหลือและสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการปลูกป่าซึ่งเป็นป่าเศรษฐกิจเชิงอนุรักษ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหายางพาราเป็นปัญหาที่ค่อนข้างสร้างความลำบากใจให้แก่เกษตรกรที่ราคายางพาราตกต่ำ
ซึ่งโครงการนี้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะมาเสริม คือ เรื่องการปลูกเสริมในร่องสวนยางพารา หรือพื้นที่ที่รกร้างอยู่ รวมทั้งหัวไร่ปลายนา ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความสมดุลให้แก่ธรรมชาติ รวมทั้งการปรับสภาพระดับความชื้นในดิน เช่น ไม้พะยูง ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชัน และไม้ไผ่ เป็นไม้ที่ขึ้นเหมาะต่อสภาพพื้นที่ จ.นราธิวาส อีกทั้งยังเป็นการออมเงิน เมื่อถึงระยะหนึ่งเมื่อไม้เศรษฐกิจโตได้ขนาดก็สามารถตัดจำหน่ายได้ ซึ่งมันสามารถช่วยเสริมได้ในบางช่วงเวลาที่ยางพาราผลัดใบ ในห้วงที่ฝนตก ที่สามารถทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม