แฉ! ป่าภาคใต้วิกฤตถูกลักลอบตัดนับแสนไร่ จวกเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวผลประโยชน์

 
ยะลา - ชุด ฉก.ตชด.44 พบการลักลอบตัดไม้ในอุทยานแห่งชาติบูโดฯ จ.นราธิวาส เผยเกือบทุกจุดอยู่ใกล้ฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดเอื้อประโยชน์ต่อกัน และส่วนมากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าต้นน้ำ เชื่อมีทั้งชาวบ้าน กลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ

วันนี้ (17 ธ.ค.) ร.ต.ท.อรุณ กุลกัลยา เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 (ฉก.ตชด.44) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจาก พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ผอ.กอ.รมน.ภาค 4/มทภ.4 และ พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผกก.ตชด.44 ได้มีคำสั่งให้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบูโดฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดการแก้ปัญหาลักลอบตัดไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโดฯ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านพบว่า ในพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี บริเวณพื้นที่เขาตะเว บ้านกูยิ ม.4 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส มีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และลักลอบแปรรูปไม้เพื่อการค้าเป็นจำนวนมาก

คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่ป่าต้นน้ำ ฝายกั้นน้ำบ้านกูยิ ม.4 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จนพบร่องรอยช้าง และคนชักลากไม้แปรรูปลงจากยอดเขา ถึงบนภูเขาสูง และยังตรวจพบร่องรอยช้าง และคนชักลากไม้จากบนภูขาสูง เดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ขณะจะเข้าจับกุม ผู้ที่ลักลอบตัดไม้รู้ตัว และหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพื้นบริเวณที่ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ พบไม้แปรรูป จำนวน 8 จุด โดยเป็นไม้ตะเคียนชันตาแมว ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530
 

 
โดยจุดที่ 1 พบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่น จำนวน 3 ต้น ตรวจพบการลักลอบแปรรูปไม้ที่ยังไม่เสร็จ ซึ่งยังเป็นร่องรอยใหม่ และได้ตรวจยึดไม้ตะเคียนชันตาแมว แปรรูป จำนวน 47 แผ่น ปริมาตร 1.92 ลูกบาศก์เมตร จุดที่ 2 พบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นเก่า จำนวน 1 ต้น ตรวจพบการลักลอบแปรรูปไม้ยังไม่เสร็จ ยึดไม้ตะเคียนชันตาแมว จำนวน 19 แผ่น ปริมาตร 0.38 ลูกบาศก์เมตร จุดที่ 3-4-5 ใกล้กันพบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่น จำนวน 3 ต้น ตรวจพบลักลอบแปรรูปไม้ยังไม่เสร็จ และยังตรวจพบไม้แปรรูปใหม่วางระเกะระกะอยู่ในป่าจุดลักลอบแปรรูปไม้

นอกจากนี้ ยังพบไม้บั่นทอน และไม้ตัดโค่นล้มคาตอ จึงได้ตรวจยึดไม้ตะเคียนชันตาแมว แปรรูป จำนวน 55 แผ่น ไม้ตะเคียนชันตาแมวซีก ของกลาง จำนวน 3 แผ่น ไม้ตะเคียนชันตาแมว จำนวน 3 ท่อน ยึดเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์สิ่งของอื่นๆ จำนวน 18 รายการ เหตุเกิดที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบองอ ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี บริเวณเขาตะเว บ้านกูยิ ม.4 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
 

 
ร.ต.ท.อรุณ กล่าวว่า ทีมงานได้เดินเท้าเข้าสำรวจบริเวณเทือกเขาตะเว ตั้งแต่วันที่ 15-17 ธ.ค. พบจุดลักลอบตัดไม้ประมาณ 10 จุด แต่ละจุดมีไม้เนื้อแข็งจำพวกตะเคียนชันตาแมว และไม้หลุมพอ อายุ 100-200 ปีขึ้นไป ถูกตัดโค่น และแปรรูปในพื้นที่แต่แห่งละ 3-10 ต้น ทั้งนี้ ลักษณะการลักลอบตัดเป็นแบบกระจาย แต่ละจุดมีรัศมีประมาณ 4-5 กิโลเมตร จึงทำให้เจ้าหน้าดูไม่ออกว่าพื้นที่นี้มีไม้ถูกลอบตัด อีกทั้งทางเข้าออกยังมีแค่ทางเดียว และเป็นพื้นที่สีแดง ทำให้การเข้าสำรวจ และปราบปรามเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งราคาไม้ที่แปรรูปแล้วตกตารางนิ้วละ 25 บาท เป็นสิ่งจูงใจชั้นดีให้นายทุนเข้ามาซื้อตัวชาวบ้านในพื้นที่เข้าลักลอบตัดไม้ ซึ่งราคาที่ได้ต่อต้นนั้นนับล้านบาท ฉะนั้น มูลค่าความเสียหายล่าสุดที่พบจุดลักลอบตัดไม้ในครั้งนี้กล่าวได้ว่าเป็นเงินหลายล้านบาท

“ที่น่าสนใจคือ จุดที่ถูกลอบตัดไม้เกือบทุกจุดอยู่ใกล้กับฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อกัน และส่วนมากพื้นที่นั้นๆ ยังเป็นป่าต้นน้ำ หรือใกล้แหล่งประปาหมู่บ้าน ซึ่งน่าห่วงว่าการลักลอบตัดไม้ในอุทยานแห่งชาติบูโดฯ ที่มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และนอกพื้นที่ กลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติ รู้เห็นเป็นใจ จะไม่ใช่แค่ความสูญเสียทางระบบนิเวศที่ป่าถูกทำลาย แต่ยังกระทบต่อแหล่งเพาะพันธุ์นกเงือก รวมถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งเป็นความเสียหายมหาศาลในระยะยาวด้วย” เจ้าหน้าที่หน่วย ฉก.ตชด.44 ชี้แจงเพิ่มเติม
 

 
ส่วนแนวทางในการแก้ไขเบื้องต้น ร.ต.ท.อรุณ กล่าวว่า อาศัยข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ในการสอดส่องดูแลการตัดป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าอาจเกี่ยวโยงกับขบวนการตัดไม้ เจ้าหน้าที่ได้นำดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์กับหลักฐานในพื้นที่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบผล

“เหตุการณ์ลักลอบตัดไม้ในภาคใต้นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ไม่ใช่เพียงแต่ป่าอุทยานแห่งชาติฯ แต่ในส่วนของวนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนป่าสิริกิติ์ ฯลฯ ก็ถูกบุกรุกเช่นกัน แต่ใน จ.นราธิวาส จะเป็นการตัดไม้แปรรูปขาย เช่น ส่งทำเฟอร์นิเจอร์ สร้างบ้าน ขณะที่ใน จ.ยะลา จะเป็นการตัดไม้ถางป่าเพื่อครอบครองพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งจากการลาดตระเวนจับกลุ่มลักลอบตัดไม้มา 10 ปี จับดำเนินคดีแล้วกว่า 1,000 คดี เฉลี่ยปีละ 100 คดี ขนาดตั้งแต่ 1-300 ไร่ เพียงแต่ข่าวถูกกลบด้วยเหตุความไม่สงบ หรือข่าวไฟไหม้ป่าพรุที่เกิดจากการจุดโดยคน อยากให้เจ้าหน้าที่ระดับบนลงมาดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเลิกละเว้นการปฏิบัติ หรือรับผลประโยชน์ สถานการณ์ลักลอบตัดไม้ในภาคใต้จะดีกว่านี้” หัวหน้าหน่วย ฉก.ตชด.44 กล่าว